Coups, Semidemocracy, and the may 1

Coups, Semidemocracy, and the may 1992 Uprising
The democracy following the October 14 uprising was fragile and short lived. Form October 1973 until the october 1976 coup, this brief democratic period was plagued with violent conficits between the conservatives, led by the military, and the socialist movement, headed by student leaders.
Assassinations of student activists, violent clashes between the student movement and right-wing groups supported by the military, frequent labor strikes, labor and farmer rallies seeking social justice, and student protests against the return of marshal Thanom culminated in a violent attack by right-wingers on students during a demonstration at Thamasat University. This led to a military coup on October 6, 1976, ending three years of democracy.
An autocratic civilian regime took control in the coup's aftermath. the regime, unpopular because of its ultraright polices, mobilized civil servants and univeties, and suppressed progressive and socialist movements on a large scale. Another coup by another army group was launched to oust the rightist regime and establish one that supported limited political rights, known as a semidemocracy. It was first led by General Kriangsak Chamanaand and later by General prem Tinsulanonda, who served as prime minister form 1980 to 1988.
After the Octorber 14 event, the army was divided into several factions. The most notable were the Young Turks, the Class 5, and the Democratic Soldiers. The young Turks and the class 5 were midlevel officers, mostly troop commanders. Members of Class 5 graduated form academy two years prior to the Young Turks belived that Thailand needed a strong leader with a clean record whereas class 5 prioritized the maintenance of the military class's ruling position over Thai society. The democratic soldiers advocated a "democratic" revolution along the line of Leninist democratic centralism.
General Prem's eight-years rule was made possible by the support of the Thai royal family, the army, and political parties. When he first came to power, all three factions of the army threw their suppoer behind him. However, he almost of class 5 and the Democratic Soldiers. The latter decided to dissolve their organization after they were able to convince Prem to adopt a political strategy (known as prime Minister's Order 66-2523) to suppress communist insurgents.
The semidemocracy under General Prem's Leadership provided an opportunity for political parties to establish linkages with business and social groups. The continued operation of the elected House of Representatives facilitated the institutionalization of an elected legislature and the dissemination of democratic values among the Thais. After eight years in power, Prem faced popular pressure to make a choise between running in the 1989 election or stepping down. Prem left office, ending the semidemoceary and enabling a full-fledged democracy to be reestablished under the leadership of Chatichai Choonhavan, the leader of Chart Thai Party, which was the largest party in the House of Representatives at that time.
The democratic government of Chatichai was plagued with a host of problems, the most serious of which was the corruption of key cabinet members. Tension in the relationship between the government and military leaders due to lack of trust also presented a problem for Chatichai. As these tensions grew and the corruption became more widespread, the legitimacy of Chatichai's government was weakened, providing an opportunity for the military to step in'
A coup to topple Chatichai's government was launched by the army under the leadership of the class 5 faction in February 1991. The junta claimed that the objective of the coup was to disband the corrupt government, but the public believed that the group was motivated by personal ambitions to gain more control over elected politicians. The public allowed the junta to maintain order and launch political reform programs. former diplomat and businessman, to lead the government and set a years as a time frame for drafting a new constitution.
An uprising against the junta occurred in May 1992 when General Suchinda Kraprayoon, the Class 5 leader, assumed the the premiership after the enactment of the new constitution and the general election of the House of Representatives. Suchinda's decision to occupy the premiership served as evidence that class 5 intended to hold on to power. The protest developed into violent clashes between protesters and government forces. To prevent the situation form getting worse, the people asked king Bhumibol Adulyadej to intervene and resolve the conflict.
