Mexican cuisine is as complex as an

Mexican cuisine is as complex as any other world cuisine, such as those of China, France, Italy and Japan.[3] It is created mostly with ingredients native to Mexico, as well as those brought over by the Spanish conquistadors, with some new influences since then.[4] In addition to staples, such as corn and chile peppers, native ingredients include tomatoes, squashes, avocados, cocoa and vanilla,[5] as well as ingredients not generally used in other cuisines, such as edible flowers, vegetables like huauzontle and papaloquelite, or small criollo avocados, whose skin is edible

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาหารเม็กซิกันเป็นซับซ้อนมากเท่าอาหารโลกอื่น ๆ เช่นประเทศจีน ฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่น [3] มันถูกสร้างขึ้นส่วนใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก เป็นผู้นำ โดยการ conquistadors สเปน ด้วยอิทธิพลบางอย่างใหม่ตั้งแต่นั้นส่วนผสม ลวดเย็บกระดาษ ข้าวโพด และพริกชิลี ส่วนผสมดั้งเดิม [4] ในนี้ได้แก่มะเขือเทศ squashes อะโวคาโด โกโก้ และ วานิลลา, [5] รวมถึงไม่มักใช้ในอาหารอื่น ๆ เช่นดอกไม้กินได้ ผักเช่น huauzontle และ papaloquelite หรืออะโวคา โด criollo เล็ก ผิวเป็นกิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาหารเม็กซิกันซับซ้อนเท่าอาหารโลกอื่น ๆ เช่นจีน, ฝรั่งเศส, อิตาลีและญี่ปุ่น. [3] มันถูกสร้างขึ้นส่วนใหญ่มีส่วนผสมพื้นเมืองเม็กซิโกเช่นเดียวกับผู้ที่นำมาโดยสเปนมีบางส่วนใหม่ อิทธิพลตั้งแต่นั้น. [4] นอกจากลวดเย็บกระดาษเช่นข้าวโพดและชิลีพริกส่วนผสมพื้นเมือง ได้แก่ มะเขือเทศฟักทอง, อะโวคาโด, โกโก้และวานิลลา, [5] เป็นส่วนผสมไม่ได้ใช้โดยทั่วไปในอาหารอื่น ๆ เช่นดอกไม้กินได้ ผักเช่น huauzontle และ papaloquelite หรืออะโวคาโด Criollo ขนาดเล็กที่มีผิวกินได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาหารเม็กซิกันอาหารซับซ้อนเท่าที่โลกอื่น ๆ เช่น จีน ฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่น [ 3 ] มันถูกสร้างขึ้นส่วนใหญ่ที่มีส่วนผสมพื้นเมืองของเม็กซิโก เป็นผู้พามา โดย conquistadors สเปนกับอิทธิพลใหม่แล้ว [ 4 ] นอกจากนี้ลวดเย็บกระดาษ , เช่น ข้าวโพด พริกชิลี ส่วนผสมพื้นเมือง ได้แก่ มะเขือเทศ แตง อะโวคาโด โกโก้ และกลิ่นวานิลลา [ 5 ] เป็นวัสดุทั่วไปที่ใช้ในอาหารอื่น ๆเช่น ดอกไม้กินได้ , ผักและชอบ huauzontle papaloquelite หรืออะโวคาโดคริโอโลขนาดเล็กที่มีผิวจะกิน