The centerpiece of this temple was

The centerpiece of this temple was covered with gold leaf. It is believed to have been modeled on the Uthong style. It has been called "Luangpor Toh" by the local people. The Chinese merchants respected this Buddha as the God who protected them when they were on the sea for their trade. This image is the oldest and largest Buddha in Thailand. Legend says that when Ayutthaya was about to decline, the Buddha cried. Around 1854, in the reign of King Rama 4th, the Buddha image was rebuilt and renamed "Phra Phutta Trai Rattanayok

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หัวใจสำคัญของวัดนี้ถูกปกคลุม ด้วยใบไม้ทอง เชื่อว่าการสร้างแบบจำลองในแบบอู่ทอง จึงมีการเรียก "Luangpor โต" โดยคนในท้องถิ่น พ่อค้าจีนยอมรับพระนี้เป็นพระที่ป้องกันพวกเขาเมื่อพวกเขาในทะเลเพื่อการค้าของพวกเขา รูปนี้เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตำนานกล่าวว่า เมื่อกรุงศรีอยุธยาได้จะ ลดลง พระร้อง 1854 ในรัชกาลสมเด็จพระราม 4 พระพุทธรูปถูกสร้างใหม่ และเปลี่ยนชื่อ "พระฟ้าฯ บวกเพิ่มโดยอัตโนมัติ Rattanayok

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หัวใจของวัดแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีทอง มันเป็นเรื่องที่เชื่อว่าจะได้รับการจำลองในรูปแบบอู่ทอง มันได้รับการเรียกว่า "หลวงพ่อโต" โดยคนท้องถิ่น พ่อค้าชาวจีนเคารพนับถือพระพุทธรูปนี้เป็นพระเจ้าผู้ทรงปกป้องพวกเขาเมื่อพวกเขาอยู่ในทะเลเพื่อการค้าของพวกเขา ภาพนี้เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตำนานกล่าวว่าเมื่ออยุธยาได้เกี่ยวกับการลดลงของพระพุทธเจ้าร้องไห้ รอบปี 1854 ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 4, พระพุทธรูปได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น "พระพุทธไตร Rattanayok

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดเด่นของวัดนี้ คือ ปิดด้วยทองคำเปลว มันได้เป็นนางแบบในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ลักษณะ มันถูกเรียกว่า " หลวงพ่อโต " โดยคนในท้องถิ่น ชาวจีนนับถือพระพุทธเจ้าเป็นพระเจ้าที่ปกป้องพวกเขาเมื่อพวกเขาอยู่ในทะเลเพื่อการค้าของพวกเขา ภาพนี้เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตำนานกล่าวว่า เมื่ออยุธยากำลังจะลดลงพระพุทธรูปร้องไห้ รอบ 1854 , รัชกาลที่ 4 , พระพุทธรูปถูกสร้างขึ้นมาใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น " พระ phutta ตรัย rattanayok