The prime minister and Chamlong srimuang, one of the leaders of the uprising, were summoned to have an audience with the king. The meeting was televised live nationwide. The king advised the two leaders to settle the conflict peacefully and seek advice form sanya Dhammasak, the president of the privy Council, and General Prem, a member of the council. A few hours later, general Suchinda appeared on television announcing his resignation from the premiership to end the crisis. Anand Punyarachun was appointed prime minister agian, and his mission was to organize another general election sometime in 1992. The election was held on september 13, 1992, and Chuan Leekpai, the leader of the Democrat Party, become prime minister

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รัฐประหาร Semidemocracy และพฤษภาคม 1992 อัพไรซิ่ง ประชาธิปไตยที่ต่อสู้ 14 ตุลาคมเปราะบาง และสั้นอาศัยอยู่ แบบฟอร์ม 1973 ตุลาคมจนถึงรัฐประหาร 1976 ตุลาคม ช่วงประชาธิปไตยนี้สั้น ๆ ถูกเลือก ด้วย conficits รุนแรงระหว่างอนุรักษ์นิยม นำ โดยทหาร และการเคลื่อนไหวสังคมนิยม โดยผู้นำนักศึกษาAssassinations ของนักศึกษานักเคลื่อนไหว ปะทะกันรุนแรงระหว่างขบวนการนักศึกษาและกลุ่มฝ่ายขวาได้รับการสนับสนุน โดยการนัดหยุดงานบ่อย ทหารแรงงาน แรงงาน และเกษตรกร rallies แสวงความยุติธรรมทางสังคม และนักศึกษาปฏิเสธกับการกลับมาของจอมพลถนอม culminated ในการโจมตีรุนแรงโดย right-wingers นักเรียนในระหว่างการสาธิตที่มหาวิทยาลัย Thamasat นี้นำไปสู่การรัฐประหารในเดือน 6 ตุลาคม 1976 สิ้นสุดสามปีประชาธิปไตยระบอบพลเรือนเผด็จการเอาตัวควบคุมในผลพวงของรัฐประหาร ระบอบ กฏหมายเนื่องจากการ ultraright ด้าน นโยบาย ข้าราชการระดมและ univeties และระงับการเคลื่อนไหวก้าวหน้า และสังคมนิยมบนขนาดใหญ่ อื่นทำรัฐประหาร โดยกองทัพกลุ่มอื่นถูกเปิดใช้แล้วขับระบอบ rightist และสร้างที่จำกัดสิทธิทางการเมือง เป็น semidemocracy ที่ได้รับการสนับสนุน เรื่องแรกถูกนำ โดย Chamanaand เกรียงศักดิ์ทั่วไป และในภายหลัง โดยทั่วไปเปรม ติณสูลานนท์ ผู้ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีปี 1980-1988หลังจากเหตุการณ์ Octorber 14 กองทัพถูกแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย มรกถูก เติร์กหนุ่ม 5 ชั้น และ ทหารประชาธิปไตย เติร์กหนุ่มและชั้น 5 มีเจ้าหน้าที่ midlevel ส่วนใหญ่กองทหารผู้นั้น สมาชิกของสถาบันแบบฟอร์มระดับบัณฑิตศึกษา 5 ชั้นปีสองก่อน belived หนุ่มเติร์กว่า ไทยต้องเป็นผู้นำแข็งแรงสะอาดระเบียนในขณะที่ชั้น 5 จัดลำดับความสำคัญการบำรุงรักษาของทหารชั้นของหุตำแหน่งมากกว่าสังคมไทย ทหารประชาธิปไตย advocated ปฏิวัติ "ประชาธิปไตย" ตามแนวของ Leninist centralism ประชาธิปไตยกฎทั่วไปเปรม 8 ปีทำได้ โดยการสนับสนุนของพระราชวงศ์ไทย กองทัพ และพรรคการเมือง เมื่อเขามาเพื่อพลังงาน ฝ่ายสามทั้งหมดของกองทัพบกโยน suppoer ของพวกเขาอยู่เบื้องหลังเขา อย่างไรก็ตาม เขาเกือบของ 5 ทหารประชาธิปไตย หลังตัดสินใจยุบองค์กรของพวกเขาหลังจากที่พวกเขามีความสามารถในการโน้มน้าวใจเปรมเพื่อนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ทางการเมือง (เรียกว่านายกรัฐมนตรีสั่ง 