Rice brans were extracted using com

Rice brans were extracted using commonly used organic solvents such as absolute methanol, ethanol, and acetone as well as aqueous mixtures of those organic solvents. We measured the DPPH radical assay, total phenolic content, and the total flavonoid content in a variety of extract solutions from 4 brans, 3 pigmented rice brans, and 1 brown rice bran, to select the effective extraction solvent for antioxidant activity. The DPPH radical scavengingt3 abilities of pigmented rice bran obtained from different extraction solvents are shown in Table 1. The extract solutions from pigmented rice bran showed approximately 10% to 84% of DPPH radical scavenging ability,depending on the type and concentration of applied solvents. The aqueous mixtures of acetone, ethanol, and methanol showed higher DPPH radical scavenging ability at concentrations of 40% to 80% compared to absolute solvents.others (2009) have reported a similar result previously. The highest DPPH activity was in general obtained with 40% acetone and the DPPH radical scavenging ability of various pigmented rice brans in 40% acetone solvent were 58%, 84%, 34%, and 51% for black, red, green, and brown rice brans, respectively. The total phenolic and flavonoid contents of pigmented rice bran obtained from different extraction solvents ranged from 16 to 709 μg/mL and 9 to 488 μg/mL, respectively . The contents of total phenolic and total flavonoid in pigmented rice bran appeared higher inaqueous mixtures of acetone,ethanol, and methanol in concentrations of 40% to 80% rather than absolute solvents,similar to the result of the DPPH radical scavenging ability of the pigmented rice bran. Regardless of varieties of pigmented rice bran,the contents of the total phenolic and the total flavonoid appeared highest in 40% acetone solvent. In particular, the contents of the total phenolic and the total flavonoid showed a strong correlation with the DPPH radical scavenging ability. This could most likely be attributed to different kinds of antioxidant compounds particularly anthocyanin and proanthocyanin in black and red rice bran (Kong and others 2008; Yao and others 2010). In addition, the antioxidant activity of these components may vary depending on extraction solvent used. The reason for this phenomenon is due to the solvent has a major effect on the composition of the antioxidative compounds (Alothman and others 2009; Lai and others 2009). Finocchiaro and others (2010) found that the DPPH radical scavenging ability
of barley was in decreasing order for a 70% acetone extract, 70% ethanol extract, and a 70% methanol extract, indicating that there were differences in DPPH radical scavenging ability of barley depending on the extraction solvent. Therefore, solvent choice is very important because both contents of antioxidants and antioxidant activity are influenced by solubility in the extraction solvents. Considering the DPPH radical scavenging ability as well as the contents of total phenolic and flavonoid, the best result was obtained from 40% acetone. Therefore, we selected 40% acetone as an extraction solvent for antioxidant study of pigmented rice bran.