Ungrateful man Once upon a time the

Ungrateful man

Once upon a time there was a poor young man who aimlessly travelled from one city to another. One day he entered a small city and met a crippled beggar who asked for food from him. Out of sympathy, he gave the beggar some food and water that he carried with him.



While preparing to leave, the beggar seized his hand and said with a dry parched voice, “Young man! You’re very kind. Though you’re poor, you still give me some food. To reciprocate your generosity, I will give you one magic spell. Learn it by heart, some day it’ll be useful to you.”



With the power of the magic spell, a person who recited it would be able to stimulate any type of fruit to yield out of season, but that person had to bring a bowl of water and blow on it after reciting the magic spell, then pour the water on the root of the tree. However, the beggar set a condition that the young man had to respect him sincerely throughout his life, otherwise the magic spell would lose its power. The young man agreed unconditionally. He was very pleased and after paying a tribute to the beggar, he went on his way to other cities.



One day the young man happened to arrive at a big city where a soldier was making an announcement that anyone who could get a mango at this time of the year and present it to the pregnant queen would get a handsome reward. At the time of this announcement, it was not the season of the mango tree to fruit, so no one could get a mango for the queen. The queen was very eager to eat a mango.



Having heard of the announcement, the young man immediately volunteered to get a mango for the queen. He brought a bowl of water and after reciting his magic spell he blew on it. He then asked the soldier to lead him to the royal garden where he poured the water on the root of the mango tree. He then asked everybody to come the next day.



Surprisingly, the next day the mango tree gave plenty of fruit. The queen was very much delighted to be able to eat mangoes. She presented valuable gifts to the young man and asked him to live in her city.



The young man became rich overnight and lived a happy life in that city. He no longer needed to wander from city to city. However, one day out of curiosity the king asked the young man as to how he acquired the magic spell and who was his teacher.



When asked by this question, he felt too shy to tell the king that his teacher was actually a crippled beggar. So he informed the king that his teacher was a holy sage living in the far-away forest. A few days later, the queen again wanted to eat mango. So the king instructed the young man to bring mangoes to the queen.



The man then performed the ceremony as before, but this time the mango tree did not give even a single fruit. The king was very angry and demanded the man to reveal the reason. Upon learning the truth, the king condemned the ungrateful man and expelled him from his city. All of his property was ordered to be confiscated by the king. The young man became poor again. He realized that his magic spell lost its power because he did not keep his promise to his teacher. He felt sad but it was too late now.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนเนรคุณ

กาลครั้งหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยากจนที่ไม่มีจุดหมายเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง วันหนึ่งเขาเดินเข้ามาในเมืองเล็ก ๆ และได้พบขอทานพิการที่ถามหาอาหารจากเขา ออกจากความเห็นอกเห็นใจเขาให้ขอทานอาหารบางอย่างและน้ำที่เขาดำเนินการกับเขา.



ในขณะที่การเตรียมความพร้อมที่จะออกไปขอทานจับมือของเขาและพูดด้วยเสียงแห้งแห้ง "ชายหนุ่ม!คุณเป็นคนใจดีมาก แม้ว่าคุณไม่ดีคุณยังคงให้ฉันอาหารบางอย่าง เพื่อตอบสนองความเอื้ออาทรของคุณผมจะทำให้คุณมีคาถาหนึ่ง เรียนรู้มันด้วยหัวใจบางวันมันจะเป็นประโยชน์กับคุณ. "



มีอำนาจของเวทมนตร์คนที่ท่องมันจะสามารถกระตุ้นชนิดของผลไม้ใดให้ผลผลิตนอกฤดู,แต่ผู้ที่มีที่จะนำชามน้ำและระเบิดเมื่อมันหลังจากท่องคาถาแล้วเทน้ำบนรากของต้นไม้ แต่ขอทานกำหนดเงื่อนไขว่าชายหนุ่มก็ต้องนับถือเขาด้วยความจริงใจตลอดชีวิตของเขาเป็นอย่างอื่นเวทย์จะสูญเสียอำนาจของตน ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตกลงกันโดยไม่มีเงื่อนไข เขาก็ยินดีมากและหลังการจ่ายส่วยให้กับขอทาน,เขาเดินไปในทางของเขาไปยังเมืองอื่น ๆ .



วันหนึ่งชายหนุ่มคนหนึ่งที่เกิดขึ้นจะมาถึงที่เมืองใหญ่ที่ทหารถูกทำให้มีการประกาศว่าใครก็ตามที่ได้รับมะม่วงในเวลาของปีนี้และนำไปแสดง ราชินีตั้งครรภ์จะได้รับรางวัลหล่อ ช่วงเวลาของการประกาศครั้งนี้มันยังไม่ถึงฤดูของต้นมะม่วงผลไม้, จึงไม่มีใครได้รับมะม่วงสำหรับสมเด็จพระราชินีฯสมเด็จพระราชินีฯ เป็นอย่างมากกระตือรือร้นที่จะกินมะม่วง.



