InTable 1 it is shown that the surf

InTable 1 it is shown that the surface tension values for 100% (v/v)wine with alcoholic grade around 12.5%, which is the average alco-holic grade of the two wines used in this study, are considerablylower than the above reference values. Even more surprising is the fact that the red wine exhibits higher surface tension than the whiteone (45.9 mN/m and 42.0 mN/m, respectively), although the former– being a red wine – has more phenolic compounds, proteins, etc.that could lower more its surface tension [11–17]. This finding canbe attributed to the fact that the white wine used in this study isproduced from a Muscat grape variety which is known for its highcontent in aromatic compounds. In any case, even with small per-centages of wine – whether red or white – in the aqueous phase,e.g. 5% (v/v), the decrease of the surface tension value compared tothat of water is significant.The determination of the interfacial tension of a two-phasesystem can offer valuable information about the stability of anemulsion prepared from the particular two phases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

InTable 1 มันจะแสดงค่าแรงตึงผิว 100% (v/v) ไวน์ มีแอลกอฮอล์เกรดประมาณ 12.5% ซึ่งเป็นเกรดเฉลี่ย alco holic ไวน์สองที่ใช้ในการศึกษานี้ considerablylower กว่าค่าอ้างอิงข้างต้น น่าแปลกใจมากคือความจริงที่ไวน์แดงจัดแสดงแรงตึงผิวสูงกว่า whiteone (45.9 mN/m และ 42.0 mN/m ตามลำดับ), แม้ว่าในอดีต – เป็นไวน์แดง – มีม่อฮ่อมเพิ่มเติม โปรตีน etc.that สามารถลดเพิ่มเติมของแรงตึงผิว [11-17] Canbe ค้นหานี้เกิดจากการไวน์ขาวใช้ใน isproduced นี้ศึกษาจากมัสกัตองุ่นซึ่งเป็นที่รู้จักของ highcontent ในสารหอม ในกรณีใดๆ แม้จะ มีขนาดเล็กต่อ-centages ไวน์ – สีแดง หรือสี ขาว – อควี phase,e.g 5% (v/v), tothat เปรียบเทียบค่าแรงตึงผิวของน้ำลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญกำหนดความตึงเครียด interfacial ของสอง-phasesystem สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงของ anemulsion ที่เตรียมจากเฉพาะระยะที่สองได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

InTable 1 จะแสดงให้เห็นว่าพื้นผิวค่าความตึงเครียด 100% (v / v) ไวน์ที่มีเกรดแอลกอฮอล์ประมาณ 12.5%​​ ซึ่งเป็นเข็ดหลาบ-Holic เกรดเฉลี่ยของทั้งสองไวน์ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี considerablylower กว่าค่าอ้างอิงข้างต้น . แม้น่าแปลกใจมากขึ้นคือความจริงที่ว่าแรงตึงผิวการจัดแสดงนิทรรศการไวน์แดงสูงกว่า whiteone (45.9 mN / เมตรและ 42.0 mN / m ตามลำดับ) แม้ former- เป็นไวน์แดง - มีสารประกอบฟีนอลมากขึ้นโปรตีน etc.that สามารถลดความตึงเครียดมากขึ้นพื้นผิวของมัน [11-17] การค้นพบนี้ canbe ประกอบกับความจริงที่ว่าไวน์ขาวที่ใช้ในการศึกษา isproduced จากหลากหลายองุ่นมัสกัตซึ่งเป็นที่รู้จักสำหรับ highcontent ในสารประกอบอะโรมาติกนี้ ในกรณีใด ๆ แม้จะมีขนาดเล็กต่อ centages ไวน์ - ไม่ว่าจะสีแดงหรือสีขาว - ในเฟสน้ำเช่น 5% (v / v) ลดลงของมูลค่าแรงตึงผิวเมื่อเทียบ tothat ของน้ำเป็นความมุ่งมั่นของ significant.The ความตึงเครียดของผิวสัมผัสสอง phasesystem สามารถนำเสนอข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับความมั่นคงของ anemulsion จัดทำขึ้นจากสองขั้นตอนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

intable 1 เป็นค่าแรงตึงผิวสำหรับ 100 เปอร์เซ็นต์ ( v / v ) กับไวน์ระดับแอลกอฮอล์ประมาณ 12.5% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเข็ดหลาบ ลิคเกรดสอง ไวน์ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็น considerablylower กว่าค่าอ้างอิงข้างต้น ก็น่าแปลกใจคือความจริงที่ว่าไวน์แดงแสดงถึงความตึงผิวสูงกว่า whiteone ( 45.9 MN / m และ 42.0 MN / m ตามลำดับ )แม้ว่าอดีต–เป็น–ไวน์แดงมีมากกว่าสารประกอบฟีนอล , โปรตีน , etc.that สามารถลดลงของแรงตึงผิว [ 11 – 17 ] การค้นหานี้สามารถประกอบกับความจริงที่ว่าไวน์ขาวที่ใช้ในการศึกษา isproduced จากองุ่นพันธุ์องุ่นชนิดหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกัน highcontent ในสารประกอบอะโรมาติก ในกรณีใด ๆแม้จะมีขนาดเล็กต่อ centages ไวน์–ไม่ว่าแดง หรือ ขาว ( ในเฟสน้ำ เช่น 5% ( v / v ) , การลดลงของแรงตึงผิวค่าเปรียบเทียบสภาวะของน้ำเป็นสำคัญ ความตั้งใจของความตึงเครียดระหว่างของสอง phasesystem สามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับความมั่นคงของ anemulsion เตรียมจากโดยเฉพาะ

สองระยะ