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้าว brans ถูกสกัดโดยใช้ใช้กันทั่วไปหรือสารทำละลายอินทรีย์เช่นเมทานอลนอน เอทานอ ล และอะซีโตน เป็นอควีผสมหรือสารทำละลายอินทรีย์เหล่านั้น เราวัดทดสอบรุนแรง DPPH ฟีนอเนื้อหารวม และ flavonoid รวมเนื้อหาหลากหลายโซลูชั่นสารสกัดจาก 4 brans, 3 ข้าวหมึก brans และ รำข้าว 1 การเลือกตัวทำละลายสกัดที่มีประสิทธิภาพสำหรับกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระ ความรุนแรง scavengingt3 DPPH ของรำข้าวที่มีสีที่ได้จากการสกัดต่าง ๆ หรือสารทำละลายจะแสดงในตารางที่ 1 โซลูชั่นสารสกัดจากรำข้าวมีสีพบประมาณ 10% 84% ของ DPPH รุนแรง scavenging สามารถ ขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของหรือสารทำละลายที่ใช้ น้ำยาผสมอควี ของอะซีโตน เอทานอล เมทานอลพบ DPPH สูงสามารถ scavenging รุนแรงที่ความเข้มข้นของ 40% ถึง 80% เมื่อเทียบกับ solvents.others แน่นอน (2009) ได้รายงานผลเหมือนก่อนหน้านี้ โดยทั่วไปกล่าวกิจกรรม DPPH สูงสุด 40% อะซิโตนและ DPPH scavenging ความรุนแรงต่าง ๆ มีสีข้าว brans ใน 40% อะซิโตนตัวทำละลายได้ 58%, 84%, 34% และ 51% ในข้าวสีดำ สีแดง สีเขียว และสีน้ำตาล brans ตามลำดับ รวมฟีนอและเนื้อหา flavonoid ของรำข้าวที่มีสีที่ได้รับจากหรือสารทำละลายอื่นสกัดอยู่ในช่วง 16 9-488 μg/mL และ μg 709 mL ตามลำดับ เนื้อหารวมรวม และฟีนอ flavonoid ในรำข้าวมีสีปรากฏ สูง inaqueous ผสมอะซีโตน เอทานอล และเมทานอลในความเข้มข้นของ 40% ถึง 80% แทนที่เป็นแบบสัมบูรณ์หรือสารทำละลาย คล้ายกับผลของ DPPH scavenging ความรุนแรงของรำข้าวที่มีสี ไม่ว่าสายพันธุ์ของรำข้าวมีสี เนื้อหาของฟีนอรวมและ flavonoid รวมปรากฏสูงที่สุดใน 40% อะซิโตนตัวทำละลาย โดยเฉพาะ เนื้อหารวมฟีนอและ flavonoid รวมแสดงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งสามารถ scavenging รุนแรง DPPH นี้อาจจะเกิดจากสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่าง ๆ สารประกอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีโฟเลทสูง และ proanthocyanin ในรำข้าวสีดำ และสีแดง (กงและอื่น ๆ 2008 ยาวและผู้อื่น 2010) นอกจากนี้ กิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระส่วนประกอบเหล่านี้อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับตัวทำละลายสกัดที่ใช้ เหตุผลสำหรับปรากฏการณ์นี้เนื่องจากตัวทำละลายมีผลสำคัญในองค์ประกอบของสาร antioxidative (Alothman และอื่น ๆ 2009 ลายและอื่น ๆ 2009) Finocchiaro และอื่น ๆ (2010) พบว่าความสามารถ scavenging รุนแรง DPPHของข้าวบาร์เลย์ได้ที่ลดลงแยกสั่งเป็น 70% อะซิโตน สารสกัด 70% เอทานอล และสารสกัด จากเมทานอล 70% เป็น การบ่งชี้ว่า มีความแตกต่างของ DPPH scavenging ความรุนแรงของข้าวบาร์เลย์ขึ้นอยู่กับตัวทำละลายสกัด ดังนั้น ทางเลือกตัวทำละลายเป็นสิ่งสำคัญมากเนื่องจากทั้งเนื้อหาของสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระกิจกรรม influenced โดยละลายในการสกัดหรือสารทำละลาย พิจารณาความ scavenging รุนแรง DPPH เป็นเนื้อหาของฟีนอรวมและ flavonoid ว่าได้รับจาก 40% อะซิโตน ดังนั้น เราเลือก 40% อะซีโตนเป็นตัวทำละลายสกัดการศึกษาสารต้านอนุมูลอิสระของรำข้าวที่มีสี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Brans ข้าวสกัดที่ใช้กันทั่วไปโดยใช้ตัวทำละลายอินทรีย์เช่นเมทานอลแน่นอนเอทานอลและอะซีโตนเช่นเดียวกับการผสมน้ำของตัวทำละลายอินทรีย์เหล่านั้น เราวัดการทดสอบที่รุนแรง DPPH