66-2523) การปราบปรามพวกก่อการร้ายคอมมิวนิสต์Semidemocracy ภายใต้ผู้นำทั่วไปเปรมให้โอกาสพรรคการเมืองเพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับธุรกิจและกลุ่มสังคม การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของป่าวราษฎรอำนวย institutionalization ของการทูลเกล้าทูลกระหม่อมป่าวและเผยแพร่ค่าประชาธิปไตยในหมู่คนไทย หลังจากแปดปีอำนาจ เปรมประสบความดันนิยมทำ choise ระหว่างทำงานในการเลือกตั้งปี 1989 หรือก้าวลง เปรมซ้ายสำนักงาน semidemoceary สิ้นสุด และช่วยให้ประชาธิปไตยเต็มใบเพื่อจะเพลิดภายใต้การนำของชาติชายชุณหะวัณ ผู้นำของแผนภูมิพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในราษฎรขณะนั้นรัฐบาลประชาธิปไตยของชาติชายชุถูกเลือก ด้วย ปัญหาร้ายแรงที่สุดซึ่งเป็นความเสียหายของสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่สำคัญ ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและทหารเนื่องจากขาดความน่าเชื่อถือยัง นำเสนอปัญหาสำหรับชาติชายชุ เป็นความตึงเครียดเหล่านี้เติบโต และความเสียหายกลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ชอบธรรมของรัฐบาลชาติชายชุของที่ลดลง ให้โอกาสให้ทหารใน ' รัฐประหารเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของชาติชายชุถูกเปิดใช้ โดยกองทัพภายใต้การนำของฝ่าย 5 ชั้นในเดือน 1991 กุมภาพันธ์ ยึดอ้างว่า วัตถุประสงค์ของการทำรัฐประหารเพื่อ ยุบรัฐบาลเสียหาย แต่ประชาชนเชื่อว่า กลุ่มที่มีแรงจูงใจ ด้วยความทะเยอทะยานส่วนบุคคลการควบคุมนักการเมืองได้รับเลือกมากขึ้น ประชาชนยึดรักษาใบสั่ง และเรียกใช้โปรแกรมการปฏิรูปทางการเมืองได้ อดีตทูตและนักธุรกิจ การนำรัฐบาลตั้งปีที่เป็นกรอบเวลาการร่างรัฐธรรมนูญใหม่การสู้กับยึดเกิดขึ้นใน 1992 พฤษภาคมเมื่อพล.อ.สุจินดาคราประยูรในทั่วไป ผู้นำระดับ 5 สันนิษฐานในฟุตบอลหลังจากการออกรัฐธรรมนูญใหม่และการเลือกตั้งทั่วไปของราษฎร ตัดสินใจของพล.อ.สุจินดาครองยูสเซอร์ที่ทำหน้าที่เป็นหลักฐานที่ 5 ชั้นไว้เก็บพลังงาน ชุมนุมพัฒนาเป็นการปะทะกันรุนแรงระหว่างผู้ชุมนุมและรัฐบาลกองทัพ การป้องกันแบบสถานการณ์การแย่ลง คนถามภูมิพลอดุลยเดชเพื่อแทรกแซง และแก้ไขความขัดแย้งนายกรัฐมนตรีและจำลอง srimuang หนึ่งในผู้นำสู้ ถูกเรียกให้เข้าเฝ้าฯ พระมหากษัตริย์ การประชุมถูกสด televised ทั่วประเทศ พระแนะนำให้ผู้นำทั้งสองจะชำระความขัดแย้งสงบ และแสวงหาคำแนะนำแบบฟอร์มย่า Dhammasak ประธานองคมนตรี และทั่วไปเปรม สมาชิกสภา กี่ชั่วโมงสุจินดาหลัง ทั่วไปปรากฏในโทรทัศน์ที่ประกาศลาออกของเขาจากยูสเซอร์จะสิ้นสุดวิกฤติ นาย Punyarachun ถูกแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และเขามีการ จัดการเลือกตั้งทั่วไปอีกบางครั้งในปี 1992 การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 กันยายน 1992 และ Chuan Leekpai หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็น นายกรัฐมนตรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รัฐประหาร, Semidemocracy และพฤษภาคม 1992 กบฏ
ประชาธิปไตยต่อไปนี้ 14 ตุลาคมจลาจลเป็นเปราะบางและสั้น แบบฟอร์มตุลาคม 1973 จนถึงตุลาคม 1976 การทำรัฐประหารนี้ยุคประชาธิปไตยสั้น ๆ เป็นทุกข์กับ conficits รุนแรงระหว่างพรรคอนุรักษ์นิยมนำโดยทหารและการเคลื่อนไหวสังคมนิยมนำโดยผู้นำนักศึกษา.
