Aim: To investigate the use and pro

Aim: To investigate the use and protective effect of helmets in children injured in bicycle crashes and changes in injury patterns during a period of increased helmet use. Method: Injuries in 4246 children below 16 years of age, who attended an A&E ward after a bicycle crash in the Gothenburg region during 1993–2006, were analyzed. The injury severity was classified according to the Abbreviated Injury Scale. The occurrence of skull/brain injuries and facial injuries was analyzed for 3711 children with respect to injury severity, helmet use and demographic and crash-related factors. Changes in injury patterns during the period were analyzed for 4246 children with no regard to helmet use. The ratio of the number of subjects with head injuries to the number of subjects with extremity injuries of any severity and of at least moderate severity was used to estimate the protective effect of helmet at a population level. Results: Helmets were used by 40% of the injured children at the beginning of the period and by 80% at the end; much less frequently by teenagers, especially girls. The adjusted odds of serious or more severe skull/brain injuries and moderate or more severe facial injuries with a helmet were about one fourth of those without a helmet. The proportion of children with skull/brain injuries did not change significantly during the period. Serious or more severe skull/brain injuries were noted more often during the latter half of the period, most often in children without a helmet. The proportion of children with facial injuries decreased, and the proportion with injuries to the upper extremities increased, also for moderate and severe injuries. The ratio between the number of children with head injuries and the number with extremity injuries decreased for injuries of any severity and for moderate or more severe injuries. Conclusions: Bicycle helmets have an obvious protective effect against head injuries in children, regardless of the crash circumstances. Teenagers must be informed about the high risk of skull/brain injuries in bicycle crashes without a helmet. The increasing occurrence of injuries to the upper extremities needs attention.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Aim: เพื่อตรวจสอบการใช้และป้องกันผลกระทบของหมวกนิรภัยในเด็กได้รับบาดเจ็บในจักรยานล้มเหลวและการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบาดเจ็บในระหว่างระยะเวลาของการใช้หมวกนิรภัยเพิ่มขึ้น วิธี: การบาดเจ็บในเด็กต่ำกว่า 16 ปีอายุ 4246 ที่เข้าร่วมงาเป็น A และ E หลังหายจักรยานในโกเธนเบิร์กภูมิภาคในระหว่างปี 1993 – 2006 ถูกวิเคราะห์ บาดเจ็บความรุนแรงถูกจัดตามมาตราส่วนย่อว่าบาดเจ็บ เกิดบาดเจ็บกะโหลกศีรษะ/สมองและอาการบาดเจ็บที่หน้าแก้ไขวิเคราะห์ 3711 เด็กเกี่ยวกับการบาดเจ็บรุนแรง ใช้หมวกกันน็อก และปัจจัยทางประชากร และความผิดพลาดที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบาดเจ็บในระหว่างงวดได้วิเคราะห์เด็กที่ 4246 มีไม่คำนึงว่าการใช้หมวกกันน็อก