The regular consumption of goat mil

The regular consumption of goat milk by individuals with iron deficiency anemia improves their recovery, since it enhances the nutritional use of iron and enhances the regeneration of hemoglobin; this means that this type of milk minimizes calcium and iron interactions. Conversely, this type of milk protects DNA stability, even in cases of iron overload caused by prolonged treatments with this mineral to treat anemia.

University of Granada researchers have found that goat milk has many nutrients -as casein- that make it similar to human milk. Goat milk contains less casein alpha 1 -as human milk-, which is responsible for most allergies to cow milk. Therefore, goat milk is hypoallergenic. "For this reason, in some countries it is used as the basis for the development of infant formula in place of cow milk," University of Granada researchers point out.

Additionally, another beneficial aspect of goat milk is that it contains a significant amount of oligosaccharides. Goat milk has more oligosaccharides with a composition similar to that of human milk. These compounds reach the large intestine undigested and act as prebiotics, i.e they help develop probiotic flora that competes with pathogenic bacterial flora, making it disappear.

Less lactose

Similarly, goat milk contains a lower proportion of lactose than cow milk -about 1% less- and, as it is easier to digest, individuals with intolerance to this milk sugar can tolerate goat milk."

The essential difference between the composition of cow and goat milk stems from the nature of their fat content: it is not only the small size of goat milk's blood cells, but rather the profile of its fatty acids. Goat milk contains more essential fatty acids (linoleic and arachidonic) than cow milk. Both belong to omega-6 series. Similarly, goat milk has 30-35% medium-chain fatty acids (C6-C14) MCT, while cow milk has only 15-20%. These fatty acids are a quick source of energy and are not stored as body fat. In addition, goat milk's fat reduces total cholesterol levels and maintains adequate levels of triglycerides and transaminases (GOT and GPT). This makes it a food of choice for the prevention of heart diseases.

As regards their mineral composition, University of Granada researchers point out that goat milk is rich in calcium and phosphorus "it is highly bioavailable and favors their deposition in the organic matrix of bone, leading to an improvement in bone formation parameters." It also has more zinc and selenium, which are essential micronutrients contributing to the antioxidant defense and for the prevention of neurodegenerative diseases.

