Driving in Thailand is one subject

Driving in Thailand is one subject and driving in Bangkok is another. Bangkok usually makes every list for the worst traffic jams in the world. And the city certainly deserves this reputation. Unfortunately, traffic in the Thai capital seems to only be getting worse. Although the city has invested in public transportation in the past decade, it hasn’t been as much of a help as was hoped. To counter any relief public transit might have brought, the Thai government introduced a tax refund policy for first time car buyers. It isn’t surprising that this has only resulted in an increase in cars.

Congestion in Bangkok has become so bad that people avoid driving downtown altogether unless they absolutely must. Of course, not everyone can avoid driving in Thailand’s capital. Couriers and the drivers of utility vehicles do not have much of a choice.

In 2012 there were 6.8 million vehicles in Bangkok, but the city can only adequately cope with about 2 million. The most recent population estimate (from 2010) is 8.28 million. There are simply too many cars in Bangkok.

When driving in Thailand’s larger cities in general, it is wise to avoid the left lane as it is generally reserved for loading and parking. When stopping at an intersection, leave some room between you and the car in front of you. No matter how tight of a squeeze it is, a motorcyclist will inevitably try to weave through. So you might as well give your car a bit of a break.

Mopeds and bicycles seem to have developed their own system of road rules and abide neither by traffic signals nor one-way street signs. Their goal is to get to their destination as quickly as possible. Unfortunately this often includes dangerous driving habits more often than not resulting in deadly accidents with larger vehicles. Accidents involving motorcycles make up 70% of all road traffic deaths.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขับรถในประเทศไทยเป็นหนึ่งในเรื่อง และขับรถในกรุงเทพฯ ได้อีก กรุงเทพมหานครมักจะทำให้ทุกรายสำหรับการจราจรเลวแยมในโลก และเมืองนี้ชื่อเสียงที่สมควรอย่างแน่นอน อับ การจราจรในกรุงเทพฯ น่าจะ เท่า ได้รับแย่ แม้ว่าการเมืองมีการลงทุนในการขนส่งสาธารณะในทศวรรษ มันไม่ได้มากของความช่วยเหลือตามที่หวัง เพื่อบรรเทาใด ๆ อาจได้นำส่งต่อสาธารณะ รัฐบาลนำนโยบายคืนภาษีสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ครั้งแรก จึงไม่น่าแปลกใจว่า มีเท่านั้นทำให้ในรถยนต์แออัดในกรุงเทพฯ กลายเป็นเลวให้คนหลีกเลี่ยงการขับขี่ดาวน์ทั้งหมดยกเว้นว่าพวกเขาต้องการจริง ๆ แน่นอน ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการขับรถในเมืองหลวงของประเทศไทย บริการจัดส่งสินค้าและโปรแกรมควบคุมของยานพาหนะอรรถประโยชน์ได้มากมายในปี 2555 มีรถยนต์ 6.8 ล้านในกรุงเทพฯ แต่เมืองสามารถรับมืออย่างเพียงพอเท่ากับประมาณ 2 ล้าน การประเมินประชากรล่าสุด (จาก 2010) 8.28 ล้านได้ มีเพียงรถยนต์จำนวนมากในกรุงเทพมหานครเมื่อขับรถในเมืองใหญ่ของประเทศไทยโดยทั่วไป มันจะฉลาดที่จะหลีกเลี่ยงโดยทั่วไปมีการจองไว้สำหรับโหลด และจอดรถเลนซ้าย เมื่อหยุดที่สี่แยก ปล่อยร้านระหว่างคุณและรถที่ด้านหน้าของคุณ ไม่ว่าความแน่นของการบีบตัวเป็น motorcyclist ที่จะย่อมได้สานผ่าน ดังนั้น คุณจะเช่นให้รถของคุณบิตของตัวแบ่งเครื่องจักรกลหนักและรถจักรยานดูเหมือนจะ พัฒนาถนนกฎระบบของตนเอง และปฏิบัติ ตามสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายถนนทางเดียวไม่ เป้าหมายของพวกเขาจะได้รับไปยังปลายทางอย่างรวดเร็ว แต่นี้มักรวมถึงนิสัยการขับรถอันตรายมากมักจะไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับยานพาหนะขนาดใหญ่ อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ประกอบ 70% ของทั้งหมดถนนจราจรเสียชีวิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การขับรถในเมืองไทยเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งและขับรถในกทม. เป็นอีกหนึ่ง กทม. มักจะทำให้รายการสำหรับการจราจรติดขัดที่เลวร้ายที่สุดในโลกทุกคน และเมืองที่แน่นอนสมควรได้รับชื่อเสียงนี้ แต่น่าเสียดายที่การจราจรในเมืองหลวงของไทยดูเหมือนว่าจะเพียงจะเลวร้ายลง แม้ว่าเมืองที่มีการลงทุนในระบบขนส่งสาธารณะในทศวรรษที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้รับเท่าของความช่วยเหลือเท่าที่หวัง เพื่อตอบโต้การบรรเทาการขนส่งสาธารณะใด ๆ ที่อาจจะนำมารัฐบาลไทยแนะนำนโยบายการคืนเงินภาษีสำหรับครั้งแรกที่ผู้ซื้อรถ มันไม่น่าแปลกใจว่าเรื่องนี้มีผลเฉพาะในเพิ่มขึ้นในรถยนต์. แออัดในกรุงเทพฯได้กลายเป็นที่ไม่ดีที่คนหลีกเลี่ยงการขับรถในเมืองโดยสิ้นเชิงจนกว่าพวกเขาอย่างต้อง แน่นอนว่าทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการขับรถในเมืองหลวงของประเทศไทย บริการจัดส่งสินค้าและคนขับรถของยานพาหนะยูทิลิตี้ไม่ได้มีทางเลือกมาก. ในปี 2012 มีจำนวน 6.8 ล้านคันในกทม. แต่ในเมืองเท่านั้นที่สามารถเพียงพอรับมือกับประมาณ 2 ล้าน ประชากรล่าสุดประมาณการ (ตั้งแต่ปี 2010) เป็น 8,280,000 มีเพียงคันมากเกินไปในกรุงเทพฯ. เมื่อขับรถในเมืองใหญ่ของไทยโดยทั่วไปก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงเลนซ้ายตามที่สงวนไว้สำหรับการโหลดและที่จอดรถ เมื่อหยุดที่แยกออกจากห้องพักบางส่วนระหว่างคุณและรถในหน้าของคุณ ไม่ว่าแน่นบีบมันเป็น, ไซย่อมจะพยายามที่จะสานผ่าน ดังนั้นคุณอาจรวมทั้งให้รถของคุณบิตของการแบ่ง. Mopeds และจักรยานดูเหมือนจะมีการพัฒนาระบบของตัวเองของกฎถนนและปฏิบัติโดยไม่สัญญาณไฟจราจรหรือสัญญาณทางเดียวถนน เป้าหมายของพวกเขาคือการได้รับไปยังปลายทางได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่น่าเสียดายที่นี้มักจะมีพฤติกรรมการขับขี่ที่เป็นอันตรายบ่อยกว่าไม่ส่งผลในการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับยานพาหนะขนาดใหญ่ อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ทำขึ้น 70% ของการเสียชีวิตการจราจรบนถนนทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การขับรถในไทยเป็นวิชาหนึ่ง และขับรถในกรุงเทพอีก กรุงเทพฯ มักจะทำให้ทุกๆ รายการที่เลวร้ายที่สุดการจราจรติดขัดในโลก และเมืองแน่นอนสมควรได้รับชื่อเสียงนี้ แต่การจราจรในเมืองหลวงของไทย ดูเหมือนจะแย่ลง ถึงแม้ว่าเมืองมีการลงทุนในระบบขนส่งสาธารณะในทศวรรษที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่เท่าของช่วยตามที่ได้หวังไว้เคาน์เตอร์บรรเทาใด ๆการขนส่งสาธารณะอาจจะพา รัฐบาลเสนอนโยบายคืนภาษีให้ผู้ซื้อรถครั้งแรก มันไม่น่าแปลกใจว่ามีเพียงผลในการเพิ่มขึ้นในรถ