เมื่อได้ยินข่าวการประกาศทันทีที่ชายหนุ่มคนอาสาที่จะได้รับมะม่วงสำหรับสมเด็จพระราชินีฯ เขานำชามน้ำและหลังจากท่องคาถาของเขาที่เขาพัดมัน จากนั้นเขาก็ถามทหารที่จะนำเขาไปที่สวนหลวงที่เขาเทน้ำบนรากของต้นมะม่วง จากนั้นเขาก็ถามทุกคนที่จะมาในวันถัดไป.



น่าแปลกใจที่ในวันรุ่งขึ้นต้นมะม่วงให้ความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้ พระราชินีมีความยินดีเป็นอย่างมากที่จะสามารถที่จะกินมะม่วง เธอนำเสนอของขวัญที่มีคุณค่าให้กับชายหนุ่มและถามว่าเขาจะอาศัยอยู่ในเมืองของเธอ.



ชายหนุ่มกลายเป็นรวยคืนและอาศัยอยู่ที่ชีวิตมีความสุขในเมือง เขาไม่ต้องการที่จะเดินจากเมืองไปยังเมือง อย่างไรก็ตามวันหนึ่งออกจากความอยากรู้กษัตริย์ถามชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นวิธีการที่เขาได้รับเวทย์และผู้ที่เป็นครูของเขา.



เมื่อถามคำถามนี้เขารู้สึกว่าขี้อายเกินไปที่จะบอกกษัตริย์ว่าครูของเขาเป็นจริงพิการ ขอทาน ดังนั้นเขาจึงแจ้งให้ทราบถึงพระมหากษัตริย์ที่อาจารย์ของเขาเป็นปัญญาชนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ในป่าไกลออกไป ไม่กี่วันต่อมาสมเด็จพระราชินีอีกครั้งที่อยากจะกินมะม่วงดังนั้นกษัตริย์สั่งการให้ชายหนุ่มคนหนึ่งที่จะนำมะม่วงพระราชินี.



คนแล้วดำเนินการพิธีเป็นมาก่อน แต่คราวนี้ต้นมะม่วงไม่ให้แม้กระทั่งผลไม้เดียว กษัตริย์ก็โกรธมากและเรียกร้องให้คนที่จะเปิดเผยเหตุผล เมื่อรู้ความจริงกษัตริย์ประณามคนเนรคุณและไล่เขาออกจากเมืองของเขาทรัพย์สินทั้งหมดของเขาได้รับคำสั่งให้ยึดโดยพระมหากษัตริย์ ชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนยากจนอีกครั้ง เขาตระหนักว่าเวทมนตร์ของเขาสูญเสียอำนาจของตนเพราะเขาไม่รักษาสัญญาของเขาที่จะเป็นครูของเขา เขารู้สึกเศร้า แต่มันก็สายเกินไปในขณะนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คน ungrateful

กาลครั้งหนึ่งมีชายหนุ่มยากจนคนพเนจรเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีก วันหนึ่งเขาป้อนเมืองขนาดเล็ก และพบขอทานพิการหัดผู้ขออาหารจากเขา จากเห็นใจ เขาให้แผดบางอาหารและน้ำที่เขาทำกับเขา



ขณะกำลังเตรียมปล่อย แผดยึดมือของเขา และกล่าว ด้วยเสียง parched แห้ง "หนุ่ม คุณดี แม้ว่าคุณดี คุณยังคงให้ฉันอาหารบางอย่าง สนองความเอื้ออาทรของคุณ ฉันจะให้คาถาหนึ่ง ท่องมัน บางวันก็จะเป็นประโยชน์กับคุณ"



ด้วยอำนาจของเวทมนตร์คาถา คนอ่านก็จะสามารถกระตุ้นใด ๆ ชนิดของผลไม้ให้ผลนอกฤดูกาล แต่คนที่มีการนำชามน้ำและเป่าบนหลังอ่านคาถา แล้วราดน้ำบนรากของต้นไม้ อย่างไรก็ตาม แผดตั้งเงื่อนไขที่ชายหนุ่มได้เคารพเขาอย่างจริงใจตลอดชีวิตของเขา หรือ คาถาจะสูญเสียพลังงาน ชายหนุ่มตกลงโดยไม่มีเงื่อนไข เขายินดีมาก และหลัง จากจ่ายค่าส่วยหรือแผดเสียง เขาก็เดินทางไปเมืองอื่น ๆ



วันหนึ่งชายหนุ่มเกิดขึ้นสู่เมืองใหญ่ที่ทหารได้ทำการประกาศว่าใครได้รับมะม่วงเวลานี้ของปี และนำเสนอต่อพระราชินีตั้งครรภ์จะได้รับรางวัลหล่อ ครั้งที่ของประกาศฉบับนี้ ไม่ฤดูต้นมะม่วงให้ผล จึงไม่สามารถรับมะม่วงสำหรับราชินี ราชินีถูกมากอยากกินมะม่วง.



