Birth and infant outcomes of poor o

Birth and infant outcomes of poor oral health during
pregnancy
There is increasing evidence highlighting the potential impact
of poor maternal oral health on birth and infant outcomes
(Xiong et al. 2006, Silk et al. 2008, Polyzos et al. 2009).
Evidence suggests that periodontal infection may be associated
with adverse pregnancy outcomes. This suggestion is not
a new idea. In 1931, Galloway identified that focal infection
found in teeth, tonsils, sinuses and kidneys pose a risk to the
developing foetus (Galloway 1931). To show the impact on
humans, he studied the dental radiographs of 242 women
presenting for prenatal care and identified those that had a
dental infection (15%, n = 57). These women were then
recommended to undergo dental treatment. Of those who
were treated, none resulted in a miscarriage or stillbirth.
Galloway (1931) concluded that removal of a known focal
infection was more beneficial than allowing it to harbour
throughout pregnancy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คลอดและทารกผลของสุขภาพช่องปากในระหว่างการตั้งครรภ์มีเพิ่มหลักฐานที่เน้นผลกระทบของดีปากสุขภาพของมารดาในทารกและเกิดผล(หยง et al. 2006 ไหมร้อยเอ็ด al. 2008, Polyzos et al. 2009)หลักฐานแสดงให้เห็นว่า โรคเหงือกติดเชื้ออาจเกี่ยวข้องกับผลร้ายตั้งครรภ์ ไม่แนะนำความคิดใหม่ ในปี 1931, Galloway ระบุเชื้อที่โฟกัสพบในฟัน ทอนซิล ไซนัสมีลักษณะ และไตมีความเสี่ยงกับการพัฒนา foetus (Galloway 1931) การแสดงผลมนุษย์ เรียน radiographs ทันตกรรมของหญิง 242นำเสนอการดูแลก่อนคลอด และระบุผู้ที่มีความติดเชื้อทางทันตกรรม (15%, n = 57) ผู้หญิงเหล่านี้ได้แล้วแนะนำให้รับการรักษาทางทันตกรรม ของผู้ที่ได้รับการรักษา ไม่มีผลในการแท้งบุตรหรือทารกตายคลอดGalloway (1931) สรุปว่า เอาของโฟกัสรู้จักติดเชื้อเป็นประโยชน์ยิ่งกว่าให้มันร่มตลอดการตั้งครรภ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกิดและผลทารกสุขภาพช่องปากที่ดีในระหว่างตั้งครรภ์มีเพิ่มมากขึ้นหลักฐานเน้นผลกระทบต่อศักยภาพของสุขภาพของมารดาในช่องปากต่อผลลัพธ์ที่เกิดและทารก(Xiong et al. 2006 ไหม et al. 2008 Polyzos et al. 2009). หลักฐานแสดงให้เห็น ว่าการติดเชื้อปริทันต์อาจจะเกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ผล ข้อเสนอแนะนี้ไม่ได้เป็นความคิดใหม่ ในปี 1931, กัลโลเวระบุว่าการติดเชื้อโฟกัสที่พบในฟันต่อมทอนซิล, รูจมูกและไตก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นทารกในครรภ์พัฒนา (Galloway 1931) เพื่อแสดงให้เห็นผลกระทบต่อมนุษย์เขาศึกษาภาพรังสีทางทันตกรรมของผู้หญิงที่ 242 นำเสนอสำหรับการดูแลก่อนคลอดและมีการระบุผู้ที่มีการติดเชื้อทางทันตกรรม (15%, n = 57) ผู้หญิงเหล่านี้จากนั้นก็แนะนำให้รับการรักษาทางทันตกรรม ของบรรดาผู้ที่ได้รับการรักษาที่ไม่มีผลในการแท้งหรือคลอดทารก. กัลโลเว (1931) สรุปว่าการกำจัดของโฟกัสที่รู้จักกันการติดเชื้อเป็นประโยชน์มากขึ้นกว่าปล่อยให้มันไปยังท่าเรือตลอดการตั้งครรภ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกิดของทารกและผลลัพธ์ของการตั้งครรภ์ในสุขภาพช่องปากไม่ดี

มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเน้นผลกระทบของสุขภาพช่องปากไม่ดี
มารดาและทารกที่คลอดผล
( Xiong et al . 2006 ผ้าไหม , et al . 2008 , polyzos et al . 2552 ) .
หลักฐานแสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อของอวัยวะปริทันต์อาจเกี่ยวข้อง
กับผลลัพธ์ของการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ข้อเสนอแนะนี้ไม่
ความคิดใหม่ ในปี 1931 ,กัลโลเวย์ระบุว่า การพบการติดเชื้อ
ฟัน tonsils sinuses และไต ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อ
การพัฒนาทารกในครรภ์ ( กัลโลเวย์ 1931 ) เพื่อแสดงต่อ
มนุษย์ เขาศึกษารังสีทางทันตกรรมของผู้หญิง 242
เพื่อเสนอการดูแลก่อนคลอด และระบุว่า มีผู้ติดเชื้อเป็น
ทันตกรรม ( 15 เปอร์เซ็นต์ , n = 57 ) ผู้หญิงพวกนี้แล้ว
แนะนำได้รับการรักษาทันตกรรม . ของผู้ที่
ยังถือว่าไม่มีผลในแท้งหรือ stillbirth .
กัลโลเวย์ ( 1931 ) สรุปว่า การรู้จักโฟกัส
การติดเชื้อเป็นประโยชน์กว่าให้มันท่าเรือ
ตลอดการตั้งครรภ์