A quite different view of the begin

A quite different view of the beginnings of language is based on the concept of natural
sounds.
The human auditory system is already functioning before birth (at around seven months).
Among several nicknames that he invented to talk about the origins of speech,
Jespersen (1922) called this idea the “bow-wow” theory.

In this scenario, when different objects flew by, making a Caw-Caw or Coo-Coo
sound, the early human tried to imitate the sounds and then used them to refer to
those objects even when they weren’t present.

Another of Jespersen’s nicknames was the “pooh-pooh” theory, which proposed that
speech developed from the instinctive sounds people make in emotional circumstances.

That is, the original sounds of language may have come from natural cries
of emotion such as pain, anger and joy. By this route, presumably, Ouch! came to have
its painful connotations. But Ouch! and other interjections such as Ah!, Ooh!, Phew!,
Wow! or Yuck! are usually produced with sudden intakes of breath, which is the
opposite of ordinary talk. We normally produce spoken language as we breathe out,
so we speak while we exhale, not inhale. In other words, the expressive noises people
make in emotional reactions contain sounds that are not otherwise used in speech
production and consequently would seem to be rather unlikely candidates as source
sounds for language.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มุมมองแตกต่างของจุดเริ่มต้นของภาษาตามแนวคิดของธรรมชาติเสียง ระบบประสาทการได้ยินของมนุษย์อยู่แล้วทำงานก่อนที่จะเกิด (ที่ประมาณเจ็ดเดือน)ระหว่างชื่อเล่นต่าง ๆ ที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคำพูดJespersen (1922) เรียกว่าความคิดนี้ทฤษฎี "bow-wow"ในสถานการณ์สมมตินี้ เมื่อวัตถุต่าง ๆ บินโดย ทำ Caw Caw หรือบิลล์บิลล์เสียง มนุษย์ต้นพยายามเลียนแบบเสียง และใช้ในการอ้างถึงวัตถุเหล่านั้นแม้ว่าพวกเขาไม่อยู่อีกหนึ่งของของ Jespersen ชื่อเล่นคือ "pooh-pooh" ทฤษฎี ซึ่งนำเสนอที่คำพูดที่พัฒนาจากเสียงสัญชาตญาณคนทำในสถานการณ์อารมณ์นั่นคือ เสียงต้นฉบับของภาษาอาจมีมาจากธรรมชาติร้องไห้ของอารมณ์ความรู้สึกเช่นความเจ็บปวด ความโกรธ และความสุข โดยเส้นทางนี้,, Ouch มาได้ศึกษาความหมายความเจ็บปวด แต่ Ouch และคำอุทานภาษาอื่น ๆ เช่น Ah !, โอ!, พิ!,ว้าว หรือ Yuck มักจะผลิต ด้วยการบริโภคอย่างฉับพลันของลมหายใจ ซึ่งเป็นการตรงข้ามของการพูดคุยธรรมดา เราสามารถผลิตภาษาพูดขณะที่เราหายใจออกดังนั้นเราพูดในขณะที่เราหายใจออก ไม่หายใจ ในคำอื่น ๆ คนเสียงเต็มอารมณ์ทำให้ในปฏิกิริยาทางอารมณ์ประกอบด้วยเสียงที่จะไม่มีใช้ในการพูดการผลิต และดังนั้น จะดูเหมือนจะ ค่อนข้างน่าสมัครเป็นแหล่งเสียงภาษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มุมมองที่แตกต่างกันมากของจุดเริ่มต้นของภาษาที่เป็นไปตามแนวคิดของธรรมชาติ
เสียง.
ระบบการได้ยินของมนุษย์ที่มีอยู่แล้วทำงานก่อนที่จะเกิด (ที่ประมาณเจ็ดเดือน).
ในหลายชื่อเล่นว่าเขาคิดค้นขึ้นมาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคำพูดที่
Jespersen ( 1922) ที่เรียกว่าความคิดนี้ "โบว์ว้าว" ทฤษฎี.

