select stno from grades where cno =

select stno from grades where cno = ’cs110’
and grade > all(select avg(grade) from grades
where cno=’cs110’);
111
This returns the table:
STNO
----
2661
3566
5544
The count function can be used in several ways:
• count(A) can be used to determine the number of non-null entries under
the attribute A;
• count(distinct A) computes the number of distinct non-null values that
occur under A;
• count(*) determines how many rows exist in a table.
Note that count(distinct *) cannot be used in SQL.
Example 5.15.4 Here are several examples of the use of the count function.
To find how many students took cs110 in the fall semester of 2002, we write:
select count(cno) from GRADES
where cno = ’cs110’ and
sem = ’Fall’ and
year = 2003;
Since no records exist for any grades given during that semester in cs110, we
obtain the answer:
COUNT(CNO)
----------
0
Observe that this table has a system-supplied column name COUNT(cno). This
happens because we did not provide a name using as.
Let us determine how many students have ever registered for any course. We
have to retrieve this result from GRADES, and we must use distinct to avoid
counting the same student several times (if the student took several courses):
select count(distinct stno) as nost
from GRADES;
This query returns the one-entry table:
NOST
----
8

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เลือก stno จากเกรดที่ซีเอ็นโอ = 'cs110' และเกรด > ทั้งหมด (avg(grade) เลือกจากเกรด ซึ่งซีเอ็นโอ = 'cs110');111ซึ่งส่งกลับตาราง:STNO----266135665544 ฟังก์ชัน count ใช้ในหลายวิธี: • count(A) สามารถใช้เพื่อกำหนดหมายเลขของรายการไม่ใช่ null แอตทริบิวต์ A •จำนวน (A ทั้งหมด) คำนวณจำนวนทั้งหมดไม่ใช่ null ค่าที่ เกิดขึ้นภายใต้ A • count(*) กำหนดจำนวนแถวที่มีอยู่ในตารางหมายเหตุ count(distinct *) ที่ไม่สามารถใช้ใน SQLอย่าง 5.15.4 ที่นี่มีหลายตัวอย่างการใช้ฟังก์ชัน count การ find นักเรียนจำนวนเอา cs110 ในภาคฤดูใบไม้ร่วงของ 2002 เราเขียน:เลือก count(cno) จากเกรด ซึ่งซีเอ็นโอ = 'cs110' และ sem = 'ตก' และ ปี 2003 =เนื่องจากไม่มีอยู่สำหรับเกรดใด ๆ กำหนดระหว่างภาคการศึกษาที่ใน cs110 เราได้รับคำตอบ:COUNT(CNO)---------- 0สังเกตว่า ตารางนี้มีชื่อคอลัมน์ให้ระบบ COUNT(cno) นี้เกิดขึ้นเนื่องจากเราไม่มีชื่อที่ใช้เป็น ให้เรากำหนดจำนวนนักเรียนได้เคยลงทะเบียนสำหรับหลักสูตรใด ๆ เราต้องรับผลนี้จากเกรด และเราต้องใช้ทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงตรวจนับนักเรียนเดียวกันหลายครั้ง (ถ้านักเรียนใช้หลักสูตรหลาย):เลือก (มา stno) นับเป็น nost จากเกรดแบบสอบถามนี้ส่งกลับตารางหนึ่งรายการ:NOST---- 8

