Thai schooling gets a failing grade

Thai schooling gets a failing grade because political gamesmanship ruins any chance of improvement

Anyone tempted to blame the poor academic record of Thai students on the students themselves need only look at the system schooling them. Beneficial policies have been lacking for more than a decade while each change of government sees fresh improvement schemes involving massive investments.

Currently the country's secondary-school education system is ranked among the region's worst, and English-language grades continue to plummet.

The fanfare that greeted the Yingluck Shinawatra government's one-tablet-per-student notion faded long ago, along with plans to establish "English-only zones" in schools. Both initiatives have been superseded by a policy of reduced classroom time. Now we have a debate over shifting the university calendar to match that of the rest of Southeast Asia, and university admissions are about to undergo yet another revamp.

With few if any of these policies able to come to grips with the root cause of Thailand's educational failing grades, this constant ebb and flow of ideas and efforts at least identifies the source of the problem. What we have lacked all these years is a master plan that can withstand the political whirlwind.

We have a school system that's always at the mercy of politics. Typically, the Education Ministry portfolio is awarded to someone from the government's coalition-allied parties. Less lucrative in terms of mega-projects and the kickbacks they bring, it's regarded as a second-tier post.

Nor, remarkably, is education policy ever a key platform in election campaigns, a fact as condemning of the voting public as it is of politicians. Candidates who do seek to win votes by addressing school issues tend to spout exactly the sort of populist notions that have failed to bring about sustainable benefit.

Government by coalition is not a factor in the failure of the system. Both the Thaksin and Yingluck administrations, ruling by electoral majority, appointed streams of education ministries, every one of whom came up with a fresh idea that brushed aside preceding efforts. Now we have an ostensibly interim government with Cabinet ministers unable to initiate long-term reforms. Even if a good policy were to be broached, the next elected government is likely to sweep it aside.

Drastic change is needed if Thailand wants to stay globally competitive - and regionally relevant now that the Asean Economic Community is upon us. We must end the habit of flip-flop policies. In its latest survey, assessing 76 countries, the Organisation for Economic Cooperation and Development ranked Thailand's secondary-level education 47th. By comparison Singapore was first and Vietnam 12th. In English-language proficiency, Thailand is third worst in Asia, having dropped to No 62 out of 70 in an Education First study. Higher up the list are Malaysia, Indonesia and, again, Singapore and Vietnam.

There is little cause for optimism as to breaking the grip of the education bureaucracy. Instead, perhaps it is time for a bold move - let's take the schools away from the stolid civil service and the mess of politics.

