This suggests that coliforms had a

This suggests that coliforms had a relative higher mobility during the wet season as there is more water flowing to groundwater during recharge. Banerjee (2011) reported that transport of total and faecal coliforms increased during the monsoon period and in sandy soils and the estimated maximum travel distance of bacteria was 10 m
from pits. In contrast, Chidavaenzi et al. (1997) reported coliforms

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี้แสดงให้เห็นว่า coliforms มีความคล่องตัวสูงมีญาติในช่วงฤดูฝนมีน้ำมากไหลไปน้ำบาดาลระหว่างชาร์จ Banerjee (2011) รายงานว่า การขนส่งรวม และ faecal coliforms เพิ่มช่วงมรสุม และในดินทรายและการเดินทางสูงสุดโดยประมาณ ระยะทางของแบคทีเรียเป็น 10 เมตรจากหลุม ในความคมชัด Chidavaenzi et al. (1997) coliforms รายงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี้แสดงให้เห็นว่าโคลิฟอร์มมีความคล่องตัวสูงญาติในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำมากไหลไปในระหว่างการเติมน้ำใต้ดิน Banerjee (2011) รายงานการขนส่งของโคลิฟอร์มทั้งหมดและอุจจาระเพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ลมมรสุมและในดินทรายและที่ระยะการเดินทางประมาณสูงสุดของเชื้อแบคทีเรียที่เป็น 10 เมตร
จากหลุม ในทางตรงกันข้าม Chidavaenzi et al, (1997) รายงานโคลิฟอร์ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี้แสดงให้เห็นว่ามีความคล่องตัวสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบ ในช่วงฤดูฝนมีน้ำไหลใต้ดินมากขึ้นในระหว่างชาร์จ บาเนอร์จี ( 2011 ) รายงานว่า การขนส่งทั้งหมดและฟีคอลโคลิฟอร์มที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูมรสุม และดินทราย และคาดว่าการเดินทางไกลของแบคทีเรียสูงสุด 10 เมตรจากหลุม ในทางตรงกันข้าม chidavaenzi et al . ( 1997 ) รายงานปริมาณโคลิฟอร์ม