ลอบสังหารของกิจกรรมนักศึกษา, การปะทะกันรุนแรงระหว่างขบวนการนักศึกษาและขวา กลุ่ม -wing สนับสนุนโดยทหารแรงงานการนัดหยุดงานบ่อยแรงงานและการชุมนุมเกษตรกรแสวงหาความยุติธรรมทางสังคมและนักศึกษาประท้วงต่อต้านการกลับมาของจอมพลถนอม culminated ในการโจมตีรุนแรงโดย wingers ขวาในระหว่างการสาธิตนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นี้นำไปสู่การทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 1976 ตอนจบสามปีของการปกครองระบอบประชาธิปไตย.
ระบอบการปกครองเผด็จการพลเรือนเข้าควบคุมในผลพวงของการทำรัฐประหาร ระบอบการปกครองที่ไม่เป็นที่นิยมเพราะนโยบาย ultraright ของกองกำลังข้าราชการและ univeties และปราบปรามการเคลื่อนไหวของความก้าวหน้าและสังคมนิยมในขนาดใหญ่ การทำรัฐประหารโดยกลุ่มกองทัพอื่นอีกได้เปิดตัวที่จะขับไล่ระบอบการปกครองของฝ่ายขวาและสร้างหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนสิทธิทางการเมืองที่ จำกัด ที่รู้จักกันเป็น semidemocracy มันถูกนำเป็นครั้งแรกโดยทั่วไปเกรียงศักดิ์ Chamanaand และต่อมาพลเอกเปรมติณสูลานนท์ซึ่งทำหน้าที่เป็นรูปแบบนายกรัฐมนตรี 1980-1988.
หลังจากเดือนตุลาคม 14 เหตุการณ์ที่กองทัพถูกแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ที่โดดเด่นมากที่สุดคือหนุ่มสาวชาวเติร์กรุ่นที่ 5 และทหารประชาธิปไตย หนุ่มสาวชาวเติร์กและชั้น 5 เป็นเจ้าหน้าที่ Midlevel ส่วนใหญ่ผู้บัญชาการทหาร สมาชิกรุ่นที่ 5 จบการศึกษาสถาบันการศึกษารูปแบบสองปีก่อนที่จะมีหนุ่มสาวชาวเติร์กเชื่อว่าประเทศไทยต้องการผู้นำที่เข้มแข็งกับบันทึกการทำความสะอาดในขณะที่ชั้น 5 จัดลำดับความสำคัญในการบำรุงรักษาของตำแหน่งชนชั้นปกครองของทหารกว่าสังคมไทย ทหารประชาธิปไตยสนับสนุน "ประชาธิปไตย" การปฏิวัติตามแนวอำนาจประชาธิปไตยนิสต์.
