The Laminar flow theory dealt with

The Laminar flow theory dealt with the development of a symmetrical airfoil section which had the same curvature on both the upper and lower surface. The design was relatively thin at the leading edge and progressively widened to a point of greatest thickness as far aft as possible. The theory in using an airfoil of this design was to maintain the adhesion of the boundary layers of airflow which are present in flight as far aft of the leading edge as possible. On normal airfoils, the boundary layer would be interrupted at high speeds and the resultant break would cause a turbulent flow over the remainder of the foil. This turbulence would be realized as drag up the point of maximum speed, at which time the control surfaces and aircraft flying characteristics would be affected. The formation of the boundary layer is a process of layers of air formed one next to the other, i.e.; the term laminar is derived from the lamination principle involved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีกระแส Laminar พัฒนาส่วน airfoil สมมาตรซึ่งมีขนาดเดียวกันทั้งบน และล่างผิว การออกแบบค่อนข้างบางริมนำ และ widened ไปยังจุดที่หนาที่สุดเท่า aft เป็นความก้าวหน้า ทฤษฎีที่ใช้เป็น airfoil ออกแบบนี้คือการ รักษายึดติดของชั้นขอบเขตของการไหลของอากาศที่อยู่ในเที่ยวบินเป็นไกล aft ของชั้นได้ ในปกติ airfoils ชั้นขอบเขตจะถูกขัดจังหวะที่ความเร็วสูง และแบ่งผลแก่จะทำให้ไหลเชี่ยวผ่านฟอยล์เหลือ ความปั่นป่วนนี้จะรับรู้เป็นลากขึ้นจุดความเร็วสูง ในขณะที่พื้นผิวการควบคุม และลักษณะการบินของเครื่องบินจะได้รับผลกระทบ การก่อตัวของชั้นขอบเขตคือ ชั้นของอากาศกระบวนการรูปหนึ่งติดกัน เช่น คำว่า laminar มาจากหลักการเคลือบเกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีการไหล Laminar เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของส่วน airfoil สมมาตรซึ่งมีความโค้งเดียวกันทั้งพื้นผิวบนและล่าง การออกแบบที่ค่อนข้างบางที่ขอบชั้นนำและกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ถึงจุดของความหนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ท้ายไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทฤษฎีในการใช้ airfoil ของการออกแบบนี้คือการรักษาการยึดเกาะของชั้นขอบเขตของการไหลเวียนของอากาศที่มีอยู่ในเที่ยวบินเท่าท้ายของขอบชั้นนำที่เป็นไปได้ ใน airfoils ปกติชั้นขอบเขตจะถูกขัดจังหวะด้วยความเร็วสูงและการแบ่งผลจะทำให้เกิดการไหลเชี่ยวในช่วงที่เหลือของฟอยล์ ความวุ่นวายนี้จะได้รับการตระหนักว่าการลากขึ้นจุดของความเร็วสูงสุดเวลาที่พื้นผิวการควบคุมและเครื่องบินลักษณะการบินจะได้รับผลกระทบ การก่อตัวของชั้นขอบเขตเป็นกระบวนการของชั้นของอากาศที่เกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปที่อื่น ๆ คือ; ระยะราบเรียบได้มาจากหลักการเคลือบที่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีการไหลแบบราบเรียบจัดการกับการพัฒนาโปรแกรมซึ่งมีความสมมาตรกันทั้งบนและล่างพื้นผิว . การออกแบบที่ค่อนข้างบาง ๆที่ขอบชั้นนำและมีความก้าวหน้าโดยจุดที่หนาที่สุดเท่าที่ท้ายที่สุดทฤษฎีในการใช้แบบของการออกแบบนี้คือการรักษาผิวของชั้นขอบของการไหลของอากาศซึ่งอยู่ในเที่ยวบินไกลหลังน้ำลดจากขอบชั้นนำที่เป็นไปได้ บนปีกเครื่องบินปกติ ขอบชั้นจะถูกขัดจังหวะด้วยความเร็วสูง และแบ่งผลที่จะทำให้เกิดการไหลเชี่ยวกว่าส่วนที่เหลือของฟอยล์ความวุ่นวายนี้จะรู้ว่าเป็นลากขึ้นจุดที่ความเร็ว สูงสุด ในเวลาที่ควบคุมลักษณะพื้นผิวและอากาศยานบินจะได้รับผลกระทบ . การก่อตัวของชั้นขอบเขต คือ กระบวนการของชั้นของอากาศที่เกิดขึ้นหนึ่งต่อไปอื่น ๆเช่น ; ระยะการได้มาจากหลักการ
เคลือบด้วย