The acronym ICT stands for informat

The acronym ICT stands for information and communication technology and refers in principle to all possible technologies that are used
for locating and processing information, communicating and producing digital media such as computer technology, smartphones, the
Internet, multimedia, etcetera (Anderson, 2008; Ito et al., 2008). In this study, ICT is limited to the use of computers and the Internet.
Mastery of ICT competences is considered as an essential key competence to function in our present economy and society (Bunz, Curry, &
Voon, 2007; European Commission, 2007). Computers and the Internet e and especially the ability to operate them e are considered as
important in order to develop skills for social interaction, civic participation, information retrieval and processing, and professional success
and advancement (Sieverding & Koch, 2009; Zhong, 2011). For these purposes, some national governments have recently designed and
administered formal expectations to schools in terms of ICT competence frameworks or standards (Vanderlinde, van Braak, & Hermans,
2009). Consequently, ICT competences can be considered as educational outcomes that students need to acquire. As schools are ex-
pected to take the initiative to develop students' ICT competences, a valid assessment of students' ICT competences is necessary.
With regard to the assessment of ICT competences, a distinction can be made between research using self-reported measures (indirect
measurement) and research using observation and performance based measures (direct measurement) (Litt, 2013). The literature indicates
that the main research interest is directed towards self-reported measures of ICTcompetences and ICTself-efficacy (van Deursen & van Dijk,
2011; Hargittai, 2005; Meelissen, 2008) as such measures easily permit the collection and analysis of data from big samples. In this context,
several self-report instruments have been developed and used to measure certain aspects of students' ICT competences or students' ICT
competences in general, such as the general internet self-efficacy scale (GISE) and the communicative internet self-efficacy scale (CISE) of
Liang and Tsai (2008), or the online exploration and online communication scale of Tsai and Tsai (2010). Torkzadeh and Van Dyke (2002)have operationalized Internet self-efficacy as students' confidence in browsing, system manipulation and encryption/decryption. Bunz'
(2004) Computer-Email-Web fluency scale measures students' self-perceived ability in general computer use, e-mail use, Web naviga-
tion and Web editing. Although these measures are useful for investigating students' self-perceived abilities within large samples, they are
less appropriate for measuring students' actual ICT competences. It is well-known that ability measures that are based on students' own
judgment cope with validity-problems of self-reported bias (Ballantine, McCourt Larres, & Oyelere, 2007; Bunz et al., 2007; van Deursen &
van Dijk, 2011; Hakkarainen et al., 2000). Students can over and underestimate their own ICT competences (Merritt, Smith, & Di Renzo,
2005). As such, self-perceived or self-reported measures are not always a valid representation of their actual ability to use ICT.
Some researchers have tried to tackle these shortcomings of self-reported measurements by assessing students' ICT competences in a
more direct way, i.e., through observation and performance based ICT competence studies. In general, such studies involve students per-
forming actions on a computer while being observed and evaluated by the researcher (Litt, 2013). Performance-based assessment tasks are
valuable because they guarantee direct and authentic appraisals of complex competences (Messick, 1994). As such, it can be expected that
performance-based tests using authentic tasks are more valid for measuring the complexity of students' ICT competences. Although these
observations and performance-based measures have higher validity, theyare also time consuming, expensive, moredifficult to replicate and
more difficult to conduct on large samples. In order to cope with some of these limitations, international large-scale assessment initiatives
have recently been set up to measure students' ICT competences in a direct and standardized way using computer based software, such as
ICILS or iSkills (Fraillon & Ainley, 2010; Katz, 2007). Although these studies have great scientific value, they do not address the ICT com-
petences of primary school students.