พลเอกเปรมแปดปีกฎได้ทำไปโดยการสนับสนุนของพระราชวงศ์ไทย, กองทัพและพรรคการเมือง เมื่อแรกที่เขาเข้ามาสู่อำนาจทั้งสามฝ่ายของกองทัพโยน SUPPOER ของพวกเขาอยู่ข้างหลังเขา แต่เขาเกือบของชั้นที่ 5 และทหารประชาธิปไตย หลังตัดสินใจที่จะละลายองค์กรของพวกเขาหลังจากที่พวกเขามีความสามารถที่จะโน้มน้าวให้เปรมจะนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ทางการเมือง (ที่รู้จักกันสั่งนายกรัฐมนตรี 66-2523) ในการปราบปรามการก่อการร้ายคอมมิวนิสต์.
semidemocracy ภายใต้การนำของพลเอกเปรมให้โอกาสสำหรับพรรคการเมืองที่จะสร้างความเชื่อมโยงกับ ธุรกิจและกลุ่มสังคม การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรอำนวยความสะดวกของสถาบันได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติและเผยแพร่คุณค่าของระบอบประชาธิปไตยในหมู่คนไทย แปดปีหลังจากอยู่ในอำนาจเปรมต้องเผชิญกับแรงกดดันที่จะทำให้ choise ระหว่างการทำงานในปี 1989 การเลือกตั้งหรือก้าวลง เปรมออกจากสำนักงานสิ้นสุด semidemoceary และช่วยให้ประชาธิปไตยเต็มเปี่ยมที่จะสถาปนาภายใต้การนำของชาติชายชุ ณ หะวัณหัวหน้าพรรคไทยซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรในเวลานั้น.
รัฐบาลประชาธิปไตยของชาติชาย เป็นทุกข์กับโฮสต์ของปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดซึ่งเป็นความเสียหายของสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่สำคัญ ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและผู้นำทางทหารเนื่องจากการขาดความไว้วางใจยังนำเสนอปัญหาสำหรับชาติชาย ขณะที่ความตึงเครียดเหล่านี้เติบโตและการทุจริตกลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นถูกต้องตามกฎหมายของรัฐบาลชาติชายที่อ่อนแอให้โอกาสสำหรับทหารที่จะก้าวเข้า '
รัฐประหารเพื่อโค่นล้มรัฐบาลชาติชายได้รับการเปิดตัวโดยกองทัพภายใต้การนำของคลาสฝ่าย 5 ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1991 รัฐบาลทหารอ้างว่าวัตถุประสงค์ของการทำรัฐประหารคือการปลดประจำการของรัฐบาลเสียหาย แต่ประชาชนเชื่อว่ากลุ่มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความทะเยอทะยานส่วนบุคคลที่จะได้รับการควบคุมที่มากกว่านักการเมืองได้รับการเลือกตั้ง ประชาชนได้รับอนุญาตให้รัฐบาลทหารพม่าในการรักษาความสงบเรียบร้อยและเปิดโปรแกรมการปฏิรูปการเมือง อดีตนักการทูตและนักธุรกิจที่จะนำรัฐบาลและตั้งปีเป็นกรอบเวลาสำหรับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่.
จลาจลต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าที่เกิดขึ้นพฤษภาคม 1992 เมื่อนายพลเอกสุจินดาคราประยูรรุ่นที่ 5 ผู้นำสันนิษฐานว่านายกรัฐมนตรีหลังจากที่กฎหมายของ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการเลือกตั้งทั่วไปของสภาผู้แทนราษฎร สุจินดาตัดสินใจที่จะครอบครองนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าชั้น 5 ตั้งใจที่จะยึดมั่นในอำนาจ ประท้วงพัฒนาไปสู่การปะทะกันรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงและกองกำลังของรัฐบาล เพื่อป้องกันไม่ให้รูปแบบสถานการณ์เลวร้ายลงคนถามกษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดชที่จะเข้าไปแทรกแซงและแก้ปัญหาความขัดแย้ง.
