A Warming worldOne weekend in May 2

A Warming world
One weekend in May 2010, the weather forecast for Nashville, Tennessee, U.S.A., predicted 10 centimeters (4 inches) of rain. By Sunday, over 33 centimeters (13 inches) had fallen. Soon the city was flooded. On the roads, cars were covered by the rising water. “We’ve got buildings running into cars,” the news reported as a small building floated by. There were 11 deaths that weekend.
Changing Weather
The weather is changing. Over the last few years, heavy rains have caused floods in Brazil, Pakistan, and Thailand. Droughts have struck Russia and Australia. Heat waves have killed thousands in Europe, and all over the world, hurricanes and tornadoes strike more frequently and with greater force then ever before. In 2011 alone, losses caused by the weather cost the world 150 billion dollars.
Warmer and Wetter
As more wild weather events happen, a worried world is beginning to ask questions like: What is going on with the weather? And why? Many also want to know: Is this natural, or are we to blame?
The answer seems to be: a little of both. Wild weather is natural. But most scientists agree human activity has made the Earth warmer. This global warming makes heat waves more likely to occur. The higher temperatures also cause more water to enter the air. This causes heavier and more frequent rain. Some scientists also believe global warming makes hurricanes and other storms stronger.
This means we’re likely to see more wild weather. “[But] we don’t have to just stand there and take it,” says scientist Michael Oppenheimer. He and other experts say we need to stop the Earth from getting warmer. We also need to be prepared, to do things that will help save lives.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โลกร้อนสัปดาห์ที่ 1 พฤษภาคม 2010 การพยากรณ์อากาศสำหรับแนชวิลล์ เทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ทำนาย 10 เซนติเมตร (4 นิ้ว) ฝน โดยอาทิตย์ กว่า 33 เซนติเมตร (13 นิ้ว) ได้ลดลง เร็ว ๆ นี้ เมืองถูกน้ำท่วม บนถนน รถยนต์ถูกปกคลุม ด้วยน้ำเพิ่มขึ้น "เราได้ทำงานในรถยนต์ อาคาร" เป็นอาคารขนาดเล็กที่ลอยตามรายงานข่าว สัปดาห์ที่ 11 เสียชีวิตได้การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ กว่าปีที่ผ่านมา ฝนตกหนักได้เกิดน้ำท่วมในบราซิล ปากีสถาน และไทย ภัยแล้งมีหลงรัสเซียและออสเตรเลีย คลื่นความร้อนจะฆ่าตายนับพันในยุโรป และทั่วโลก พายุเฮอริเคนและพายุทอร์นาโดตีเพิ่มเติมบ่อย และแรงมากขึ้นแล้วเคย ในคนเดียว ขาดทุนที่เกิดจากสภาพอากาศโลกที่ต้นทุน 150 พันล้านดอลลาร์อบอุ่น และควรขณะเกิดเหตุการณ์สภาพอากาศป่าเพิ่มเติม โลกกังวลเริ่มถามคำถามเช่น: เกิดอะไรขึ้นกับสภาพอากาศ และทำไม หลายคนต้องการทราบ: นี้ธรรมชาติ หรือเราจะตำหนิหรือไม่คำตอบน่าจะ เป็น: เล็กทั้งสอง สภาพป่าเป็นธรรมชาติ แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับกิจกรรมที่มนุษย์ได้ทำให้โลกอุ่นขึ้น นี้ภาวะโลกร้อนทำให้คลื่นความร้อนที่มักจะเกิดขึ้น อุณหภูมิสูงขึ้นทำให้น้ำมากขึ้นเพื่อป้อนอากาศ ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนัก และบ่อยขึ้น นักวิทยาศาสตร์บางคนยังเชื่อว่าโลกร้อนทำให้พายุเฮอริเคนและพายุอื่น ๆ มากขึ้นซึ่งหมายความว่า เรามีโอกาสเห็นสภาพป่าเพิ่มเติม "[แต่] เราไม่ต้องยืน และใช้มัน เพียงแค่" กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์นฮี Michael เขาและผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เราต้องหยุดโลกจากการอุ่น นอกจากนี้เรายังต้องเตรียมพร้อม ทำสิ่งที่จะช่วยประหยัดชีวิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ร้อนโลก
หนึ่งวันหยุดสุดสัปดาห์ในเดือนพฤษภาคม 2010 พยากรณ์อากาศสำหรับแนชวิลล์เทนเนสซีสหรัฐอเมริกาที่คาดการณ์ไว้ 10 เซนติเมตร (4 นิ้ว) ฝน โดยวันอาทิตย์ที่กว่า 33 เซนติเมตร (13 นิ้ว) ได้ลดลง เร็ว ๆ นี้เมืองที่ถูกน้ำท่วม บนถนนคันถูกปกคลุมด้วยน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น "เราได้มีอาคารที่ใช้เป็นรถ" ข่าวรายงานว่าเป็นอาคารขนาดเล็กลอยโดย มีผู้เสียชีวิต 11 วันหยุดสุดสัปดาห์เป็น.