เนื้อหาฟีนอลทั้งหมดและเนื้อหา avonoid รวมชั้นในหลากหลายโซลูชั่นสารสกัดจาก 4 Brans, Brans 3 สีข้าวและรำข้าว 1 สีน้ำตาล, สีเพื่อเลือกตัวทำละลายที่มีประสิทธิภาพสำหรับการสกัดสารต้านอนุมูลอิสระ ความสามารถ scavengingt3 อนุมูลอิสระ DPPH ของรำข้าวเม็ดสีที่ได้จากการสกัดตัวทำละลายที่แตกต่างกันจะแสดงในตารางที่ 1 การแก้ปัญหาสารสกัดจากรำข้าวสีแสดงให้เห็นว่าประมาณ 10% ถึง 84% ของความสามารถในการขับ DPPH รุนแรงขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของตัวทำละลายที่ใช้ ผสมน้ำของอะซีโตนเอทานอลและเมทานอลแสดงความสามารถต้านอนุมูล DPPH ที่สูงขึ้นที่ระดับความเข้มข้น 40% ถึง 80% เมื่อเทียบกับ solvents.others แน่นอน (2009) ได้มีการรายงานผลที่คล้ายกันก่อนหน้านี้ กิจกรรม DPPH สูงสุดคือโดยทั่วไปได้ด้วยอะซิโตน 40% และความสามารถในการต้านอนุมูล DPPH ของ Brans ข้าวเม็ดสีต่าง ๆ ใน 40% อะซีโตนตัวทำละลายได้รับ 58%, 84%, 34% และ 51% สำหรับสีดำ, สีแดง, สีเขียวและสีน้ำตาล ข้าว brans ตามลำดับ ฟีนอลรวมและเนื้อหา avonoid ชั้นของรำข้าวเม็ดสีที่ได้จากการสกัดตัวทำละลายที่แตกต่างกันอยู่ในช่วง 16-709 ไมโครกรัม / มิลลิลิตรและ 9-488 ไมโครกรัม / มิลลิลิตรตามลำดับ เนื้อหาของฟีนอลรวมและ avonoid ชั้นรวมในรำข้าวสีปรากฏผสมสูง inaqueous ของอะซีโตนเอทานอลและเมทานอลในระดับความเข้มข้น 40% ถึง 80% มากกว่าตัวทำละลายแน่นอนคล้ายกับผลมาจากความสามารถในการต้านอนุมูล DPPH ของข้าวเม็ดสี รำข้าว โดยไม่คำนึงถึงความหลากหลายของรำข้าวสีเนื้อหาของฟีนอลรวมและ avonoid ชั้นรวมที่ปรากฏที่สูงที่สุดใน 40% ตัวทำละลายอะซีโตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหาของฟีนอลรวมและ avonoid ชั้นทั้งหมดแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับความสามารถในการต้านอนุมูล DPPH นี้ส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะนำมาประกอบกับชนิดที่แตกต่างกันของสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะอย่างยิ่ง anthocyanin และ proanthocyanin ในรำข้าวดำและสีแดง (ฮ่องกงและอื่น ๆ 2,008; ยาวและอื่น ๆ 2010) นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระขององค์ประกอบเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการสกัดด้วยตัวทำละลายที่ใช้ เหตุผลสำหรับปรากฏการณ์นี้เป็นเพราะตัวทำละลายมีผลสำคัญในองค์ประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ (Alothman และอื่น ๆ 2,009; แครายและอื่น ๆ 2,009) Finocchiaro และคนอื่น ๆ (2010) พบว่าความสามารถในการต้านอนุมูล DPPH
ของข้าวบาร์เลย์เป็นในการลดเพื่อให้สารสกัดจากอะซิโตน 70% สารสกัดเอทานอล 70% และสารสกัดจากเมทานอล 70% แสดงให้เห็นว่ามีความแตกต่างในความสามารถต้านอนุมูล DPPH ของข้าวบาร์เลย์ ขึ้นอยู่กับตัวทำละลายสกัด ดังนั้นทางเลือกตัวทำละลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะเนื้อหาทั้งสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในชั้น uenced โดยการละลายในตัวทำละลายสกัด เมื่อพิจารณาความสามารถในการต้านอนุมูล DPPH เช่นเดียวกับเนื้อหาของฟีนอลรวมและ avonoid ชั้นที่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่ได้รับจากอะซิโตน 40% ดังนั้นเราจึงเลือกอะซีโตน 40% เป็นตัวทำละลายในการสกัดสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อการศึกษาของรำข้าวสี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้าวพบว่าเอนไซม์สกัดโดยใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ที่ใช้กันทั่วไปเช่นสัมบูรณ์และอะซิโตน เมทานอล เอทานอล เป็นสารละลายผสมของตัวทำละลายอินทรีย์ . เราวัด dpph