นายกรัฐมนตรีและจำลองศรีเมืองหนึ่งในผู้นำของการจลาจลถูกเรียกตัวไปมีผู้ชมมีพระมหากษัตริย์ ที่ประชุมได้ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ กษัตริย์แนะนำให้ผู้นำทั้งสองจะชำระความขัดแย้งอย่างสันติและขอแบบฟอร์มคำแนะนำ sanya ธรรมประธานองคมนตรีและพลเอกเปรมเป็นสมาชิกของสภา ไม่กี่ชั่วโมงต่อมานายพลเอกสุจินดาปรากฏบนจอโทรทัศน์ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อยุติวิกฤต อานันท์ปันยารชุนได้รับการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี agian และภารกิจของเขาคือการจัดเลือกตั้งทั่วไปอีกบางครั้งในปี 1992 การเลือกตั้งในวันที่ 13 กันยายน 1992 และชวนหลีกภัยหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พัด , semidemocracy และพฤษภาคม 2535 การปฏิวัติประชาธิปไตย 14 ตุลาคม
ต่อไปนี้การจลาจลเป็นกรอบ และเวลาสั้นๆ แบบฟอร์มตุลาคม 2516 จนถึงรัฐประหารตุลาคม 2519 สมัยประชาธิปไตยนี้สั้น ๆเป็น plagued กับ conficits รุนแรงระหว่างอนุรักษ์นิยมนำโดยทหาร และขบวนการสังคมนิยมนำโดยผู้นำนักเรียน
ลอบสังหารกิจกรรมนักเรียนการปะทะกันรุนแรงระหว่างนักเรียนเคลื่อนไหวและกลุ่มฝ่ายขวาสนับสนุนโดยทหารนัดแรงงานบ่อย แรงงาน และชาวนาชุมนุมการแสวงหาความยุติธรรมในสังคม และนักเรียนประท้วงต่อต้านการกลับมาของจอมพลถนอม culminated ในการโจมตีที่รุนแรง โดยเล่นกับนักเรียนในระหว่างการสาธิตที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ . นี้นำไปสู่การรัฐประหารในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519จบสามปีของประชาธิปไตย เป็นระบอบเผด็จการพลเรือน
เข้ามาคุมในผลพวงของรัฐประหาร . ระบอบการปกครอง ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากของ ultraright ระดมตำรวจ ข้าราชการและ univeties และปราบปรามการเคลื่อนไหวสังคมนิยมที่ก้าวหน้าและมีขนาดใหญ่รัฐประหารอีก โดยกองทัพกลุ่มอื่นถูกเปิดตัวเพื่อขับไล่ระบอบขวาจัด และสร้างหนึ่งที่สนับสนุนจำกัดสิทธิทางการเมือง เรียกว่า semidemocracy . มันเป็นครั้งแรกที่นำโดยนายพล เกรียงศักดิ์ chamanaand และต่อมาโดย พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีจาก 2523 ถึง 2531 .
หลังจาก octorber 14 เหตุการณ์ กองทัพถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆที่เด่นที่สุดคือ หนุ่มไฟแรง , ชั้น 5 และประชาธิปไตยทหาร หนุ่มไฟแรง และชั้น 5 เป็น midlevel เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นผู้บัญชาการทหารสมาชิกของคลาส 5 จบโรงเรียนแบบสองปี ก่อนหนุ่มเติร์กเชื่อว่าประเทศไทยต้องการผู้นำที่แข็งแกร่งกับขาวสะอาดมี 5 ชั้นได้แก่การบำรุงรักษาของทหารชั้นปกครองของตำแหน่งเหนือสังคมไทย ทหารประชาธิปไตย สนับสนุน เป็น " ประชาธิปไตย " การปฏิวัติแนวรวมอำนาจมาศูนย์กลางประชาธิปไตย
leninist .ของ พล.อ. เปรม แปดปี กฎทำให้เป็นไปได้โดยการสนับสนุนของครอบครัวไทย กองทัพ และพรรคการเมือง ตอนแรกที่เขาเข้ามามีอำนาจทั้งสามฝ่ายกองทัพโยนของพวกเขา suppoer อยู่ข้างหลังเขา อย่างไรก็ตาม เขาเกือบ 5 ชั้น และทหารประชาธิปไตยหลังตัดสินใจยุบสภาองค์กรของพวกเขาหลังจากที่พวกเขาสามารถโน้มน้าวให้เปรมต้องใช้กลยุทธ์ทางการเมือง ( ที่รู้จักกันเป็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรี 66-2523 ) ไปปราบกบฎคอมมิวนิสต์