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีฝนตกหนักได้ก่อให้เกิดน้ำท่วมในบราซิลปากีสถานและไทย ภัยแล้งได้หลงรัสเซียและออสเตรเลีย คลื่นความร้อนได้ฆ่าหลายพันคนในยุโรปและทั่วทุกมุมโลก, พายุเฮอริเคนและพายุทอร์นาโดตีบ่อยขึ้นและมีพลังมากขึ้นแล้วเคยเป็นมาก่อน ในปี 2011 เพียงอย่างเดียวสูญเสียที่เกิดจากสภาพอากาศโลกมีค่าใช้จ่าย 150 พันล้านดอลลาร์.
อุ่นและอากาศ
เป็น Wild เหตุการณ์สภาพอากาศที่เกิดขึ้นในโลกความกังวลใจเป็นจุดเริ่มต้นที่จะถามคำถามเช่น: สิ่งที่เกิดขึ้นกับสภาพอากาศ? และทำไม? หลายคนยังต้องการที่จะรู้หรือไม่ธรรมชาตินี้หรือที่เราจะตำหนิ
คำตอบน่าจะเป็น: เล็ก ๆ น้อย ๆ ของทั้งสอง สภาพอากาศในป่าเป็นธรรมชาติ แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นด้วยกิจกรรมของมนุษย์ได้ทำให้โลกอุ่นขึ้น นี้ภาวะโลกร้อนทำให้คลื่นความร้อนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังก่อให้เกิดน้ำมากขึ้นเพื่อป้อนอากาศ นี้ทำให้เกิดฝนหนักและบ่อยครั้งมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์บางคนยังเชื่อภาวะโลกร้อนทำให้พายุเฮอริเคนและพายุอื่น ๆ ที่แข็งแกร่ง.
ซึ่งหมายความว่าเรามีแนวโน้มที่จะดูสภาพอากาศป่ามากขึ้น "[ แต่] เราไม่ได้มีเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นและใช้มัน" นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าไมเคิลออพ เขาและผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ บอกว่าเราจำเป็นต้องหยุดโลกจากการที่อากาศอบอุ่น นอกจากนี้เรายังต้องมีการเตรียมที่จะทำสิ่งที่จะช่วยรักษาชีวิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นร้อนโลกหนึ่งสัปดาห์ในเดือนพฤษภาคม 2553 พยากรณ์อากาศสำหรับแนชวิลล์ , เทนเนสซี , สหรัฐอเมริกา , ทำนาย 10 เซนติเมตร ( 4 นิ้ว ) ของฝน โดยอาทิตย์กว่า 33 เซนติเมตร ( 13 นิ้ว ) ได้ลดลง . ในไม่ช้าเมืองถูกน้ำท่วม บนถนน รถที่ถูกปกคลุมโดยเพิ่มขึ้นน้ำ " เรามีอาคารวิ่งรถเข้าไป " ข่าวรายงานว่าเป็นอาคารขนาดเล็กลอยโดย มี 11 เสียชีวิตวันหยุดสุดสัปดาห์ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง กว่าไม่กี่ปีล่าสุด , ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในบราซิล ปากีสถาน และประเทศไทย ภัยแล้งมีขีด รัสเซีย และออสเตรเลีย คลื่นความร้อนจะฆ่านับพันในยุโรปและทั่วโลก พายุเฮอริเคนและพายุทอร์นาโดโจมตีบ่อย และมีแรงมากขึ้นแล้วที่เคย ในปี 2011 เพียงอย่างเดียว ความเสียหายที่เกิดจากต้นทุนสภาพอากาศโลก 150 ล้านดอลลาร์อบอุ่นและเปียกสภาพอากาศเพิ่มเติมขึ้นเป็นป่า โลกกังวลเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น กับสภาพอากาศแบบนี้ และทำไม ? หลายคนต้องการทราบว่า นี่คือ ธรรมชาติ หรือเราผิด ?คำตอบที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงเล็กน้อยของทั้งสอง สภาพอากาศที่เป็นป่าธรรมชาติ แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่า กิจกรรมของมนุษย์ ทำให้โลกอุ่นขึ้น ภาวะโลกร้อนทำให้คลื่นความร้อนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังทำให้น้ำมากขึ้นเพื่อป้อนอากาศ ทำให้ฝนตกหนักและบ่อยมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์บางคนยังเชื่อว่าภาวะโลกร้อนทำให้พายุเฮอริเคนและพายุที่แข็งแกร่งอื่น ๆ .นี่หมายความว่าเราอาจจะเห็นสภาพอากาศป่ามากขึ้น " [ แต่ ] เราไม่ต้องไปยืนให้มัน กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์ไมเคิลเพนไฮเมอร์ . เขาและผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ ว่าเราต้องหยุดโลกจากเริ่มอุ่นขึ้น เรายังต้องเตรียมพร้อม ที่จะทำสิ่งที่จะช่วยให้รอด