Soil preparation: Prepare a weed-fr

Soil preparation: Prepare a weed-free site that gets 8 to 10 hours of strong sunlight a day. Well-drained soil with a pH around 6.0 to 6.2 is ideal. To avoid verticillium wilt, don't plant in sites where raspberries, strawberries, or solanaceous plants (tomatoes, peppers, eggplants, etc.) have grown before.

Planting: Early spring planting is customary in most areas. For warm winter regions (California, Florida, and the southeast), fall planting is recommended.

Spacing: Space June bearers on raised beds with 18 to 24 inches between plants, in rows 3 to 4 feet apart. Hills 10 to 18 inches apart, planted with single plants, are best for everbearers, day neutrals, and June bearers in hot, humid climates.

Watering: Provide 1 inch per week at the root zone.

Fertilizing: Renovate rows after harvest by reducing their width to 12 inches and covering plants with 2 inches of compost. Apply a soluble organic fertilizer, such as a seaweed-fish blend, after renovation. Early spring fertilizer makes berries soft.

Special hint: Alpine strawberries (F. vesca) are one of the parent species of the garden strawberry. They produce small, aromatic berries from early summer through frost. Alpines are grown from seed or divisions and produce no runners. They are care-free and make good ornamentals.


Pest Watch
Tarnished plant bug is the main fruit-feeding nemesis of strawberries. Strawberry sap beetle can infest overripe fruit. Plant decline can also be caused by root-feeding white grubs (beetle larvae) and nematodes. Viruses, which can be spread by aphids, often affect plants that are weakened by unfavorable growing conditions.

Disease Alert
Gray mold (botrytis) is disease enemy number 1 on strawberry fruit around the country. Anthracnose can devastate plantings in hot, humid areas. Leather rot, which causes an insipid berry taste you won't forget, is a sporadic problem on susceptible varieties when fruit comes in contact with damp soil. Red stele, a soilborne fungus, can be avoided by choosing resistant varieties.