For all these reasons, researchers consider that "goat milk can be considered natural functional food, and its regular consumption should be promoted among the population in general, specially among those with allergy or intolerance to cow milk, malabsorption, high cholesterol levels, anemia, osteoporosis or prolonged treatments with iron supplements.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปกติใช้นมแพะโดยบุคคลที่มีโรคโลหิตจางการขาดเหล็กปรับปรุงการกู้คืน เนื่องจากจะช่วยเพิ่มการใช้โภชนาการของเหล็ก และช่วยฟื้นฟูของฮีโมโกลบิน ซึ่งหมายความ ว่า นมชนิดนี้ช่วยลดการโต้ตอบของแคลเซียมและเหล็ก ในทางกลับกัน น้ำนมชนิดนี้ปกป้องเสถียรภาพดีเอ็นเอ แม้ในกรณีของโอเวอร์โหลดเหล็กที่เกิดจากแร่นี้นานนวดรักษาโรคโลหิตจางนักวิจัยของมหาวิทยาลัยกรานาดาพบว่า นมแพะมีสารอาหารมาก -เป็นเคซีน - ที่ให้น้ำนมที่คล้ายกับมนุษย์ นมแพะประกอบด้วยน้อยกว่าเคซีนอัลฟา 1 -เป็นมนุษย์นม-, ซึ่งรับผิดชอบส่วนใหญ่แพ้นมวัว ดังนั้น น้ำนมแพะเป็นแพ้ "เหตุผลนี้ ในบางประเทศที่ใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาสูตรทารกแทนนมวัว นักวิจัยของมหาวิทยาลัยกรานาดาชี้ออกนอกจากนี้ ด้านประโยชน์ของนมแพะนั้นประกอบด้วยจำนวน oligosaccharides เป็นสำคัญ นมแพะมี oligosaccharides มาก ด้วยองค์ประกอบที่คล้ายกับนมมนุษย์ สารเหล่านี้เข้าถึงลำไส้ใหญ่ undigested และทำหน้าที่เป็น prebiotics อาทิช่วยพัฒนาโปรไบโอติกส์ฟลอร่าที่แข่งขันกับพืชแบคทีเรีย pathogenic ทำให้หายไปแล็กโทสน้อยในทำนองเดียวกัน น้ำนมแพะประกอบด้วยต่ำกว่าสัดส่วนของแล็กโทส กว่า นมวัว - ประมาณ 1% น้อย - ซึ่งเป็นการแยกย่อย บุคคลกับ intolerance น้ำตาลนมนี้สามารถทนน้ำนมแพะ"ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างส่วนประกอบของนมวัวและแพะมาจากธรรมชาติของไขมันของพวกเขา: ไม่เฉพาะขนาดเล็กของเซลล์เม็ดเลือดของแพะนม แต่เป็นโพรไฟล์ของกรดไขมัน นมแพะประกอบด้วยกรดไขมันที่จำเป็นมากขึ้น (linoleic และ arachidonic) กว่านมวัว ทั้งเป็นโอเมก้า-6 ชุด ในทำนองเดียวกัน น้ำนมแพะมีกรดไขมันห่วงโซ่ขนาดกลาง 30-35% (C6-C14) เครื่อง ในขณะที่นมวัวมีเพียง 15-20% กรดไขมันเหล่านี้เป็นแหล่งพลังงานที่รวดเร็ว และไม่เก็บเป็นไขมันในร่างกาย ไขมันในนมแพะช่วยลดระดับไขมันรวม และรักษาอย่างเพียงพอและระดับของระดับไตรกลีเซอไรด์ transaminases (GOT และ GPT) ทำอาหารที่เลือกสำหรับการป้องกันการเกิดโรคหัวใจสำหรับองค์ประกอบของแร่ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยกรานาดาชี้ให้เห็นว่า นมแพะจะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส "มันมี bioavailable สูง และให้ความสำคัญในการสะสมในเมตริกซ์อินทรีย์ของกระดูก การนำไปสู่การปรับปรุงในพารามิเตอร์การก่อตัวของกระดูก" เพิ่มเติมสังกะสีและเกลือ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญตามโรคร่วม กับการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันโรค neurodegenerativeเหตุผลทั้งหมดเหล่านี้ นักวิจัยพิจารณาว่า "นมแพะถือได้ว่าอาหารฟังก์ชันธรรมชาติ และที่ปกติใช้ควรส่งเสริมให้เกิดในหมู่ประชากรทั่วไป เป็นพิเศษระหว่างผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ หรือ intolerance วัว นม malabsorption ระดับไขมันสูง โลหิตจาง โรคกระดูกพรุน หรือมีเหล็กเสริมเป็นเวลานาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การบริโภคปกติของนมแพะโดยบุคคลที่มีโรคโลหิตจางขาดธาตุเหล็กช่วยเพิ่มการกู้คืนของพวกเขาเพราะมันช่วยเพิ่มการใช้งานทางโภชนาการของเหล็กและช่วยเพิ่มการงอกของฮีโมโกล; นี้หมายความว่าชนิดของนมนี้ช่วยลดการปฏิสัมพันธ์แคลเซียมและธาตุเหล็ก