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เลือก stno จากเกรดที่ CNO = 'cs110'
และเกรด> ทั้งหมด (เลือกเฉลี่ย (เกรด) จากเกรด
ที่ CNO = 'cs110');
111
นี้จะส่งกลับตาราง:
STNO
----
2661
3566
5544
ฟังก์ชั่นการนับสามารถนำมาใช้ หลายวิธี:
•นับ (A) สามารถใช้ในการกำหนดจำนวนของรายการที่ไม่ null ภายใต้
แอตทริบิวต์;
•นับ (ที่แตกต่างกัน) คำนวณจำนวนของค่าที่ไม่ null แตกต่างที่
เกิดขึ้นภายใต้;
•นับ (* ) กำหนดจำนวนแถวที่มีอยู่ในตาราง.
หมายเหตุนับว่า (ที่แตกต่าง *) ไม่สามารถใช้ใน SQL.
ตัวอย่าง 5.15.4 นี่หลายตัวอย่างของการใช้ฟังก์ชั่นการนับ.
ไปยัง FI ครั้งหลายวิธีที่นักเรียนเอา cs110 ในฤดูใบไม้ร่วง ของปี 2002 เราเขียน:
นับเลือก (CNO) จากการเรียน
ที่ CNO = 'cs110 และ
SEM = 'ฤดูใบไม้ร่วงและ
ปี = 2003;
เนื่องจากไม่มีระเบียนที่มีอยู่สำหรับเกรดใดก็ตามในช่วงปิดเทอมใน cs110 ที่เรา
ได้รับการตอบ:
COUNT (CNO)
----------
0
สังเกตว่าตารางนี้มีชื่อคอลัมน์ระบบจัด COUNT (CNO) นี้
เกิดขึ้นเพราะเราไม่ได้ตั้งชื่อให้ใช้เป็น.
ขอให้เรากำหนดจำนวนนักเรียนที่เคยได้ลงทะเบียนสำหรับหลักสูตรใด เรา
มีการดึงข้อมูลจากผลการเรียนนี้และเราจะต้องใช้ที่แตกต่างกันเพื่อหลีกเลี่ยงการ
นับนักเรียนเดียวกันหลายครั้ง (ถ้านักเรียนใช้เวลาหลายหลักสูตร):
นับเลือก (stno ที่แตกต่างกัน) ในฐานะ nost
จากการเรียน;
แบบสอบถามนี้ส่งกลับตารางหนึ่งรายการ :
NOST
----
8

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เลือกจากเกรดที่ stno CNO = ' '
cs110 เกรด > ( เลือก AVG ( เกรด ) จากคะแนนที่ 'cs110 CNO =
' ) ;
0
นี้กลับโต๊ะ :
stno
----



2661 2376 5544 ฟังก์ชั่นการนับสามารถใช้ในหลายวิธี :
- ( นับ ) สามารถใช้ในการตรวจสอบหมายเลขของรายการที่ไม่ใช่ null ภายใต้
; ;
- นับ ( แตกต่างกัน ) จะคำนวณจำนวนที่แตกต่างไม่ใช่ null ค่า
เกิดขึ้นภายใต้ ;
- นับ ( * ) จะกำหนดวิธีการหลายแถวอยู่ในโต๊ะ
หมายเหตุ การนับ ( แตกต่างกัน * ) ไม่สามารถใช้ SQL .
ตัวอย่าง 5.15.4 ที่นี่มีหลายตัวอย่างของการใช้ฟังก์ชั่นการนับ .
เพื่อถ่ายทอดและจํานวนนักศึกษาเอา cs110 ในภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงของปี 2002 เราเขียน :
เลือกนับ ( CNO ) จากคะแนนที่ CNO
= ' ' cs110 และ SEM =

= ' ตก ' และในปี 2003 ;
เนื่องจากไม่มีบันทึกอยู่ในเกรดใด ๆในระหว่างภาคการศึกษาที่ได้รับใน cs110 เราได้รับคำตอบ :

นับ ( CNO )
----------
0
สังเกตว่าโต๊ะนี้มีระบบจัดนับชื่อคอลัมน์ ( CNO ) นี้เกิดขึ้นเพราะเราไม่ได้ให้

ชื่อ ใช้เป็น เราว่ามีนักเรียนกี่คนที่เคยลงทะเบียนเรียนหลักสูตรใดก็ได้ เราต้องเอาผลนี้จาก
เกรดและเราต้องใช้ที่แตกต่างเพื่อหลีกเลี่ยง
นับนักเรียนเหมือนกัน หลายๆ ครั้ง ( ถ้าเรียนได้หลายหลักสูตร ) :
เลือกนับ ( stno แตกต่างจากเกรด ) เป็น nost
;
แบบสอบถามนี้จะส่งกลับหนึ่งรายการตาราง :
nost
----
8