Harvesting
Ripe berries appear about 30 days after bloom. Once the berry is fully red, let your taste buds be your final guide on when to harvest. Pick every two to three days, or daily in very hot weather. Keep green caps attached. To preserve flavor and shelf life, pick into a shallow, paper towel lined container, no more than three or four layers of berries deep. Refrigerate immediately after picking. Hull and wash just before serving.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเตรียมดิน: จัดเตรียมวัชพืชฟรีไซต์ที่ได้รับแดดตลอดเวลา 8-10 ดินมี pH ประมาณ 6.0 ไป 6.2 นยกเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยง verticillium เหี่ยว ไม่ปลูกในอเมริกาที่ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ หรือพืช solanaceous (มะเขือเทศ พริก eggplants ฯลฯ) ได้โตก่อน การปลูก: ปลูกช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิอยู่จารีตประเพณีส่วนใหญ่ สำหรับขอบเขตหนาวอบอุ่น (แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และตะวันออกเฉียงใต้), ปลูกตกงาน ระยะห่าง: bearers มิถุนายนพื้นที่บนเตียง 18-24 นิ้วระหว่างพืช ในแถวห่างกัน 3-4 ฟุตยกขึ้น เนินเขา 10-18 นิ้วห่างกัน ปลูกกับพืชเดี่ยว สุดสำหรับ everbearers อักขระปกติวัน และมิถุนายน bearers ในสภาพอากาศร้อน ชื้น น้ำ: ให้ 1 นิ้วต่อสัปดาห์ที่โซนราก Fertilizing: เงินก้อนแถวหลังการเก็บเกี่ยว โดยลดความกว้าง 12 นิ้ว และครอบคลุมพืชกับปุ๋ย 2 นิ้ว ใช้การละลายน้ำปุ๋ยอินทรีย์ เช่นกลืนปลาสาหร่าย หลังจากปรับปรุง ฤดูใบไม้ผลิต้นปุ๋ยทำให้ครบนุ่ม คำแนะนำพิเศษ: สตรอเบอร์รี่อัลไพน์ (F. vesca) เป็นหนึ่งในแม่พันธุ์สตรอเบอร์รี่สวน ผู้ผลิตขนาดเล็ก หอมครบจากช่วงต้นฤดูร้อนผ่านน้ำแข็ง Alpines ปลูกจากเมล็ดหรือหน่วยงาน และผลิตไม่รอบชิงชนะเลิศ จะ ฟรีดูแล และทำดี ornamentals ชมพืชแมลงพืชมัวหมองเป็น nemesis อาหารผลไม้ที่หลักของสตรอเบอร์รี่ ด้วงสตรอเบอร์รี่ซับสามารถรังควาญผลไม้ทึนทึกขูดฝอยนึ่ง โรงงานลดลงอาจเกิดจากอาหารรากขาว grubs (ตัวอ่อนด้วง) และ nematodes ไวรัส ซึ่งสามารถมีแพร่กระจาย โดย aphids มักจะมีผลต่อพืชที่ลดลง โดยเงื่อนไขร้ายเจริญเติบโตแจ้งเตือนโรคแม่สีเทา (botrytis) เป็นโรคศัตรูหมายเลข 1 บนสตรอเบอร์รี่ทั่วประเทศ Anthracnose สามารถกระหน่ำ plantings ในพื้นที่ร้อน ชื้น หนัง rot ซึ่งทำให้มีรสกร่อยเบอร์รี่คุณจะไม่ลืม เป็นปัญหาที่มีในสายพันธุ์ที่ไวต่อเมื่อผลไม้มาสัมผัสกับดินชื้น Stele แดง เชื้อราเป็น soilborne สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยการเลือกสายพันธุ์ที่ทนเก็บเกี่ยวสุกครบปรากฏประมาณ 30 วันหลังจากบลูม เมื่อเบอร์รี่เป็นสีแดงทั้งหมด ให้รสที่จะแนะนำขั้นสุดท้ายในเวลาเก็บเกี่ยว รับทุกสองถึงสามวัน หรือประจำวันในสภาพอากาศร้อนมาก หมวกสีเขียวที่แนบไว้ เพื่อรักษารสชาติและอายุการเก็บสินค้า รับลงตื้น กระดาษผ้าเรียงคอนเทนเนอร์ ไม่มากกว่าสาม หรือสี่ชั้นครบลึก น้ำเย็นทันทีหลังจากเบิกสินค้า ฮัลล์และล้างก่อนเสิร์ฟ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเตรียมดิน: เตรียมเว็บไซต์วัชพืชฟรีที่ได้รับ 8 ถึง 10 ชั่วโมงของแสงแดดวัน ระบายน้ำดีดินที่มีค่า pH รอบ 6.0-6.2 เหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการเหี่ยว Verticillium ไม่ปลูกในเว็บไซต์ที่ราสเบอร์รี่, สตรอเบอร์รี่หรือพืช solanaceous (มะเขือเทศพริก, มะเขือ, ฯลฯ ) ก่อนที่จะมีการเติบโต. ปลูก: ปลูกต้นฤดูใบไม้ผลิเป็นธรรมเนียมในพื้นที่มากที่สุด สำหรับพื้นที่ในช่วงฤดูหนาวที่อบอุ่น (แคลิฟอร์เนียฟลอริดาและตะวันออกเฉียงใต้), การเพาะปลูกในฤดูใบไม้ร่วงจะแนะนำ. Spacing: อวกาศถือมิถุนายนบนเตียงขึ้นกับ 18-24 นิ้วระหว่างพืชในแถว 3-4 เท้าแตก ฮิลส์ 10-18 นิ้วออกจากกันปลูกพืชเดียวที่ดีที่สุดสำหรับ everbearers เว้นวันและถือมิถุนายนในร้อนภูมิอากาศร้อนชื้น. รดน้ำ: ให้ 1 นิ้วต่อสัปดาห์ที่โซนราก. Fertilizing: Renovate แถวหลังการเก็บเกี่ยวโดยการลดของพวกเขา ความกว้างถึง 12 นิ้วและครอบคลุมพืชที่มี 2 นิ้วของปุ๋ยหมัก สมัครปุ๋ยอินทรีย์ที่ละลายน้ำได้เช่นการผสมผสานสาหร่ายทะเลปลาหลังจากที่ซ่อมแซม ปุ๋ยต้นฤดูใบไม้ผลิทำให้ผลเบอร์รี่อ่อน. คำแนะนำพิเศษ: สตรอเบอร์รี่อัลไพน์ (เอฟ vesca) เป็นหนึ่งในพ่อแม่พันธุ์สตรอเบอร์รี่สวน พวกเขาผลิตขนาดเล็กเบอร์รี่หอมจากช่วงต้นฤดูร้อนผ่านน้ำค้างแข็ง Alpines มีการปลูกจากเมล็ดหรือหน่วยงานและผลิตนักวิ่งไม่มี พวกเขาจะดูแลฟรีและให้ประดับที่ดี. ศัตรูพืชนาฬิกาข้อผิดพลาดพืชหมองเป็นตัวซวยผลไม้ให้อาหารหลักของสตรอเบอร์รี่ ด้วงน้ำนมสตรอเบอร์รี่สามารถรบกวนผลไม้สุก การลดลงของพืชนอกจากนี้ยังสามารถเกิดจากรากอาหารด้วงสีขาว (ตัวอ่อนด้วง) และไส้เดือนฝอย ไวรัสที่สามารถแพร่กระจายโดยเพลี้ยมักจะส่งผลกระทบต่อพืชที่กำลังอ่อนแอจากสภาพการเจริญเติบโตที่ไม่เอื้ออำนวย. เตือนโรคราสีเทา (botrytis) เป็นโรคศัตรูหมายเลข 1 ในผลไม้สตรอเบอร์รี่ทั่วประเทศ แอนแทรกโนสามารถทำลายพืชพันธุ์ในที่ร้อนชื้น rot หรือหนังแท้ซึ่งเป็นสาเหตุของรสชาติผลไม้เล็ก ๆ ไม่น่าสนใจที่คุณจะไม่ลืมเป็นปัญหาประปรายพันธุ์ไวต่อเมื่อผลไม้มาในสัมผัสกับพื้นดินที่ชื้น Stele แดงเชื้อรา soilborne สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการเลือกสายพันธุ์ที่ทน. การเก็บเกี่ยวผลเบอร์รี่สุกปรากฏประมาณ 30 วันหลังดอกบาน เมื่อเบอร์รี่เป็นสีแดงอย่างเต็มที่ให้รสของคุณเป็นไกด์สุดท้ายของคุณเมื่อการเก็บเกี่ยว เลือกทุกสองถึงสามวันหรือทุกวันในสภาพอากาศที่ร้อนมาก เก็บหมวกสีเขียวที่แนบมา เพื่อรักษารสชาติและอายุการเก็บรักษาให้เลือกเป็นตื้นภาชนะเรียงรายผ้ากระดาษไม่เกินสามหรือสี่ชั้นลึกของผลเบอร์รี่ แช่เย็นทันทีหลังจากที่การเลือก ฮัลล์และล้างก่อนให้บริการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเตรียมดิน เตรียมวัชพืชฟรีเว็บไซต์ที่ได้รับจากแดด 8 วัน 10 ชั่วโมง ดีเนื้อดินที่มี pH ประมาณ 6.0 6.2 เหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการจำแนกชนิดเหี่ยว อย่าปลูกในเว็บไซต์ว่า ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ หรือพืช solanaceous ( มะเขือเทศ พริกหยวก มะเขือยาว ฯลฯ ) ต้องโตก่อน