What we need is a elected, independent education "tsar" - given the post for at least a 10-year term, enough time for a leader with vision to steer reform in the right direction. What happened in the past and what continues to happen now is too closely linked to political winds and waves. For the sake of the younger generation and the future of the country, we need to shed the anchor of party gamesmanship and hold to an absolute course.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไทยศึกษาได้รับเกรดล้มเหลวเนื่องจากเมือง gamesmanship ซากปรักหักพังมีโอกาสปรับปรุงนอกจากนี้คนล่อลวงให้โทษบันทึกวิชาการไม่ดีของนักเรียนไทยกับนักเรียนเองเท่านั้นต้องดูที่ระบบ schooling นั้น มีการขาดนโยบายที่เป็นประโยชน์สำหรับกว่าทศวรรษในขณะที่แผนงานปรับปรุงสดที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนขนาดใหญ่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล ขณะนี้การจัดอันดับของระบบมัธยมศึกษาของประเทศนี่ร้ายของภูมิภาค และเกรดภาษาอังกฤษยังดิ่ง Fanfare ที่รับการต้อนรับของรัฐบาล Yingluck ชินวัตรหนึ่งแท็บเล็ตต่อนักคิด สีจางลงนาน พร้อมแผนสร้าง "ภาษาอังกฤษเฉพาะโซน" ในโรงเรียน โครงการทั้งสองได้ถูกทดแทน ด้วยนโยบายเวลาเรียนลดลง ขณะนี้ เรามีการอภิปรายผ่านขยับปฏิทินมหาวิทยาลัยให้ตรงกับที่เหลือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรับสมัครมหาวิทยาลัยจะรับการปรับปรุงอีกมีไม่กี่ ถ้าใด ๆ ของนโยบายเหล่านี้ได้มากับสาเหตุรากของเกรดล้มเหลวทางการศึกษาของประเทศไทย ลดลงคงและกระแสความคิดและความพยายามนี้น้อยระบุแหล่งที่มาของปัญหา สิ่งเราได้ขาดทุกปีเหล่านี้เป็นแผนหลักที่สามารถทนต่อลมทางการเมือง เรามีระบบโรงเรียนที่จะได้อยู่ที่ความเมตตาของเมือง ทั่วไป ผลงานกระทรวงศึกษาธิการจะมอบให้บุคคลจากฝ่ายพันธมิตรสัมพันธมิตรของรัฐบาล น้อยกำไรโครงการร็อคและ kickbacks พวกเขานำ มันถือเป็นระดับที่สองโพสต์ หรือ อย่างยิ่ง นโยบายการศึกษาเคย เป็นคีย์แพลตฟอร์มในการส่งเสริมการเลือกตั้ง ความจริงเป็นการประณามการใช้ของประชาชนลงคะแนนเสียงซึ่งเป็นของนักการเมือง ผู้สมัครที่ชนะโหวตโดยประเด็นโรงเรียน มีแนวโน้มพุ่งตรงเรียงลำดับของความเข้าใจโครงการประชานิยมที่ล้มเหลวก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนรัฐบาล โดยรัฐบาลจึงไม่ใช่ปัจจัยความล้มเหลวของระบบ จัดการทักษิณและ Yingluck การปกครอง โดยเสียงส่วนใหญ่เลือกตั้ง ห้องสตรีมของทบวงกรมศึกษา ทุกคนที่มากับความคิดสดที่ทาสีกันความพยายามก่อนหน้านี้ ขณะนี้ เรามีรัฐบาลเป็นรัฐบาลชั่วคราวกับคณะรัฐมนตรีรัฐมนตรีสามารถเริ่มการปฏิรูประยะยาว แม้ถ้านโยบายดีมี broached รัฐบาลป่าวถัดไปมีแนวโน้มที่กวาดไว้ต่อการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งจำเป็นถ้าไทยต้องการ แข่งขันทั่วโลก - และเรื่องที่เกี่ยวข้องที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นพวกเรา เราต้องจบนิสัยของฟลิปฟล็อป ในการสำรวจล่าสุด ประเมินประเทศ 76 องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาการจัดอันดับของไทยระดับมัธยมศึกษา 47th โดยเปรียบเทียบที่สิงคโปร์เป็นครั้งแรกและเวียดนาม 12 ในความสามารถทางภาษาอังกฤษ ไทยเป็นร้ายสามในเอเชีย มีความเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ 62 จาก 70 ในการศึกษาการศึกษาแรก สูงขึ้นรายมีมาเลเซีย อินโดนีเซีย อีก สิงคโปร์และเวียดนามและ มีสาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มองในแง่ดีเป็นการทำลายการจับข้าราชการศึกษา บางทีมันเป็นเวลาสำหรับการย้ายตัวหนา--ลองมาโรงเรียนราชการ stolid และระเบียบของทางการเมืองสิ่งที่เราต้องการศึกษาที่ได้รับเลือก อิสระ "ซาร์" - ให้ลงน้อย 10 ปี เวลาเพียงพอสำหรับการเป็นผู้นำมีวิสัยทัศน์เพื่อคัดท้ายปฏิรูปในทิศทางที่ถูก สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และที่ยังเกิดขึ้นขณะนี้อย่างใกล้ชิดเกินไปลิงค์กับคลื่นและลมทางการเมือง เพื่อคนรุ่นใหม่และอนาคตของประเทศ เราจำเป็นต้องหลั่งยึดของ gamesmanship บุคคล และถือเป็นหลักสูตรที่แน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาไทยได้รับเกรดล้มเหลวเพราะ gamesmanship การเมืองซากปรักหักพังโอกาสของการปรับปรุงใด ๆทุกคนที่อยากจะตำหนิผลการเรียนที่ดีของนักเรียนไทยในนักเรียนเองต้องการเพียงมองไปที่ระบบการศึกษาของพวกเขา