ในสถานการณ์สมมตินี้เมื่อวัตถุที่แตกต่างบินโดยทำให้คัว-คัวหรือคู-ขัน
เสียงมนุษย์ต้นพยายามที่จะเลียนแบบเสียงแล้วใช้พวกเขาในการอ้างถึง
ผู้ วัตถุแม้ในขณะที่พวกเขาไม่ได้อยู่.

อีกอย่างหนึ่งของชื่อเล่น Jespersen ของคือ "หมีพูห์พูห์" ทฤษฎีที่เสนอว่า
คำพูดที่พัฒนามาจากสัญชาตญาณเสียงคนทำในสถานการณ์ทางอารมณ์.

นั่นคือเสียงเดิมของภาษาอาจจะมาจากธรรมชาติ เสียงร้อง
ของอารมณ์ความรู้สึกเช่นอาการปวดความโกรธและความสุข โดยเส้นทางนี้สันนิษฐานว่าอุ๊ย! มาจะมี
ความหมายของมันเจ็บปวด แต่อุ๊ย! และองค์หญิงอื่น ๆ เช่นอา !, Ooh !, ว้า !,
ว้าว! หรือ Yuck! มักจะมีการผลิตที่มีการบริโภคอย่างฉับพลันของลมหายใจซึ่งเป็น
ตรงข้ามของการพูดคุยธรรมดา ปกติเราผลิตภาษาพูดในขณะที่เราหายใจออก
เพื่อให้เราพูดในขณะที่เราหายใจออกหายใจไม่ได้ ในคำอื่น ๆ เสียงที่แสดงออกคน
ทำในปฏิกิริยาทางอารมณ์ประกอบด้วยเสียงที่ไม่ได้ใช้คำพูดเป็นอย่างอื่นใน
การผลิตและจึงดูเหมือนจะเป็นผู้สมัครที่ค่อนข้างไม่น่าเป็นแหล่ง
เสียงภาษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มุมมองที่แตกต่างกันมากของจุดเริ่มต้นของภาษาตามแนวคิดธรรมชาติเสียงระบบการได้ยินของมนุษย์มีอยู่แล้วทำงานก่อนคลอด ( ประมาณ 7 เดือน )ระหว่างชื่อเล่นหลายที่เขาคิดค้นเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับต้นกำเนิดของการพูดjespersen ( 1922 ) แนวคิดนี้เรียกว่า " ว้าว " ทฤษฎีในสถานการณ์สมมตินี้ เมื่อวัตถุที่แตกต่างกันไป โดยให้มีกากา หรือ ขันคูเสียงมนุษย์แรกพยายามที่จะเลียนแบบเสียงและใช้พวกเขาเพื่ออ้างถึงวัตถุเหล่านั้นแม้ว่าพวกเขาไม่ได้นำเสนออีก jespersen เป็นชื่อเล่นคือ " ทฤษฎี Pooh หมีพูห์ " ซึ่งได้เสนอว่าคำพูดที่พัฒนามาจากเสียงสัญชาตญาณคนในสถานการณ์ทางอารมณ์นั่นคือ เสียงต้นฉบับของภาษาอาจจะมาจากเสียงร้องของธรรมชาติของอารมณ์ เช่น ความเจ็บปวด ความโกรธ ความสุข โดยเส้นทางนี้ สันนิษฐานว่า โอ๊ย ! มาได้ความหมายเจ็บปวดของ แต่โอ้ย ! กับคำอุทานอื่นๆ เช่น อา โอ ! เฮ้อ , ! ,ว้าว ! ! ! หรือยี้ มักจะผลิตกับฉับพลันและลมหายใจ ซึ่งเป็นตรงข้ามของการพูดคุยธรรมดา ปกติเราผลิตภาษาพูดที่เราหายใจออกเราพูดในขณะที่เราหายใจออกไม่หายใจเข้า ในคำอื่น ๆที่แสดงออกคนเสียงดังทําปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่ประกอบด้วยเสียงที่ไม่เป็นอย่างอื่นที่ใช้ในการพูดผลิตและจากนั้นจะดูเหมือนจะค่อนข้างยาก ผู้สมัคร เป็นแหล่งเสียงในภาษา