ตรงกันข้ามชนิดของนมนี้จะช่วยปกป้องความมั่นคงดีเอ็นเอแม้ในกรณีของธาตุเหล็กเกินที่เกิดจากการรักษาเป็นเวลานานด้วยแร่ธาตุนี้ในการรักษาโรคโลหิตจาง. นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกรานาดาได้พบว่านมแพะมีสารอาหารหลายชนิด -as casein- ที่ทำให้มันคล้ายกับนมของมนุษย์ . นมแพะมีเคซีนอัลฟาน้อย 1 -as milk- มนุษย์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับโรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่นมวัว ดังนั้นนมแพะเป็น hypoallergenic "ด้วยเหตุนี้ในบางประเทศมีการใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาสูตรทารกในสถานที่ของนมวัวที่" นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกรานาดาชี้ให้เห็น. นอกจากนี้อีกด้านที่เป็นประโยชน์ของนมแพะก็คือว่ามันมีเป็นจำนวนมาก oligosaccharides นมแพะมี oligosaccharides มากขึ้นด้วยองค์ประกอบคล้ายกับที่ของนมมนุษย์ สารเหล่านี้ถึงลำไส้ใหญ่ไม่ได้แยกแยะและทำหน้าที่เป็น prebiotics คือพวกเขาช่วยพัฒนาพืชโปรไบโอติกที่แข่งขันกับเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคพืชทำให้มันหายไป. แลคโตสน้อยในทำนองเดียวกันนมแพะมีสัดส่วนที่ลดลงของแลคโตกว่านมวัว -about 1% less- . และในขณะที่มันเป็นเรื่องง่ายที่จะแยกแยะบุคคลที่มีการแพ้น้ำตาลนมนี้สามารถทนต่อนมแพะ "ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างองค์ประกอบของวัวและนมแพะเกิดจากธรรมชาติของปริมาณไขมันของพวกเขามันไม่ได้เป็นเพียงขนาดที่เล็กของนมแพะเซลล์เม็ดเลือด แต่รายละเอียดของกรดไขมันของมัน. นมแพะมีกรดไขมันที่จำเป็นมากขึ้น (ไลโนเลอิกและ arachidonic) มากกว่านมวัว. ทั้งสองเป็นของโอเมก้า 6 ซีรีส์. ในทำนองเดียวกันนมแพะมี 30-35% กลางห่วงโซ่ กรดไขมัน (C6-C14) MCT ขณะที่นมวัวมีเพียง 15-20%. กรดไขมันเหล่านี้เป็นแหล่งของพลังงานอย่างรวดเร็วและไม่ได้เก็บไว้เป็นไขมันในร่างกาย. นอกจากนี้ไขมันนมแพะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมและรักษาระดับที่เพียงพอ ของไตรกลีเซอไรด์และ transaminases (GOT และ GPT) นี้จะทำให้มันเป็นอาหารของทางเลือกสำหรับการป้องกันโรคหัวใจ. ที่เกี่ยวกับองค์ประกอบแร่ของพวกเขานักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกรานาดาชี้ให้เห็นว่านมแพะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส "เป็นอย่างมาก bioavailable และโปรดปรานการสะสมของพวกเขาในเมทริกซ์อินทรีย์ของกระดูก ที่นำไปสู่การปรับปรุงในพารามิเตอร์การสร้างกระดูก. " นอกจากนี้ยังมีสังกะสีมากขึ้นและซีลีเนียมซึ่งเป็นธาตุอาหารที่สำคัญที่เอื้อต่อการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระและป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้. ด้วยเหตุผลเหล่านี้นักวิจัยพิจารณาว่า "นมแพะได้รับการพิจารณาอาหารทำงานธรรมชาติและการบริโภคปกติที่ควรได้รับการส่งเสริม ในหมู่ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือแพ้นมวัว, malabsorption ระดับคอเลสเตอรอลสูง, โรคโลหิตจางโรคกระดูกพรุนหรือการรักษาเป็นเวลานานด้วยอาหารเสริมธาตุเหล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปกติการบริโภคนมแพะโดยบุคคลที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเพิ่มการกู้คืนของพวกเขา เนื่องจากมันช่วยเพิ่มการใช้โภชนาการของเหล็ก และช่วยเพิ่มการงอกของฮีโมโกลบิน ซึ่งหมายความ ว่า นมชนิดนี้ลดแคลเซียมและปฏิสัมพันธ์ของเหล็ก ในทางกลับกัน นมชนิดนี้จะช่วยปกป้องดีเอ็นเอ ความมั่นคงแม้ในกรณีของเหล็กมากเกินไปเกิดจากการรักษานานด้วยแร่นี้รักษาโรคโลหิตจาง .