The general purpose of this study is twofold: 1) First, we wish to tackle the problem of indirect assessment by outlining the design of a
computer-based assessment test that can be used to measureprimary school students' ICTcompetences in a direct and valid way; 2) Second,
we wish to investigate primary school students' ICT competences by describing their performance on the developed test. For this, special
attention will be paid to the relationship between

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อักษรย่อ ICT หมายถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และหลักการการเข้าถึงเทคโนโลยีไปได้ทั้งหมดที่ใช้เพื่อค้นหา และประมวลผลข้อมูล การสื่อสาร และการผลิตสื่อดิจิทัลเช่นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน การอินเทอร์เน็ต มัลติมีเดีย etcetera (Anderson, 2008 อิโตะ et al. 2008) ICT จะไม่จำกัดการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตในการศึกษานี้ถือเป็นความสามารถหลักที่จำเป็นฟังก์ชันของความสามารถด้าน ICT ในปัจจุบันเศรษฐกิจและสังคมของเรา (บันซ์ แกงส้ม &Voon, 2007 คณะกรรมาธิการยุโรป 2007) คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์อินเทอร์เน็ต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการใช้งานให้ถือว่าเป็นอีสิ่งสำคัญเพื่อพัฒนาทักษะการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม พลเมืองมีส่วนร่วม การเรียกข้อมูล และการประมวลผล และความสำเร็จมืออาชีพและความก้าวหน้า (Sieverding & สาขา 2009 จง 2011) สำหรับวัตถุประสงค์เหล่านี้ รัฐบาลแห่งชาติบางได้เมื่อเร็ว ๆ นี้การออกแบบ และบริหารความคาดหวังทางการโรงเรียน ICT ความกรอบหรือมาตรฐาน (Vanderlinde, van Braak และ Hermans2009) . ดังนั้น มีความสามารถด้าน ICT สามารถถือได้ว่าเป็นผลลัพธ์ของการศึกษาที่นักเรียนต้องได้รับการ เป็นโรงเรียน เก่าpected จะใช้ความคิดริเริ่มในการพัฒนานักเรียน ICT อย่างกว้างขวาง การประเมินความถูกต้องของนักเรียนมีความสามารถด้าน ICT มีความจำเป็นเรื่องการประเมินความสามารถด้าน ICT แตกต่างสามารถทำระหว่างวิจัยตนเองรายงานมาตรการ (ทางอ้อมโดยใช้การวัด) และใช้การสังเกตและประสิทธิภาพการทำงานวิจัยตามวัด (วัดโดยตรง) (Litt, 2013) บ่งชี้ว่า วรรณกรรมที่สนใจวิจัยหลักหันวัดตนเองรายงานของ ICTcompetences และ ICTself ประสิทธิภาพ (van Deursen และ van Dijk2011 Hargittai, 2005 Meelissen, 2008) เช่นมาตรการได้อนุญาตการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากตัวอย่างใหญ่ ในบริบทนี้เครื่องมือรายงานตนเองหลายได้รับการพัฒนา และใช้ในการวัดความสามารถด้าน ICT ของนักเรียนหรือนักศึกษา ICT ในลักษณะทั่วไป เช่นอินเทอร์เน็ตทั่วไปขนาดประสิทธิภาพในตนเอง (GISE) และการสื่อสารอินเทอร์เน็ตประสิทธิภาพในตนเองมาตราส่วน (CISE) มีความสามารถด้านเหลียง และเจิงโป๋วไจ๋ (2008), หรือการสำรวจออนไลน์ และการสื่อสารออนไลน์ขนาดเจิงโป๋วไจ๋และเจิงโป๋วไจ๋ (2010) Torkzadeh และ Van Dyke (2002) มี operationalized อินเทอร์เน็ตประสิทธิภาพในตนเองเป็นความเชื่อมั่นของนักท่องเว็บ การจัดการระบบ และเข้า บันซ์ 'ระดับภาษาคอมพิวเตอร์อีเมล์เว็บ (2004) วัดสามารถรับรู้ตนเองของนักเรียนในการใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป ใช้งานอีเมล์ เว็บ naviga-ทางการค้าและแก้ไขเว็บ ถึงแม้ว่ามาตรการเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับการตรวจสอบความสามารถรับรู้ตนเองของนักเรียนภายในตัวอย่างขนาดใหญ่ พวกเขาจะเหมาะสมน้อยสำหรับการวัดของนักเรียนจริงมีความสามารถด้าน ICT เป็นที่รู้จักว่า ความสามารถในการวัดที่เป็นไปตามของนักเรียนตัดสินใจรับมือกับปัญหาความถูกต้องของตนเองรายงานอคติ (Ballantine, McCourt Larres, & Oyelere, 2007 บันซ์ et al. 2007 Deursen รถตู้ &van Dijk, 2011 Hakkarainen et al. 2000) นักเรียนสามารถผ่าน และประมาทตนเองความสามารถด้าน ICT (เมอร์ สมิธ และเปียโนเรน โซ Di2005) . เช่นนี้ มองเห็นตนเอง หรือตนเองรายงานมาตรการไม่เสมอตัวแทนถูกต้องของความสามารถที่แท้จริงให้ใช้ ICTนักวิจัยบางคนได้พยายามแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องของการประเมินตนเองรายงานเหล่านี้ โดยการประเมินความสามารถด้าน ICT ของนักเรียนในการยิ่งตรงทาง เช่น ผ่านการสังเกต และประสิทธิภาพขึ้น ICT ความสามารถศึกษา ทั่วไป การศึกษาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนักเรียนต่อ-การขึ้นรูปการดำเนินการบนคอมพิวเตอร์ในขณะที่การสังเกต และประเมิน โดยนักวิจัย (Litt, 2013) ประเมินประสิทธิภาพงานมีคุณค่า เพราะรับประกันตรง และแท้จริงประเมินผลจ้างบริการซับซ้อน (เม 1994) เช่นนี้ คุณสามารถคาดหวังที่ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานจริงถูกต้องมากขึ้นสำหรับการวัดความซับซ้อนของความสามารถด้าน ICT ของนักเรียน แม้ว่าเหล่านี้สังเกตและตามมาตรการมีอายุสูงขึ้น theyare ใช้เวลานานยัง ราคาแพง moredifficult ในการจำลอง และยากจะดำเนินการบนตัวอย่างขนาดใหญ่ เพื่อรับมือกับบางส่วนของข้อจำกัดเหล่านี้ โครงการประเมินนานาชาติขนาดใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้กำหนดถึงความสามารถด้าน ICT ของนักเรียนวัดในทางตรง และได้มาตรฐานโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐาน เช่นICILS หรือ iSkills (Fraillon & Ainley, 2010 แคทซ์ 2007) แม้ว่าการศึกษาเหล่านี้มีค่าทางวิทยาศาสตร์ พวกเขาไม่จัดการ ICT com-petences ของนักเรียนประถมวัตถุประสงค์ทั่วไปของการศึกษานี้มีอยู่สองประการ: 1) ครั้งแรก เราต้องต่อสู้ปัญหาของการประเมินทางอ้อม โดยสรุปการออกแบบทดสอบประเมินผลคอมพิวเตอร์ที่ใช้ ICTcompetences measureprimary โรงเรียนนักเรียนในทางที่ตรง และถูกต้อง 2) วินาทีเราต้องตรวจสอบความสามารถด้าน ICT ของนักเรียนประถมศึกษา โดยอธิบายผลจากการทดสอบพัฒนา เสนอความสนใจที่จะจ่ายให้ความสัมพันธ์ระหว่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไอซีทีย่อย่อมาจากข้อมูลและเทคโนโลยีการสื่อสารและหมายในหลักการกับเทคโนโลยีที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่ใช้
สำหรับตำแหน่งและการประมวลผลข้อมูลการสื่อสารและการผลิตสื่อดิจิตอลเช่นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาร์ทโฟน
อินเทอร์เน็ตมัลติมีเดียเป็นต้น (Anderson, 2008 อิโตะ et al., 2008) ในการศึกษานี้ไอซีทีจะถูก จำกัด การใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต.
การเรียนรู้ของความสามารถด้านไอซีทีถือเป็นความสามารถที่สำคัญสิ่งสำคัญในการทำงานในระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันของเราและสังคม (Bunz แกงและ
Voon, 2007 คณะกรรมาธิการยุโรป, 2007) . คอมพิวเตอร์และ E อินเทอร์เน็ตและโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการทำงานพวกเขา E ถือเป็น
สิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมการมีส่วนร่วมของพลเมืองดึงข้อมูลและการประมวลผลและประสบความสำเร็จอย่างมืออาชีพ
และความก้าวหน้า (Sieverding แอนด์คอค 2009; Zhong 2011) . เพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้บางส่วนรัฐบาลแห่งชาติเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับการออกแบบและ
การบริหารความคาดหวังอย่างเป็นทางการให้กับโรงเรียนในแง่ของความสามารถด้าน ICT กรอบหรือมาตรฐาน (Vanderlinde รถตู้ Braak และ Hermans,
2009) ดังนั้นความสามารถด้านไอซีทีถือได้ว่าเป็นผลการศึกษาที่นักเรียนต้องได้รับ ในฐานะที่เป็นอดีตโรงเรียนจะ
ไม่คาดคิดที่จะใช้ความคิดริเริ่มในการพัฒนานักเรียนความสามารถด้าน ICT, การประเมินที่ถูกต้องของนักเรียนความสามารถด้านไอซีทีมีความจำเป็น.
