Individual farmers used a range of

Individual farmers used a range of different products to control pests.
The average number of different pesticides used was 2.9 (maximum 9) for cabbage, and 3.9 (maximum 11) for cauliflower.
The use of different products was especially prevalent in cauliflower production in West Bengal, and in cabbage production in Karnataka, where farmers used an average of five different products.
Insecticides dominated chemical pest management both in cabbage and cauliflower production.
The use of fungicides was more frequent in cauliflower than in cabbage production.

More than one third of farmers (36.6%) sprayed pesticides before the incidence of pest damage, as a preventive measure. In addition, most farmers (86.9%) sprayed pesticides when the pest damage was still low.
Only 8% of farmers reported considering the level of pest incidences or the level of attack before spraying.

The use of non-chemical control methods was very limited among the respondents.
Across all three states, 72% of respondents did not use any method other than pesticides to control insect pests.
Karnataka was the only state where a substantial number of farmers (76%) also used mechanical means (weeding) to control pests.
Overall, nine farmers used pheromone traps or other biological or natural methods to control pests.
Seven farmers grew inter-crops or trap crops along with the crucifers to keep the pest population in check.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกษตรกรแต่ละคนที่ใช้ช่วงของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันในการควบคุมศัตรูพืช
ค่าเฉลี่ยของจำนวนที่แตกต่างกันสารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้เป็น 2.9 (9 สูงสุด) สำหรับกะหล่ำปลีและ 3.9 (11 สูงสุด) สำหรับกะหล่ำดอก
การใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่แพร่หลายในการผลิตกะหล่ำดอกในรัฐเบงกอลตะวันตกและในการผลิตกะหล่ำปลีในกรรณาฏักที่เกษตรกรใช้ค่าเฉลี่ยของห้าผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน
ยาฆ่าแมลงครอบงำการจัดการศัตรูพืชสารเคมีทั้งในกะหล่ำปลีและการผลิตกะหล่ำดอก
การใช้สารฆ่าเชื้อราเป็นบ่อยมากขึ้นในกะหล่ำกว่าในการผลิตกะหล่ำปลี.

กว่าหนึ่งในสามของเกษตรกร (36.6%) ฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชก่อนที่จะเกิดความเสียหายจากศัตรูพืชที่เป็นมาตรการป้องกัน นอกจากนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ (86.9%) ฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชเมื่อศัตรูพืชความเสียหายก็ยังคงต่ำ
เพียง 8% ของเกษตรกรรายงานพิจารณาระดับของอุบัติการณ์ศัตรูพืชหรือระดับของการโจมตีก่อนที่จะฉีดพ่น.

ใช้ที่ไม่ใช่วิธีการควบคุมสารเคมีที่ถูก จำกัด มากในหมู่ผู้ตอบแบบสอบถาม
ทั่วทั้งสามรัฐ 72% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่ได้ใช้วิธีการอื่นนอกเหนือจากสารกำจัดศัตรูพืชใด ๆ ในการควบคุมแมลงศัตรูพืช.
ในกรรณาฏักเป็นรัฐเดียวที่จำนวนมากของเกษตรกร (76%) นอกจากนี้ยังใช้วิธีกล (การกำจัดวัชพืช) เพื่อควบคุมศัตรูพืช.
รวมเก้าศัตรูพืชที่เกษตรกรนำมาใช้กับดักฟีโรโมนหรือวิธีการทางชีวภาพหรือธรรมชาติอื่น ๆ ในการควบคุม
เจ็ดเกษตรกรขยายตัวระหว่างพืชหรือพืชกับดักพร้อมกับ crucifers เพื่อให้ประชากรศัตรูพืชในการตรวจสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกษตรกรแต่ละรายใช้ช่วงของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างในการควบคุมศัตรูพืช
จำนวนเฉลี่ยของใช้ยาฆ่าแมลงอื่น 2.9 (สูงสุด 9) สำหรับกะหล่ำปลี และ 3.9 (สูงสุด 11) สำหรับกะหล่ำ
การใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบมากในกะหล่ำดอกผลิต ในเบงก อลตะวันตก และผลิตกะหล่ำปลีในรัฐกรณาฏกะ ที่เกษตรกรใช้เฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง 5
ยาฆ่าแมลงครอบงำเคมีจัดการศัตรูพืชทั้งในกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอก
การใช้ซึ่งเกิดจากเชื้อได้บ่อยกว่าในกะหล่ำกว่าในผลิตกะหล่ำปลี