นโยบายที่เป็นประโยชน์ได้รับการขาดมานานกว่าทศวรรษที่ผ่านมาขณะที่แต่ละการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเห็นแผนการปรับปรุงสดที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนขนาดใหญ่. ปัจจุบันของประเทศรองโรงเรียนระบบการศึกษาเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคที่เลวร้ายที่สุดและผลการเรียนภาษาอังกฤษที่ยังคงดิ่ง. ประโคมที่ ทักทายยิ่งลักษณ์ชินวัตรรัฐบาลหนึ่งแท็บเล็ตต่อนักเรียนคิดจางหายไปนานที่ผ่านมาพร้อมกับแผนการที่จะสร้าง "โซนภาษาอังกฤษเท่านั้น" ในโรงเรียน ความคิดริเริ่มที่ทั้งสองได้ถูกแทนที่โดยนโยบายของเวลาเรียนลดลง ตอนนี้เรามีการถกเถียงเรื่องการขยับปฏิทินมหาวิทยาลัยให้ตรงกับส่วนที่เหลือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และการรับสมัครมหาวิทยาลัยที่กำลังจะได้รับยังปรับปรุงอีก. มีไม่กี่ถ้ามีนโยบายเหล่านี้สามารถที่จะมาจับกับสาเหตุของประเทศไทยการศึกษา เกรดความล้มเหลวนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องและการไหลของความคิดและความพยายามอย่างน้อยจะระบุแหล่งที่มาของปัญหา สิ่งที่เราได้ขาดทุกปีเหล่านี้เป็นแผนแม่บทที่สามารถทนต่อพายุหมุนทางการเมือง. เรามีระบบการศึกษาที่เสมอในความเมตตาของการเมือง โดยปกติแล้วผลงานของกระทรวงการศึกษาเป็นรางวัลให้กับใครบางคนจากรัฐบาลพรรคร่วมรัฐบาล-พันธมิตร กำไรน้อยในแง่ของโครงการขนาดใหญ่และสินบนที่พวกเขานำก็ถือได้ว่าเป็นโพสต์สองชั้น. ไม่น่าทึ่งเป็นนโยบายการศึกษาที่เคยเป็นเวทีสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งที่มีความเป็นจริงประณามของประชาชนออกเสียงลงคะแนนในขณะที่มันเป็น นักการเมือง ผู้สมัครที่ไม่พยายามที่จะชนะคะแนนโหวตโดยประเด็นโรงเรียนมีแนวโน้มที่จะรางน้ำว่าการจัดเรียงของความคิดประชานิยมที่ยังไม่ได้นำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ยั่งยืน. รัฐบาลโดยรัฐบาลไม่ได้เป็นปัจจัยในความล้มเหลวของระบบที่ ทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์บริหารงานปกครองโดยเสียงข้างมากในการเลือกตั้งได้รับการแต่งตั้งลำธารของกระทรวงการศึกษาทุกคนของผู้ที่มากับความคิดที่สดที่ปัดทิ้งความพยายามก่อนหน้านี้ ตอนนี้เรามีรัฐบาลชั่วคราวอย่างเห็นได้ชัดกับรัฐมนตรีไม่สามารถที่จะเริ่มต้นการปฏิรูปในระยะยาว แม้ว่าจะมีนโยบายที่ดีที่จะได้รับการทาบทามรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งต่อไปมีแนวโน้มที่จะกวาดกัน. การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเป็นสิ่งจำเป็นหากประเทศไทยต้องการที่จะอยู่ในการแข่งขันทั่วโลก - และในระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องในขณะนี้ว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นพวกเรา เราต้องจบนิสัยของนโยบายพลิกล้มเหลว ในการสำรวจล่าสุดของการประเมิน 76 ประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาการจัดอันดับการศึกษาระดับมัธยมศึกษาของไทย 47 โดยเปรียบเทียบเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์และเวียดนาม 12 ในภาษาอังกฤษภาษาไทยเป็นที่สามที่เลวร้ายที่สุดในเอเชียที่มีการปรับตัวลดลงจะไม่มี 62 จาก 70 ในการศึกษา Education First ที่สูงขึ้นในรายการที่มีมาเลเซียอินโดนีเซียและอีกครั้งสิงคโปร์และเวียดนาม. มีสาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ มองโลกในแง่ที่จะทำลายการยึดเกาะของระบบราชการการศึกษาเป็น แต่บางทีมันอาจจะเป็นเวลาสำหรับการย้ายตัวหนา - ขอใช้โรงเรียนออกจากราชการไม่หวั่นไหวและระเบียบของทางการเมือง. สิ่งที่เราต้องการคือการได้รับการเลือกตั้งการศึกษาอิสระ "ซาร์" - ได้รับการโพสต์เป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี ระยะเวลาพอสำหรับการเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ที่จะคัดท้ายการปฏิรูปในทิศทางที่ถูกต้อง สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาและสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดเกินไปลมทางการเมืองและคลื่น เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นใหม่และอนาคตของประเทศเราต้องหลั่งสมอของพรรค gamesmanship และถือไปสนามแน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไทย ตนจะสอบตก เพราะการเมืองการเอาชนะศัตรูทำลายโอกาสปรับปรุง

