Dictatorship means one-man or one-p

Dictatorship means one-man or one-party political rule and all totalitarian regimes, to right or life, have adopted essentially the same technique. The leader or dictator who stands at head obviously cannot do everything by himself. He rule through an elite or selected ruling class and this class is the party which is the basis of the system. It is, therefore, the very antithesis of democracy. Democracy, according to the dictators and their apologists, is a decaying corpse because it is “stupid, coitupt and slowmoving.” Parliaments, it was maintationed, are mere talking shops, “incapable of accomplishing results, at times of emergency they are absolutely helpless.” Since modern dictatorship is one-man or one-party rule, it permits no political opposition and is hostile to individual liberty. Individual Liberty, according to Comunism, is a bourgeois conception, and Fascism and Naziism both, regarded it as a fetish of the past. The individual, it is said, has no life apart from the State, and so he must be completely subordinated to it. The totalitarian State, thus, does not give to its subjects the right speech, the right to press, the right to assembly and all those rights which characterize the individual’s life in a democratic State. In the USSR where they were conceded, they were subordinated to the cause of socialism and a society, the ideal of Naziism and Fascism was “one reich,one people, pne leader.” The fascist oath read : “In the name of God and Italy, I swaear to execute without discussion the orders of the Duce and to serve with all my strength and if necessary with my blood the cause of the fascist revolution.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เผด็จการหมายถึง one-man หรือกฎการเมืองพรรคหนึ่งและทั้งหมดระบอบคริสต์ ขวาหรือชีวิต ได้นำหลักเทคนิคเดียวกัน ผู้นำหรือเผด็จการที่ยืนที่หัวอย่างชัดเจนไม่สามารถทำทุกอย่างเอง เขาปกครองผ่านชั้นการปกครองชนชั้นสูง หรือเลือก และระดับนี้เป็นบุคคลซึ่งเป็นพื้นฐานของระบบ ได้ ดังนั้น แอนติเธซิสมากประชาธิปไตย ประชาธิปไตย เผด็จการตาม apologists ของพวกเขา เป็นศพ decaying เพราะมัน "โง่ coitupt และ slowmoving" Parliaments มันถูก maintationed เป็นเพียงพูดถึงร้านค้า "หมันบรรลุผล เวลาฉุกเฉิน พวกเขาจะกำพร้าจริงๆ" ตั้งแต่สมัยเผด็จเป็น one-man หรือ ฝ่ายหนึ่งกฎ อนุญาตไม่ค้าน และเป็นศัตรูกับเสรีภาพแต่ละ เสรีภาพแต่ละ ตาม Comunism เป็นความคิดที่ชนชั้นกลาง และฟาสซิสต์และ Naziism ทั้งสอง ถือว่าเป็นเครื่องรางในอดีต การละ กล่าว มีชีวิตไม่แตกต่างจากรัฐ และดังนั้น เขาต้องจะสมบูรณ์ subordinated จะ รัฐคริสต์ ดังนั้น ไม่ให้เรื่องของสัมมาวาจา ขวากด สิทธิในการชุมนุม และสิทธิเหล่านั้นทั้งหมดซึ่งลักษณะของชีวิตของบุคคลในรัฐประชาธิปไตย ในสหภาพโซเวียตที่ถูก conceded พวกเขาถูกรองสาเหตุของสังคมนิยมและสังคม ของ Naziism และฟาสซิสต์คือ "หนึ่ง reich หนึ่งคน pne ผู้นำ" อ่านสาบาน fascist: "ในพระเจ้าและอิตาลี ฉัน swaear ดำเนินการใบสั่ง Duce โดยสนทนา และ ให้บริการ ด้วยความแรงของฉันทั้งหมดและ ถ้าจำเป็น ด้วยสาเหตุของการปฏิวัติ fascist เลือดของฉัน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การปกครองแบบเผด็จการหมายถึงผู้ชายคนหนึ่งหรือกฎทางการเมืองพรรคเดียวและระบอบเผด็จการทั้งหมดไปทางขวาหรือชีวิตได้นำหลักเทคนิคเดียวกัน