กว่าหนึ่งในสามของเกษตรกร (36.6) ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงก่อนที่จะเกิดความเสียหายศัตรูพืช เป็นมาตรการ เกษตรกรส่วนใหญ่ (ร้อยละ 86.9) พ่นยาฆ่าแมลงเมื่อแมลงความเสียหายยังคงต่ำ
เพียง 8% ของเกษตรกรรายงานพิจารณาระดับของแมลง incidences หรือระดับของการโจมตีก่อนที่จะพ่น

การใช้วิธีการไม่ใช้สารเคมีควบคุมถูกจำกัดมากในหมู่ผู้ตอบ
ไม่ทั่วอเมริกาสามทั้งหมด 72% ของผู้ตอบได้ใช้วิธีใด ๆ ที่ไม่ใช่ยาฆ่าแมลงเพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืช
รัฐกรณาฏกะคือ รัฐเท่านั้นที่พบจำนวนเกษตรกร (76%) ยัง ใช้กลหมาย (weeding) เพื่อควบคุมศัตรูพืช
โดยรวม เกษตรกร 9 ใช้กับดักฟีโรโมนหรือวิธีการอื่น ๆ ทางชีวภาพ หรือธรรมชาติในการควบคุมศัตรูพืช
7 เกษตรกรเพิ่มขึ้นระหว่างพืชหรือพืชกับดักกับ crucifers ให้ประชากรศัตรูพืชในการตรวจสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกษตรกรรายบุคคลใช้ความหลากหลายของสินค้าแตกต่างกันเพื่อควบคุมศัตรูพืช
จำนวนเฉลี่ยที่แตกต่างกันของสารกำจัดศัตรูพืชมาใช้เป็น 2.9 (สูงสุด 9 )สำหรับกะหล่ำปลีและ 3.9 (สูงสุด 11 )สำหรับกะหล่ำดอก
การใช้สินค้าที่แตกต่างจะมากเป็นพิเศษในการผลิตดอกกะหล่ำปลี,ในเบงกอลตะวันตกและในการผลิตกะหล่ำปลีในกรณาฏกะที่เกษตรกรใช้เฉลี่ยที่แตกต่างกันของห้า ผลิตภัณฑ์
จัดแมลงศัตรูพืชสารเคมีถูกครอบงำการบริหารจัดการทั้งในการผลิตและกะหล่ำปลีกะหล่ำดอก
การใช้สารกําจัดเชื้อราเป็นบ่อยมากขึ้นในกะหล่ำดอกมากกว่าในการผลิตกะหล่ำปลี.

มากกว่าหนึ่งในสามของเกษตรกร( 36.6% )ที่ฉีดพ่นสารเคมียาปราบศัตรูพืชก่อนปัญหาของศัตรูพืชรวมความเสียหายเป็นมาตรการที่ป้องกัน นอกจากนี้เกษตรกรมากที่สุด( 86.9% )ที่ฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลงสารกำจัดศัตรูพืชเมื่อความเสียหายที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
เพียง 8% ของเกษตรกรรายงานการพิจารณาระดับของจัดหาอาหารสัตว์หรือระดับของการโจมตีก่อน spraying.use

ของวิธีการควบคุมไม่ - เคมีจำกัด(มหาชน)ก็เป็นอย่างมากจากการสำรวจพบว่า
สามรัฐทั้งหมด 72% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่ได้ใช้วิธีการอื่นใดที่ไม่ใช่สารกำจัดศัตรูพืชในการควบคุมศัตรูพืชและแมลง.
รัฐกรณาฏกะก็เท่านั้นที่จำนวนหนึ่งของเกษตรกร( 76% )นอกจากนั้นยังใช้วิธีกล(นั่นเอง)เพื่อควบคุมศัตรูพืช.
โดยรวมเก้าเกษตรกรใช้วิธีการทาง ชีวภาพ หรือทางธรรมชาติอื่นๆอีกหรือ pheromone เพื่อควบคุมศัตรูพืช
เจ็ดเกษตรกรปลูกพืชหรือวางกับดัก Inter - พืชพร้อมด้วย crucifers ในการทำให้ประชากรสัตว์ในการตรวจสอบ