semidemocracy ภายใต้การนำของพล.อ. เปรม ให้เปิดโอกาสให้พรรคการเมือง เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับธุรกิจและกลุ่มสังคมการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรจัดการเมืองขึ้นของการเลือกตั้งรัฐสภาและเผยแพร่ค่านิยมประชาธิปไตยของคนไทย หลังจากอยู่ในอำนาจมาแปดปี เปรมเผชิญนิยมความดันเพื่อให้ choise ระหว่างวิ่งใน 2532 การเลือกตั้งหรือก้าวลง เปรมออกจากสำนักงานจบ semidemoceary และทำให้ประชาธิปไตยเต็มใบ เป็น reestablished ภายใต้การนําของ ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น รัฐบาลประชาธิปไตย ของรัฐบาลชาติชาย
เป็น plagued กับโฮสต์ของปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดของซึ่งเป็นความเสียหายของตู้เก็บกุญแจสมาชิกความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและผู้นำกองทัพ เนื่องจากขาดความไว้วางใจ ยังได้เสนอปัญหาของ . ความตึงเครียดเหล่านี้เติบโตและการทุจริตเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ความชอบธรรมของรัฐบาลชาติชาย คือ อ่อนแอ การให้โอกาสให้ทหารเข้ามา '
รัฐประหารเพื่อโค่นล้มรัฐบาลชาติชายถูกเปิดตัวโดยกองทัพภายใต้การนําของชั้น 5 ฝ่าย ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1991 รัฐบาลทหารอ้างว่าวัตถุประสงค์ของรัฐประหารคือการยุบรัฐบาลทุจริต แต่ประชาชนเชื่อว่า กลุ่มที่ถูกกระตุ้นโดยความทะเยอทะยานส่วนบุคคลที่จะได้รับการควบคุมมากขึ้นกว่าการเลือกตั้ง นักการเมืองรัฐอนุญาตให้พม่า เพื่อรักษาและเพื่อเปิดโปรแกรมการปฏิรูปการเมือง อดีตนักการทูตและนักธุรกิจที่จะเป็นผู้นำรัฐบาล และตั้งค่าเป็นปีเป็นกรอบเวลาสำหรับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
การจลาจลต่อต้านคณะรัฐประหารเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2535 เมื่อนายพลสุจินดา คราประยูร , ชั้น 5 ผู้นำถือว่าเป็นนายกหลังจากบัญญัติในรัฐธรรมนูญใหม่ และการเลือกตั้งของสภาผู้แทนราษฎร การตัดสินใจที่จะครอบครองโดยเราทำหน้าที่เป็นหลักฐานว่า 5 ชั้นตั้งใจที่จะยึดมั่นในอำนาจ การประท้วงที่พัฒนาไป มีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและกองกำลังของรัฐบาล เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ที่ฟอร์มแย่ลงเรื่อยๆคนถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแทรกแซงและแก้ไขความขัดแย้ง
นายกรัฐมนตรีและจำลอง ศรีเมือง หนึ่งในผู้นำของการปฏิวัติ ถูกเรียกให้เข้าเฝ้ากษัตริย์ การประชุมที่ถ่ายทอดสดอยู่ทั่วประเทศ พระราชาทราบสองผู้นำแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ และขอคำแนะนำจาก dhammasak ซานย่า , ประธานองคมนตรีและ พลเอกเปรม เป็นสมาชิกสภา ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พลเอกสุจินดาออกทีวีประกาศลาออกจากนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติวิกฤติ อานันท์ punyarachun ได้รับการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และภารกิจของเขาคือการจัดระเบียบอื่นบ้างในการเลือกตั้งทั่วไป 1992 การเลือกตั้งที่จัดขึ้นในวันที่ 13 ปี และ นายชวน หลีกภัย , หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นนายกรัฐมนตรี