อัตราส่วนของจำนวนวิชาที่มีการบาดเจ็บศีรษะจำนวนวิชากับบาดเจ็บปลาย ของความรุนแรงใด ๆ และความรุนแรงน้อยปานกลางถูกใช้เพื่อประเมินการป้องกันผลกระทบของหมวกในระดับประชากร ผลลัพธ์: หมวกกันน็อคถูกใช้ โดย 40% ของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บที่จุดเริ่มต้นของรอบระยะเวลา และ 80% เมื่อสิ้นสุด โดยวัยรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวบ่อยมากน้อย ปรับปรุงราคาของการบาดเจ็บร้ายแรง หรือรุนแรงมากขึ้นกะโหลก/สมองและบาดเจ็บหน้าปานกลาง หรือรุนแรงมากขึ้นกับหมวกกันน็อคได้ประมาณหนึ่งในสี่ของผู้ที่ไม่มีหมวกกันน็อค สัดส่วนของเด็กที่มีอาการบาดเจ็บของกะโหลกศีรษะ/สมองไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในระหว่างงวด บาดเจ็บร้ายแรง หรือรุนแรงมากขึ้นกะโหลก/สมองถูกตั้งข้อสังเกตบ่อยขึ้นในช่วงครึ่งหลังของรอบระยะเวลา บ่อยที่สุดในเด็กที่ไม่มีหมวกกันน็อค สัดส่วนของเด็กที่มีอาการบาดเจ็บที่ใบหน้าลดลง และสัดส่วน ด้วยบาดเจ็บแขนขาด้านบนเพิ่ม ขึ้น นอกจากนี้การบาดเจ็บปานกลาง และรุนแรง อัตราส่วนระหว่างจำนวนของเด็กที่มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะและหมายเลขที่ มีการบาดเจ็บส่วนต้นลด การบาดเจ็บของความรุนแรงใด ๆ และ การบาดเจ็บปานกลาง หรือรุนแรงมากขึ้น สรุป: หมวกกันน็อคจักรยานมีผลป้องกันชัดเจนกับอาการบาดเจ็บที่ศีรษะในเด็ก โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ที่เกิดความผิดพลาด วัยรุ่นต้องรับทราบเกี่ยวกับความเสี่ยงสูงของการบาดเจ็บของกะโหลกศีรษะ/สมองในจักรยานล้มเหลวโดยไม่มีหมวกกันน็อค บาดเจ็บแขนขาบนเกิดเพิ่มขึ้นต้องการความสนใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

AIM: การตรวจสอบการใช้งานและการป้องกันผลกระทบของหมวกกันน็อกในเด็กที่ได้รับบาดเจ็บในอุบัติเหตุจักรยานและการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบาดเจ็บในช่วงระยะเวลาในการใช้หมวกกันน็อกที่เพิ่มขึ้น วิธีการ: การบาดเจ็บในเด็กอายุต่ำกว่า 4246 อายุ 16 ปีผู้เข้าร่วมกับ A & E วอร์ดหลังจากที่ผิดพลาดจักรยานในภูมิภาคโกเธนเบิร์กในช่วง 1993-2006, ถูกนำมาวิเคราะห์ ความรุนแรงได้รับบาดเจ็บถูกจัดตามมาตราส่วนย่อบาดเจ็บ การเกิดขึ้นของกะโหลกศีรษะ / สมองได้รับบาดเจ็บและได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าได้รับการวิเคราะห์สำหรับเด็ก 3711 ที่เกี่ยวกับความรุนแรงของการบาดเจ็บการใช้หมวกกันน็อกและประชากรและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาด การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงระยะเวลาที่ได้มาวิเคราะห์สำหรับเด็ก 4246 มีเรื่องเกี่ยวกับหมวกกันน็อกไม่ได้ใช้ อัตราส่วนของจำนวนของวิชาที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะจำนวนอาสาสมัครที่มีอาการบาดเจ็บขาของความรุนแรงใด ๆ และอย่างน้อยในระดับปานกลางความรุนแรงที่ถูกใช้ในการประเมินผลการป้องกันของหมวกกันน็อคในระดับประชากร ผล: หมวกกันน็อคถูกนำมาใช้โดย 40% ของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บที่จุดเริ่มต้นของระยะเวลาและโดย 80% ณ สิ้น; มากน้อยบ่อยโดยวัยรุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ อัตราต่อรองปรับของกะโหลกศีรษะ / สมองได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือรุนแรงมากขึ้นและได้รับบาดเจ็บใบหน้าปานกลางหรือรุนแรงมากขึ้นด้วยหมวกกันน็อกอยู่ประมาณหนึ่งในสี่ของผู้ที่ไม่มีหมวกกันน็อก สัดส่วนของเด็กที่มีอาการบาดเจ็บหัวกะโหลก / สมองไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงระยะเวลา รุนแรงหรือรุนแรงมากขึ้นได้รับบาดเจ็บกะโหลกศีรษะ / สมองถูกตั้งข้อสังเกตบ่อยขึ้นในช่วงครึ่งหลังของช่วงเวลาส่วนใหญ่มักจะอยู่ในเด็กที่ไม่มีหมวกกันน็อก สัดส่วนของเด็กที่มีอาการบาดเจ็บใบหน้าลดลงและสัดส่วนที่มีการบาดเจ็บที่แขนที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังได้รับบาดเจ็บปานกลางและรุนแรง อัตราส่วนระหว่างจำนวนของเด็กที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะและจำนวนที่มีอาการบาดเจ็บขาลดลงสำหรับการบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ และได้รับบาดเจ็บปานกลางหรือรุนแรงมากขึ้น สรุปผลการวิจัย: จักรยานหมวกกันน็อกมีการป้องกันผลกระทบที่เห็นได้ชัดกับการบาดเจ็บที่ศีรษะในเด็กโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ผิดพลาด วัยรุ่นจะต้องได้รับทราบเกี่ยวกับความเสี่ยงสูงของการบาดเจ็บกะโหลกศีรษะ / สมองในอุบัติเหตุจักรยานโดยไม่ต้องสวมหมวกกันน็อค เกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นของการบาดเจ็บที่แขนที่ต้องการความสนใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาการใช้และผลกระทบของ helmets ป้องกันในเด็กที่ได้รับบาดเจ็บในการชนจักรยานและการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบาดเจ็บในระหว่างระยะเวลาเพิ่มหมวกใช้ วิธีการ : การบาดเจ็บใน 4246 เด็กต่ำกว่า 16 ปีของอายุผู้เข้าร่วม & E หอผู้ป่วยหลังจักรยานชน ในเขตชานเมือง และระหว่างปี พ.ศ. 2549 ข้อมูล บาดเจ็บความรุนแรงของการบาดเจ็บจำแนกตาม ย่อขนาด การเกิดของกะโหลกสมองการบาดเจ็บและการบาดเจ็บที่ใบหน้าใช้กำนัลมิสเตอร์โดนัทเด็กเกี่ยวกับความรุนแรงของการบาดเจ็บ , หมวกนิรภัย และลักษณะทางประชากร และความล้มเหลวปัจจัยที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบาดเจ็บในช่วงวิเคราะห์ 4246 เด็กไม่ว่าใช้หมวกกันน็อก อัตราส่วนของจำนวนของผู้ที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะไปยังหมายเลขของผู้ที่มีการบาดเจ็บใด ๆ ( อย่างน้อยระดับความรุนแรงและความรุนแรงที่ใช้คาดการณ์ผลการป้องกันของหมวกกันน็อคที่ประชากรระดับ ผลลัพธ์ : หมวกที่ถูกใช้โดย 40% ของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บที่จุดเริ่มต้นของระยะเวลาและ 80% ที่สิ้นสุด ; หญิงมากน้อยบ่อย ๆ โดยกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะ การปรับอัตราต่อรองของที่ร้ายแรงหรือการบาดเจ็บมากขึ้นกะโหลกศีรษะสมองรุนแรงและปานกลาง หรือรุนแรงมากกว่าการบาดเจ็บที่ใบหน้าด้วยหมวกประมาณหนึ่งในสี่ของผู้ที่ไม่มีหมวก สัดส่วนของเด็กที่มีอาการบาดเจ็บกะโหลก สมองไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงระยะเวลา ร้ายแรง หรือการบาดเจ็บมากขึ้นกะโหลกศีรษะสมองรุนแรงถูกสังเกตบ่อยขึ้นในช่วงครึ่งหลังของรอบระยะเวลา บ่อยที่สุดในเด็กที่ไม่มีหมวก สัดส่วนของเด็กที่มีการบาดเจ็บที่ใบหน้าลดลงและสัดส่วนกับการบาดเจ็บในรยางค์บนเพิ่มขึ้น ยังได้รับบาดเจ็บปานกลาง และรุนแรง อัตราส่วนระหว่างจำนวนของเด็กที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะ และหมายเลขที่ได้รับบาดเจ็บขาลดลงสำหรับการบาดเจ็บใด ๆและใช้ความรุนแรงหรือการบาดเจ็บที่รุนแรง สรุป : หมวกจักรยานมีชัดเจนป้องกันผลกระทบจากการบาดเจ็บที่ศีรษะในเด็ก โดยไม่คำนึงถึงความผิดพลาดสถานการณ์ วัยรุ่นต้องทราบเกี่ยวกับความเสี่ยงสูงของการบาดเจ็บสมองในกะโหลก / ตกจักรยานที่ไม่มีหมวก การเกิดการบาดเจ็บที่แขนขาส่วนบน ความต้องการ ความสนใจ