มหาวิทยาลัยกรานาดา นักวิจัยได้พบว่า นมแพะมีสารอาหารหลายชนิด เช่น เคซีน - - ที่ทำให้มันคล้ายกับมนุษย์ นม นมแพะประกอบด้วยเคซีนน้อยกว่าแอลฟา 1 - นม - มนุษย์ ซึ่งรับผิดชอบส่วนใหญ่จะแพ้นมวัว ดังนั้น นมแพะเป็น hypoallergenic . ด้วยเหตุผลนี้ในบางประเทศจะใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาสูตรทารกในสถานที่ของนมวัว " ของมหาวิทยาลัยกรานาดา นักวิจัยชี้

นอกจากนี้ ด้านที่เป็นประโยชน์ของนมแพะ คือว่ามันมีจำนวนเงินที่สำคัญของเทคโนโลยี . นมแพะมีเทคโนโลยีมากขึ้น ด้วยองค์ประกอบที่คล้ายกับที่ของนมมนุษย์สารประกอบเหล่านี้ไปถึงลำไส้ใหญ่ undigested และเป็นพรีไบโอติกคือพวกเขาช่วยพัฒนาโปรไบโอติกฟลอร่าที่แข่งขันกับเชื้อโรคแบคทีเรียฟลอร่าให้หายไป . . .



ไม่แลคโตสในนมแพะมีสัดส่วนของแลคโตสลดลงกว่าน้ำนมวัวประมาณ 1 % น้อย - และในขณะที่มันย่อยง่าย บุคคล กับที่แพ้นี้นมน้ำตาลสามารถทานนมแพะค่ะ

"ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างองค์ประกอบของวัวและแพะนม เกิดจากธรรมชาติของปริมาณไขมันของพวกเขา : มันไม่ได้เป็นเพียงขนาดเล็กของเลือด นมแพะ เป็นเซลล์ แต่โปรไฟล์ของกรดไขมัน นมแพะมีกรดไขมันที่จำเป็นมากขึ้น ( linoleic และ arachidonic ) กว่านมวัว ทั้งสองอยู่ 6 ชุด ในทํานองเดียวกันนมแพะมีกรดไขมันห่วงโซ่กลาง 30-35% ( c6-c14 ที ในขณะที่นมวัวมีเพียง 15-20% กรดไขมันเหล่านี้เป็นแหล่งพลังงานอย่างรวดเร็ว และไม่สะสมเป็นไขมันในร่างกาย นอกจากนี้ ไขมันแพะนมช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวม และรักษาระดับของไตรกลีเซอไรด์ และทรานส มิเนส ( มีเพียงพอและ GPT ) นี้จะทำให้มันเป็นอาหารทางเลือกสำหรับการป้องกันโรคหัวใจ .

ส่วนของแร่องค์ประกอบของมหาวิทยาลัยกรานาดา นักวิจัยชี้ว่า นมแพะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส " เป็นอย่างสูงในการสะสมของพวกเขาและบุญในเมทริกซ์อินทรีย์ของกระดูก เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงในพารามิเตอร์การสร้างกระดูก " นอกจากนี้ยังมีสังกะสีและซีลีเนียมที่สำคัญรูปให้เกิดสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันและการป้องกัน Neurodegenerative โรค

เหตุผลทั้งหมดเหล่านี้ นักวิจัยพิจารณาว่า " นมแพะก็ถือเป็นอาหารสุขภาพและการบริโภคปกติของธรรมชาติ ควรส่งเสริมในหมู่ประชากรทั่วไป โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการแพ้หรือแพ้นมวัวความโง่ , ,ระดับคอเลสเตอรอลสูง โลหิตจาง โรคกระดูกพรุน หรือการรักษานานด้วยอาหารเสริมธาตุเหล็ก