ความแออัดในกรุงเทพ ได้กลายเป็นนักที่คนหลีกเลี่ยงการขับในเมืองทั้งหมดจนกว่าพวกเขาจะต้องทำ แน่นอนว่าทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการขับรถในเมืองหลวงของไทยสารและไดรเวอร์ของยานพาหนะสาธารณูปโภคไม่ได้มีทางเลือกมาก

ใน 2012 มีจำนวน 6.8 ล้านคันในกรุงเทพ แต่เมืองก็เพียงพอรับมือกับประมาณ 2 ล้าน การประมาณจำนวนประชากรล่าสุด ( 2010 ) 8.28 ล้านบาท ไม่มีรถก็เยอะในกรุงเทพ

เมื่อขับรถในกรุงเทพเมืองใหญ่ทั่วไปมันเป็นฉลาดที่จะหลีกเลี่ยงช่องทางซ้ายเป็นสงวนทั่วไปสำหรับการโหลดและที่จอดรถ เมื่อหยุดที่สี่แยกไฟแดง ทิ้งไว้ในห้อง ระหว่างคุณและรถในด้านหน้าของคุณ ไม่ว่าแน่นบีบมัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ย่อมพยายามที่จะสานผ่าน ดังนั้นคุณอาจรวมทั้งให้บริการของคุณเป็นบิตของการแบ่ง .

mopeds และจักรยานดูเหมือนจะพัฒนาระบบของตัวเองของถนนกฎและปฎิบัติหรือสัญญาณจราจร หรือป้ายถนนวันเวย์ เป้าหมายของพวกเขาคือการได้รับไปยังจุดหมายปลายทางของพวกเขาให้เร็วที่สุด แต่นี้มักจะมีนิสัยการขับรถเป็นอันตรายมากขึ้นมักจะมากกว่าไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับยานพาหนะขนาดใหญ่อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ ทำให้ขึ้น 70% ของการเสียชีวิตจราจรทั้งหมด