มีได้ยินของประกาศ ชายหนุ่มทันที volunteered จะได้มะม่วงสำหรับราชินี นำชามน้ำ และหลังจากอ่านคาถาของเขา เขาได้พัดนั้น เขาถามทหารรอยัลการ์เด้นที่เขาเนอร์รากของต้นมะม่วงก็นำเขาไปแล้ว เขาถามแล้วทุกคนมาเที่ยว



จู่ ๆ วันถัดไปต้นมะม่วงให้ผลไม้มากมาย ราชินีมีความยินดีมากที่จะได้กินมะม่วง เธอนำเสนอของขวัญที่มีคุณค่าเพื่อคนหนุ่มสาว และขอให้เขาอยู่ในเมืองของเธอ



ชายหนุ่มกลายเป็นรวยข้ามคืน และชีวิตมีความสุขในเมืองที่อาศัยอยู่ เขาไม่ต้องร่อนเร่ไปในแต่ละเมือง อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งไม่เห็นกษัตริย์ถามชายหนุ่มว่าเขามาคาถาและผู้เป็นครูของเขา



เมื่อถาม โดยคำถามนี้ เขารู้สึกอายหากจะบอกพระว่า ครูของเขาถูกจริงขอทานพิการหัด เพื่อให้ เขาทราบพระที่ ครูมีความศักดิ์สิทธิ์เซจอยู่ในป่าไกล ไม่กี่วันต่อมา ราชินีอีกอยากกินมะม่วง ดังนั้นกษัตริย์สั่งหนุ่มนำมะม่วงไปควีน



คนแล้วทำพิธีเป็นมาก่อน แต่ขณะนี้ต้นมะม่วงได้ไม่ให้แม้เป็นผลไม้ พระราชาโกรธมาก และแค่คนเฉลยเหตุผล เมื่อเรียนรู้ความจริง พระประณามคน ungrateful และขับไล่เขาออกจากเมืองของเขา คุณสมบัติของเขาทั้งหมดถูกสั่งการสามารถยึดมาได้โดย ชายหนุ่มก็ไม่ดีอีก เขารู้ว่า คาถาของเขาสูญเสียพลังงานเนื่องจากเขาไม่ได้ให้คำสัญญากับครู เขารู้สึกเศร้า แต่มันก็สายเกินไปตอนนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คนอกตัญญู

หนึ่งครั้งเมื่อเวลาที่มีคนหนุ่มคนหนึ่งที่กระเซอะกระเซิงออกเดินทางจากที่หนึ่งไปยังเมืองอื่นๆ. วันหนึ่งเขาเข้ามาเมืองขนาดเล็กและพบกับขอทานพิการที่ถามสำหรับอาหารจากเขา ออกมาจากใจเหมือนกันเขาก็ให้คนขอทานอาหารและน้ำบางส่วนว่าเขากับเขา.



ในขณะที่การเตรียมตัวก่อนจะออกจากคนขอทานที่คว้ามือของเขาและกล่าวว่า"ด้วยเสียงคั่วแห้ง"คนหนุ่มคุณเป็นอย่างมาก แม้ว่าคุณจะไม่ดีคุณก็ยังให้ฉันอาหารบาง ประเภท ในการเป็นไปทั้งสองฝ่ายความใจกว้างของคุณเราจะให้คุณตรวจสอบตัวสะกดหนึ่งน่ามหัศจรรย์ใจ โปรดดูข้อมูลได้ในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณ"



พร้อมด้วยกำลังไฟที่น่ามหัศจรรย์ใจของการตรวจสอบตัวสะกดที่บุคคลที่ระบุไว้ว่าจะสามารถกระตุ้นให้ทุก ประเภท ของผลไม้จะยอมให้ออกมาในช่วงฤดูแล้งแต่ที่ว่าคนจะนำ ภาชนะ ใส่น้ำและเป่าได้หลังจากบริกรรมการตรวจสอบตัวสะกดที่น่ามหัศจรรย์ใจแล้วเทน้ำที่รากของต้นไม้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามคนขอทานที่ตั้งค่า สภาพ ที่คนหนุ่มที่มีการแสดงความเคารพเขาเรียนมาเพื่อทราบขอแสดงความนับถือตลอดทั่วทั้งพื้นที่ชีวิตของเขาหรือการตรวจสอบตัวสะกดที่น่ามหัศจรรย์ใจจะหมดอำนาจ คนหนุ่มที่ได้ตกลงกันไว้โดยไม่มีเงื่อนไข เขาดีใจมากเป็นอย่างมากและหลังจากการชำระเงินเป็นส่วนที่จะทำให้เป็นคนขอทานที่เขาจึงไปตามทางของท่านเพื่อไปยังเมืองต่างๆอื่นๆวัน



ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่เกิดขึ้นจะมาถึงที่เมืองขนาดใหญ่สถานที่ซึ่งทหารที่ได้ทำการประกาศว่าใครที่จะได้มะม่วงที่เวลานี้ของปีนี้และนำเสนอให้ขนาดควีนส์ไซด์ตั้ง ครรภ์ จะได้รับผลตอบแทนเป็นหนึ่ง ในช่วงเวลาที่มีการประกาศนี้ก็ไม่ใช่ฤดูกาลของต้นมะม่วงที่เป็นผลไม้จึงไม่มีใครได้มะม่วงที่สำหรับขนาดควีนส์ไซด์ที่ขนาดควีนส์ไซด์หนึ่งเตียงที่เป็นเป็นอย่างมากอยากจะกินมะม่วงที่.



มีได้ยินเสียงประกาศการสิ้นสุดการที่คนหนุ่มที่อาสามาในทันทีเพื่อจะได้รับมะม่วงที่สำหรับพระราชินี เขาได้นำโถบรรจุอาหารที่มีน้ำและหลังจากบริกรรมการตรวจสอบตัวสะกดมหัศจรรย์ของเขาเขาได้เป่าที่ เขาก็ถามว่าทหารที่จะนำเขามาเพื่อไปยังสวนแห่งราชวงศ์ที่เขาเทน้ำที่รากของต้นมะม่วงที่ เขาก็ถามว่าทุกคนจะมาในวันถัดไป.



อย่างน่ามหัศจรรย์ใจในวันถัดไปที่ต้นมะม่วงที่ทำให้จำนวนมากของผลไม้ ขนาดควีนส์ไซด์หนึ่งเตียงที่มากความยินดีที่จะสามารถรับประทานมังคุด เธอแสดงของขวัญมีค่ากับคนหนุ่มและขอให้เขาจะมีชีวิตอยู่ในเมืองของเธอ.



ชายหนุ่มคนนั้นก็เป็นที่พักค้างคืนและชีวิตที่มีความสุขในเมืองนั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวจากเมืองเพื่อไปยังเมือง แต่ถึงอย่างไรก็ตามวันหนึ่งออกจากความอยากรู้อยากเห็นกษัตริย์ที่ถามคนหนุ่มที่เป็นไปได้ว่าเขาได้รับการตรวจสอบตัวสะกดที่น่ามหัศจรรย์ใจและที่เป็นครูของเขา.



เมื่อถูกถามโดยคำถามนี้เขารู้สึกว่าขี้อายเกินกว่าจะบอกได้ว่าเป็นครูของเขาจริงๆคือคนขอทานที่พิการ ดังนั้นเขาจึงแจ้งกษัตริย์ที่เป็นครูของเขาเป็นคนฉลาดบริสุทธิ์ที่อาศัยอยู่ในป่าไกล - ที่อยู่ห่างออกไปใน ไม่กี่วันหลังจากนั้นสมเด็จพระราชินีอีกครั้งอยากกินมะม่วงกษัตริย์ทรงให้คำแนะนำคนหนุ่มที่จะทำให้มะม่วงในขนาดควีนส์ไซด์ที่.



แล้วทำพิธีที่เป็นมาก่อนแต่เวลานี้ต้นมะม่วงที่ไม่ได้ทำให้แม้แต่คนเดียวผลไม้ กษัตริย์ก็โกรธเป็นอย่างมากและต้องการคนที่จะแสดงให้เห็นถึงเหตุผลที่ เมื่อการเรียนรู้ความเป็นจริงที่กษัตริย์ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตคนเนรคุณและเขาถูกขับไล่ออกจากเมืองของเขาที่พักทั้งหมดของเขาได้สั่งการให้จับได้โดย ชายหนุ่มคนนั้นก็เป็นคนยากจนอีกครั้ง เขาก็รู้ว่าการตรวจสอบตัวสะกดมหัศจรรย์ของเขาไปได้เพราะเขาไม่ได้รักษาสัญญาของเขาไปเป็นครูสอนหนังสือของเขา เขารู้สึกเศร้าแต่ก็สายเกินไปแล้ว