ผู้นำเผด็จการหรือที่ยืนอยู่ที่หัวชัดไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาปกครองผ่านชนชั้นปกครองหรือชนชั้นเลือกและชั้นนี้เป็นบุคคลซึ่งเป็นพื้นฐานของระบบที่ มันจึงเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามมากของระบอบประชาธิปไตย ประชาธิปไตยตามที่เผด็จการและ apologists ของพวกเขาเป็นศพเน่าเปื่อยเพราะมันคือ "โง่ coitupt และ slowmoving." รัฐสภามันก็ maintationed, ร้านค้าพูดเพียง "ความสามารถในการผลการประสบความสำเร็จในช่วงเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉินที่พวกเขาจะทำอะไรไม่ถูกอย่างแน่นอน . "นับตั้งแต่การปกครองแบบเผด็จการที่ทันสมัย​​เป็นคนเดียวหรือกฎหนึ่งของบุคคลที่จะอนุญาตให้ไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองและเป็นศัตรูกับเสรีภาพส่วนบุคคล เสรีภาพส่วนบุคคลตาม Comunism เป็นความคิดของชนชั้นกลางและลัทธิฟาสซิสต์และ Naziism ทั้งสองได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องรางที่ผ่านมา บุคคลที่จะกล่าวว่ามีชีวิตที่แตกต่างจากรัฐไม่และเพื่อที่เขาจะต้องด้อยสิทธิสมบูรณ์ไป รัฐเผด็จการจึงไม่ได้ให้อาสาสมัครของคำพูดที่ถูกต้องเหมาะสมที่จะกด, สิทธิในการชุมนุมและสิทธิทุกคนซึ่งลักษณะชีวิตของแต่ละบุคคลในรัฐประชาธิปไตย ในสหภาพโซเวียตที่พวกเขายอมรับว่าพวกเขากำลังด้อยสิทธิที่เป็นสาเหตุของสังคมนิยมและสังคมในอุดมคติของ Naziism และลัทธิฟาสซิสต์เป็นสาบานฟาสซิสต์อ่าน "หนึ่งในรีคคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้นำ PNE." "ในนามของพระเจ้าและ อิตาลีผม swaear ที่จะดำเนินการได้โดยไม่ต้องอภิปรายคำสั่งของผู้นำและการให้บริการกับทุกความแข็งแรงของฉันและหากจำเป็นต้องไปด้วยเลือดของฉันสาเหตุของการปฏิวัติฟาสซิสต์. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปกครองแบบเผด็จการ หมายถึง คนเดียวหรือหนึ่งพรรคการเมืองกฎและระบอบการปกครองเผด็จการทั้งหมด จะ ถูก หรือ ชีวิต ได้ใช้หลักเดียวกัน ) ผู้นำหรือเผด็จการที่ยืนที่หัวก็ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เขาปกครองโดยชนชั้นสูงหรือเลือกเรียนคลาสนี้ คือการปกครองพรรคซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานของระบบ มันจึงเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามของประชาธิปไตยประชาธิปไตยตามเผด็จการ apologists และของพวกเขา คือ ซากศพที่เน่าเปื่อย เพราะมันคือ " โง่ coitupt และ slowmoving " ระบอบ มัน maintationed , เพียงพูดถึงร้านค้า " ไม่สามารถบรรลุผลในเวลาฉุกเฉิน พวกเขาเป็นอย่างหมดหนทาง เพราะเผด็จการสมัยใหม่เป็นคนเดียวหรือกฎหนึ่งพรรคมันอนุญาตให้ไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง และเป็นปฏิปักษ์กับเสรีภาพของแต่ละบุคคล เสรีภาพของบุคคล ตาม comunism คือความคิด ชนชั้นกลาง และลัทธิฟาสซิสต์และ naziism ทั้งคู่ ถือว่าเป็นเครื่องรางของอดีต แต่ละคน มันบอกว่า ไม่มีชีวิตออกจากรัฐ และเขาจะต้องสมบูรณ์กว่าครับ พวกเผด็จการรัฐจึงไม่ได้ให้เรื่องของการพูดที่ถูกต้องสิทธิที่จะกด สิทธิในการชุมนุมและพวกสิทธิ ซึ่งเป็นลักษณะชีวิตของบุคคลในรัฐประชาธิปไตย ในสหภาพโซเวียตที่พวกเขายอมรับพวกเขาเป็นด้อยสิทธิเพื่อสาเหตุของสังคมนิยมและสังคมอุดมคติของ naziism และฟาสซิสต์คือ " หนึ่งในหนึ่งคน หัวหน้า PNE " ฟาสซิสต์คำสาบานอ่าน : " ในนามของพระเจ้า และ อิตาลีผม swaear ประหารโดยไม่มีการอภิปรายใบสั่งของคุและปรนนิบัติด้วยพลังทั้งหมดของฉัน และถ้าเป็นเลือดสาเหตุของการปฏิวัติเผด็จการของฉัน " .