ในเรื่องเกี่ยวกับการประเมินความสามารถด้าน ICT ด้วยความแตกต่างสามารถทำได้ระหว่างการวิจัยโดยใช้มาตรการที่ตนเองรายงาน ( อ้อม
วัด) และการวิจัยโดยใช้การสังเกตและการวัดผลการปฏิบัติงานตาม (วัดโดยตรง) (Litt, 2013) วรรณกรรมแสดงให้เห็น
ว่างานวิจัยที่สนใจหลักเป็นผู้กำกับที่มีต่อมาตรการตนเองรายงานของ ICTcompetences และ ICTself สมรรถนะ (Van Deursen & Van Dijk,
2011; Hargittai 2005; Meelissen 2008) เป็นมาตรการดังกล่าวได้อย่างง่ายดายอนุญาตให้มีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจาก กลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ ในบริบทนี้
เครื่องมือรายงานตนเองหลายคนได้รับการพัฒนาและใช้ในการวัดลักษณะบางอย่างของนักเรียนความสามารถด้านไอซีทีหรือนักศึกษา ICT
สมรรถภาพโดยทั่วไปเช่นโยอินเทอร์เน็ตทั่วไปรู้ความสามารถของตน (GISE) และอินเทอร์เน็ตการสื่อสารด้วยตนเองประสิทธิภาพ ขนาด (Cise) ของ
เหลียงและ Tsai (2008) หรือการสำรวจออนไลน์และการสื่อสารออนไลน์ขนาดของไจ่และ Tsai (2010) Torkzadeh และรถตู้คัน (2002) ได้ operationalized อินเทอร์เน็ตด้วยตนเองประสิทธิภาพความเชื่อมั่นของนักเรียนในการเรียกดูการจัดการระบบและการเข้ารหัส / ถอดรหัส Bunz '
(2004) คอมพิวเตอร์อีเมล์เว็บคล่องแคล่วขนาดขนาดของนักเรียนความสามารถในการรับรู้ของตนเองในการใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไปใช้ E-mail, เว็บ naviga-
การและการแก้ไขเว็บ แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบของนักเรียนความสามารถของตัวเองรับรู้ภายในกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ที่พวกเขามี
ความเหมาะสมน้อยสำหรับการวัดของนักเรียนความสามารถด้านไอซีทีที่เกิดขึ้นจริง มันเป็นที่รู้จักกันดีว่ามาตรการความสามารถที่อยู่บนพื้นฐานของตัวเองของนักเรียน
ตัดสินรับมือกับความถูกต้อง-ปัญหาของการมีอคติตนเองรายงาน (Ballantine, McCourt Larres และ Oyelere 2007. Bunz et al, 2007; Van Deursen &
Van Dijk, ปี 2011. Hakkarainen, et al, 2000) นักเรียนสามารถมากกว่าและประมาทความสามารถด้านไอซีทีของตัวเอง (ริตต์สมิ ธ & Di Renzo,
2005) เป็นเช่นนี้ตัวเองรับรู้หรือมาตรการตนเองรายงานที่ไม่เคยเป็นตัวแทนที่ถูกต้องของความสามารถที่แท้จริงของพวกเขาในการใช้ไอซีที.
นักวิจัยบางคนได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องเหล่านี้ของการวัดที่ตนเองรายงานโดยการประเมินของนักเรียนความสามารถด้านไอซีทีใน
ทางตรงมากขึ้น เช่นผ่านการสังเกตและประสิทธิภาพการทำงานพื้นฐานของการศึกษาความสามารถด้านไอซีที โดยทั่วไปการศึกษาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนักเรียนทํา
การกระทำที่ก่อตัวขึ้นบนเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่ถูกตั้งข้อสังเกตและการประเมินโดยนักวิจัย (Litt, 2013) ประเมินผลการปฏิบัติงานตามที่มี
คุณค่าเพราะพวกเขารับประกันการประเมินโดยตรงและเป็นของแท้ของความสามารถที่ซับซ้อน (สิค, 1994) เป็นเช่นนี้ก็สามารถที่จะคาดหวังว่า
การทดสอบประสิทธิภาพโดยใช้งานของแท้ที่ถูกต้องมากขึ้นสำหรับการวัดความซับซ้อนของนักเรียนความสามารถด้าน ICT ถึงแม้ว่าเหล่านี้
สังเกตและการวัดผลการปฏิบัติงานตามมีความถูกต้องสูงกว่า theyare ยังใช้เวลานานราคาแพง moredifficult ที่จะทำซ้ำและ
ยากมากที่จะดำเนินการกับตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ เพื่อที่จะรับมือกับบางส่วนของข้อ จำกัด เหล่านี้ความคิดริเริ่มการประเมินขนาดใหญ่ระหว่างประเทศ
เพิ่งได้รับการตั้งค่าการวัดของนักเรียนความสามารถด้านไอซีทีในทางตรงและมาตรฐานโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานเช่น
ICILS หรือ iSkills (Fraillon & Ainley 2010; แคทซ์ 2007) ถึงแม้ว่าการศึกษาเหล่านี้มีค่าทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่ไอซีทีสั่ง
petences ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา.
วัตถุประสงค์ทั่วไปของการศึกษาครั้งนี้เป็นสองเท่า: 1) ครั้งแรกที่เราต้องการที่จะจัดการกับปัญหาของการประเมินทางอ้อมโดยสรุปการออกแบบของที่
คอมพิวเตอร์ที่ใช้ทดสอบการประเมินที่สามารถใช้ในการ measureprimary ICTcompetences นักเรียนโรงเรียนในทางตรงและถูกต้อง 2) ประการที่สอง
เราต้องการที่จะตรวจสอบนักเรียนชั้นประถมศึกษา 'ความสามารถด้าน ICT โดยการอธิบายประสิทธิภาพของพวกเขาในการทดสอบการพัฒนา สำหรับเรื่องนี้เป็นพิเศษ
สนใจจะจ่ายให้กับความสัมพันธ์ระหว่าง