: การปลูกต้นฤดูใบไม้ผลิเป็นประเพณีในพื้นที่มากที่สุดสำหรับภาคฤดูหนาวที่อบอุ่น ( แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และตะวันออกเฉียงใต้ ) ปลูกอยู่แนะนำ

ระยะห่าง : พื้นที่บนเตียงยก bearers มิถุนายน 18 ถึง 24 นิ้วระหว่างพืชในแถวที่ 3 ถึง 4 ฟุตออกจากกัน เนินเขา 10 ถึง 18 นิ้วออกจากกัน ปลูกพืชเดี่ยว จะดีที่สุดสำหรับ everbearers วัน Neutrals และ bearers มิถุนายนในสภาพอากาศร้อนชื้น .

น้ำ : ให้ 1 นิ้วต่อสัปดาห์ที่ราก .

ปุ๋ย : บูรณะแถวหลังการเก็บเกี่ยวโดยการลดความกว้างของ 12 นิ้ว กับ 2 นิ้วครอบคลุมพืชในปุ๋ยหมัก ใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ เช่น สาหร่าย ปลาผสม หลังจากที่ปรับปรุงใหม่ ปุ๋ยของต้นฤดูใบไม้ผลิทำให้เบอร์รี่นุ่ม

พิเศษเคล็ดลับ : อัลไพน์ สตรอเบอร์รี่ ( F . vesca ) เป็นหนึ่งในพ่อแม่พันธุ์จากสวนสตรอเบอร์รี่ พวกเขาผลิตขนาดเล็ก