รุนแรงโดยเนื้อหาฟีนอลิกทั้งหมดและรวมfl avonoid เนื้อหาในความหลากหลายของโซลูชั่นที่ 4 พบว่าเอนไซม์สกัดจากข้าว 3 สีพบว่าเอนไซม์และ 1 ข้าวกล้อง จมูกข้าวการเลือกตัวทำละลายการสกัดที่มีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระ การ dpph หัวรุนแรง scavengingt3 ความสามารถของน้ำมันรำข้าวที่ได้จากการสกัดด้วยตัวทำละลายสีต่าง ๆแสดงดังตารางที่ 1 สารสกัดจากน้ำมันรำข้าว โซลูชั่น สีพบประมาณ 10% ถึง 84% ของ dpph เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาความสามารถ ขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของการใช้สารละลายผสมสารละลายอะซิโตน เอทานอล และเมทานอล สูงกว่าความสามารถใน dpph เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ความเข้มข้น 40% ถึง 80% เมื่อเทียบกับ solvents.others สัมบูรณ์ ( 2009 ) ได้รายงานผลที่คล้ายกันก่อนหน้านี้ กิจกรรม dpph สูงสุดอยู่ในทั่วไปที่ได้รับกับอะซิโตน 40% และ dpph เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในลักษณะต่าง ๆพบว่าเอนไซม์ในข้าวที่ 40% สำหรับตัวทำละลายเป็น 58 , 84 %34 % และ 51% ในสีดำ , สีแดง , สีเขียว และข้าวกล้องพบว่าเอนไซม์ ตามลำดับ รวมflเนื้อหากึ่ง avonoid ของน้ำมันรำข้าวที่ได้จากการสกัดด้วยตัวทำละลายที่แตกต่างกันจะมีอยู่ระหว่าง 16 ถึง 709 μ g / ml และ 9 488 μกรัม / มิลลิลิตร ตามลำดับ เนื้อหาทั้งหมดของฟีโนลิก และรวมfl avonoid ในน้ำมันรำข้าวจะมีปรากฏขึ้น inaqueous ของผสมอะซิโตน เอทานอลและเมทานอลในความเข้มข้น 40% ถึง 80% มากกว่าแน่นอนผลคล้ายกับผลของ dpph เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของเม็ดสีในรำข้าว ไม่ว่าสายพันธุ์ของน้ำมันรำข้าว สารสี เนื้อหาทั้งหมดของฟีนอลและ avonoid flทั้งหมดปรากฏสูงสุด 40% อะซิโตนเป็นตัวทำละลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหาทั้งหมดของฟีนอลและ avonoid flทั้งหมดมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับ dpph เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีความสามารถ นี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากชนิดของสารต้านอนุมูลอิสระ สารแอนโทไซยานิน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง proanthocyanin สีดำและน้ำมันรำข้าว สีแดง ( ฮ่องกงและคนอื่น 2008 ; และคนอื่น ๆ ( ยาว ) นอกจากนี้ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระขององค์ประกอบเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวทำละลายสกัดที่ใช้ เหตุผลสำหรับปรากฏการณ์นี้คือเนื่องจากตัวทำละลายมีผลกระทบสำคัญในองค์ประกอบของสารประกอบต้าน ( alothman และคนอื่น ๆและคนอื่น ๆในปี 2009 ; LAI ) ฟิน เชียโร และคนอื่นๆ ( 2010 ) พบว่า dpph ความสามารถ
เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาข้าวบาร์เลย์ถูกลดลงเพื่อให้สารสกัดอะซีโตนเป็น 70% , สารสกัดเอทานอล 70% และสารสกัดเมทานอล 70 % ระบุว่ามีความแตกต่างในความสามารถในการ dpph รากข้าวบาร์เลย์ขึ้นอยู่กับตัวทำละลายในการสกัด ดังนั้น การเลือกตัวทำละลายเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะทั้งเนื้อหาของสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในfl uenced โดยการละลายในการสกัดสารละลายการพิจารณาความสามารถในการเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา dpph เช่นเดียวกับเนื้อหาของฟีนอลิกทั้งหมด และfl avonoid ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้จาก 40% อะซิโตน ดังนั้นเราจึงเลือก 40% อะซิโตนเป็นตัวทำละลายในการสกัดเพื่อการศึกษาของสารต้านอนุมูลอิสระน้ำมันรำข้าว
Pigmented