ใครอยากโทษจนผลการเรียนของนักเรียนไทยกับนักเรียนเองต้องมองระบบการศึกษานั้น นโยบายที่เป็นประโยชน์ได้รับการขาดสำหรับกว่าทศวรรษ ขณะที่แต่ละเปลี่ยนรัฐบาลเห็นโครงร่างการปรับปรุงสดที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนขนาดใหญ่

ในปัจจุบันของประเทศ โรงเรียน ระบบการศึกษา มีการจัดอันดับในภูมิภาคที่เลวร้ายที่สุด และเกรดภาษาอังกฤษยังคงดิ่ง

เพลงที่ทักทาย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รัฐบาลหนึ่งแท็บเล็ตต่อนักเรียนความคิดจางหายไปนานแล้ว พร้อมกับแผนการที่จะสร้าง " ภาษาอังกฤษเท่านั้นโซน " ในโรงเรียน ทั้งสองโครงการได้ถูกแทนที่โดยนโยบายลดเวลาเรียนตอนนี้เรามีการอภิปรายมากกว่าการขยับมหาวิทยาลัยปฏิทินที่ตรงกับส่วนที่เหลือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการรับสมัครมหาวิทยาลัยกำลังจะเจออีกไม่กี่ประเทศ

ถ้าใด ๆของนโยบายเหล่านี้สามารถที่จะมาจับกับรากสาเหตุของความล้มเหลวของการศึกษาไทย เกรดนี้คงลดลงและการไหลของความคิดและ ความพยายามอย่างน้อยระบุแหล่งที่มาของปัญหาสิ่งที่เรายังขาดหลายปี เป็นแผนหลักที่สามารถทนต่อพายุหมุนทางการเมือง

เรามีระบบโรงเรียนนั้นอยู่ที่ความเมตตาของการเมือง โดยทั่วไปแล้ว กระทรวงศึกษาธิการ ผลงานเป็นรางวัลให้ใครบางคนจากพรรคของรัฐบาลสหพรรค น้อยที่ร่ำรวยในแง่ของโครงการขนาดใหญ่และเงิน พวกเขานำ มันถือเป็นการโพสต์ชั้นนำ .

หรือเพราะเป็นนโยบายการศึกษาที่เคยเป็นแพลตฟอร์มหลักในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นข้อเท็จจริงที่ประณามของประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงในฐานะเป็นนักการเมือง ผู้ที่แสวงหาที่จะชนะการโหวต โดยประเด็นที่โรงเรียนมักจะพ่นตรงเรียงลำดับความคิดประชานิยมที่ได้ล้มเหลวที่จะให้ประโยชน์ที่ยั่งยืน รัฐบาล โดยรัฐบาล

ไม่ใช่ปัจจัยในความล้มเหลวของระบบทั้ง ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ บริหารปกครองโดยเสียงข้างมากในการเลือกตั้ง แต่งตั้ง กระแสของกระทรวงศึกษาธิการทุกหนึ่งคนที่มากับความคิดสดที่ทาสีไว้ก่อนหน้านี้ความพยายาม ตอนนี้เรามีรัฐบาลอย่างชัดเจนระหว่างกาลกับคณะรัฐมนตรีไม่สามารถริเริ่มการปฏิรูประยะยาว แม้ว่าจะหยิบยกนโยบายที่ดี ,ต่อไปการเลือกตั้งรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะกวาดกัน

การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเป็นสิ่งจำเป็นหากประเทศไทยต้องการพักการแข่งขันกันทั่วโลก - และระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องแล้วว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คือ เมื่อเรา เราต้องเลิกนิสัยของนโยบายฟลิปฟล็อป . ในการสำรวจล่าสุดของ , การประเมิน 76 ประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ( ระดับมัธยมอันดับที่ 47 . โดยเปรียบเทียบกับสิงคโปร์เป็นครั้งแรก และเวียดนาม 12 ในความสามารถทางภาษาอังกฤษ ประเทศไทยแย่ที่สามในเอเชียมีลดลงไปไม่ 62 จาก 70 ในการศึกษาก่อนการศึกษา ที่สูงขึ้นรายการเป็นมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ อีกครั้ง , สิงคโปร์ และเวียดนาม

มีสาเหตุเล็ก ๆน้อย ๆสำหรับการแบ่งเป็นด้ามจับของระบบราชการการศึกษา แต่บางทีมันอาจเป็นเวลาสำหรับการย้าย - กล้าไปโรงเรียนห่างจากราชการซึ่งไม่แสดงความรู้สึกและวุ่นวายของการเมือง

สิ่งที่เราต้องการคือการเลือกตั้งอิสระ , การศึกษา " ซาร์ " ได้รับการโพสต์อย่างน้อย 10 ปี ในระยะเวลาเพียงพอสำหรับผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ที่จะคัดท้ายในการปฏิรูปทิศทางที่ถูกต้องสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และสิ่งที่ยังคงเกิดขึ้นในขณะนี้อย่างใกล้ชิดด้วยการเชื่อมโยงกับการเมือง และ ลม คลื่น เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นอนาคตของประเทศเราต้องหลั่งยึดพรรคการเอาชนะศัตรู และเก็บเป็นหลักสูตรที่แน่นอน