Started by Shayne Oliver back in 20

Started by Shayne Oliver back in 2006, he told The New York Times, “The name Hood By Air is a play off being from the hood, but taking the train downtown to hang out with skater boys and artists.” He went on to tell Swagger New York, “It came from going to underground parties, and we used to freestyle on the mics.

And one night I was reciting something, and that came out and kinda stuck with me as an aesthetic and a way of living. It’s also like owning your influence on the world… make the world understand what you’re doing and why what you’re doing is so important.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เริ่มต้น โดยเชนโอลิเวอร์กลับไปในปี 2006 เขาบอกว่า The New York Times "ชื่อฮูด โดยเครื่องบินเป็นการเล่นออกกำลังจากแม่เบี้ย แต่การรถไฟในตัวเมืองออกไปเที่ยวกับเด็กผู้ชายเล่นสเก็ตและศิลปิน" เขาไปในบอก Swagger New York, "มาจากการไปปาร์ตี้ใต้ดิน และเราใช้ฟรีสไตล์บน mics

และคืนหนึ่งได้อ่านเรื่อง และที่ออกมา และติดอยู่กับฉัน kinda เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์และวิถีชีวิต มันเป็นเหมือนเป็นเจ้าของมีอิทธิพลบนโลก...ทำให้โลกเข้าใจสิ่งที่คุณทำและทำไมสิ่งที่คุณทำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ "

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เริ่มโดยเชนโอลิเวอร์กลับมาในปี 2006 เขาบอกว่านิวยอร์กไทม์ส "ชื่อ Hood อากาศเล่นออกมาจากเครื่องดูดควัน แต่การรถไฟตัวเมืองออกไปเที่ยวกับเด็กผู้ชายเล่นและศิลปิน." เขาเดินตรงไปที่จะบอก วางท่านิวยอร์ก "มันมาจากบุคคลที่จะไปใต้ดินและเราใช้ในการฟรีสไตล์กับไมโครโฟนและคืนหนึ่งผมท่องอะไรบางอย่างและที่ออกมาและค่อนข้างติดอยู่กับฉันเป็นความงามและวิถีชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นเหมือนเจ้าของอิทธิพลของคุณบนโลก ... ให้โลกเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังทำและทำไมสิ่งที่คุณทำจึงเป็นสิ่งสำคัญ. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เริ่มโดย เชน โอลิเวอร์ กลับมาในปี 2006 เขาได้บอก New York Times , " เครื่องดูดควันชื่อทางอากาศเป็นเล่นเป็นจากเครื่องดูดควัน แต่นั่งรถไฟเข้าเมือง เพื่อไปเที่ยวกับเด็กผู้ชายเล่นสเก็ตและศิลปิน เขาก็ไปบอกสแวกเกอร์นิวยอร์ก " มันมาจากไปฝ่ายใต้ดิน เราใช้รูปแบบในไมค์

แล้วคืนนึงก็ท่องอะไรบางอย่างและที่ออกมา และค่อนข้างติดมาด้วยเป็นสุนทรียะ และวิถีชีวิต มันก็เหมือนเป็นเจ้าของอิทธิพลของคุณบนโลก . . . . . . . ให้โลกเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังทำและทำไมคุณกำลังทำมันสำคัญมาก "