The study is a cross-sectional desc

The study is a cross-sectional descriptive study design (cross - sectional descriptive study) to study the involvement of personnel to improve the hospital Maharaj Nakhon Si Thammarat province. The sample consisted of 336 students disagreed with hospital personnel were kept completely up to 280 percent. 83.33
, which were derived from a stratified sample survey. Using the theory of probability. The instrument used for data collection, analysis was performed using the average number of standard deviations. The statistical t-test analysis, ANOVA (one way analysis of variance: ANOVA) and finding the coefficient of correlation Pearson (Pearson Correlation)
results showed that participating in quality improvement. hospital, hospital staff disagreed. Overall levels are Consists in the Participation Decisions Participation in the operation. Participation in benefits. And participation In the evaluation At a high level For personnel with education and the mission is different. Participate in the development of hospital quality difference is statistically significant level. 0.05
for personnel with gender, age, work experience placements and different. Contribute to improve the hospital is no different. The motivation factor was associated with participation in the development of the overall hospital quality is high. Consists in the The nature
and progression in a relationship with a high level of participation in the development of hospital quality. Its success in the workplace The recognition And responsibility
correlated moderately. To contribute to improve the hospital. The findings
reveal that the personnel involved in the development of high-quality hospital is statistically significant at the 0.05 level.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาคือ ศึกษาเหลวอธิบายแบบ (ข้าม - ศึกษาอธิบายตัด) ศึกษาการมีส่วนร่วมของบุคลากรเพื่อปรับปรุงโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชจังหวัด ตัวอย่างประกอบด้วย 336 นักเรียน disagreed กับโรงพยาบาลบุคลากรที่ถูกเก็บไว้อย่างสมบูรณ์ถึง 280 เปอร์เซ็นต์ 83.33 ซึ่งได้มาจากการสำรวจตัวอย่าง stratified โดยใช้ทฤษฎีความน่าเป็น เครื่องมือที่ใช้สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ถูกดำเนินการโดยใช้จำนวนค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ทางสถิติ t-ทดสอบ การวิเคราะห์ความแปรปรวน (ผลต่างของการวิเคราะห์ทางเดียว: การวิเคราะห์ความแปรปรวน) และหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (สหสัมพันธ์เพียร์สัน) ผลพบว่ามีส่วนร่วมในการปรับปรุงคุณภาพ โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล disagreed โดยรวม ระดับมี Consists ในการมีส่วนร่วมตัดสินใจเข้าร่วมในการดำเนินการ มีส่วนร่วมในผลประโยชน์ และมีส่วนร่วมในการประเมินในระดับสูงสำหรับบุคลากรที่มีการศึกษาและภารกิจแตกต่างกัน มีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงพยาบาล คุณภาพแตกต่างที่มีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05 สำหรับบุคลากรที่มีเพศ อายุ และประสบการณ์การทำงาน และแตกต่างกัน มีส่วนร่วมเพื่อปรับปรุงโรงพยาบาลจะไม่แตกต่างกัน ปัจจัยแรงจูงใจเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโดยรวม โรงพยาบาลคุณภาพจะสูงขึ้น ประกอบด้วยในธรรมชาติ และความก้าวหน้าในความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลระดับสูง ความสำเร็จในการรับรู้การทำงาน และความรับผิดชอบ correlated ปานกลาง มีส่วนร่วมในการปรับปรุงโรงพยาบาล ผลการศึกษา เปิดเผยว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาคือการตัดการออกแบบการวิจัยเชิงพรรณนา (ข้าม - ศึกษาเชิงพรรณนา) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการปรับปรุงโรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน 336 ไม่เห็นด้วยกับบุคลากรของโรงพยาบาลถูกเก็บไว้อย่างสมบูรณ์ขึ้นถึง 280 เปอร์เซ็นต์ 83.33
ซึ่งได้มาจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น การใช้ทฤษฎีความน่าจะเป็น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิเคราะห์ถูกดำเนินการโดยใช้ค่าเฉลี่ยของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติการวิเคราะห์ t-test, ANOVA (การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว: ANOVA) และการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Correlation)
ผลการศึกษาพบว่ามีส่วนร่วมในการปรับปรุงคุณภาพ โรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ไม่เห็นด้วย ระดับโดยรวมจะประกอบด้วยในการมีส่วนร่วมการมีส่วนร่วมตัดสินใจในการดำเนินงาน มีส่วนร่วมในผลประโยชน์ และมีส่วนร่วมในการประเมินผลในระดับสูงสำหรับบุคลากรที่มีการศึกษาและการปฏิบัติภารกิจที่แตกต่างกัน มีส่วนร่วมในการพัฒนาของความแตกต่างที่มีคุณภาพโรงพยาบาลระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
สำหรับบุคลากรที่มีเพศอายุตำแหน่งประสบการณ์ในการทำงานที่แตกต่างกันและ มีส่วนร่วมในการปรับปรุงโรงพยาบาลไม่แตกต่างกัน ปัจจัยที่สร้างแรงจูงใจที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลโดยรวมอยู่ในระดับสูง ประกอบด้วยในธรรมชาติ
และความก้าวหน้าในความสัมพันธ์กับระดับสูงของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล ความสำเร็จในการทำงานได้รับการยอมรับและความรับผิดชอบ
มีความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงโรงพยาบาล ผลการวิจัย
พบว่าบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาของโรงพยาบาลที่มีคุณภาพสูงที่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาเป็นรูปแบบการศึกษาเชิงพรรณา ( Cross - sectional การศึกษาเชิงพรรณนา ) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของบุคลากรเพื่อปรับปรุงโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 336 คน ไม่เห็นด้วยกับบุคลากรของโรงพยาบาลถูกเก็บไว้อย่างสมบูรณ์ได้ถึง 280 ) 83.33
ซึ่งได้มาจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น .การใช้ทฤษฎีของความน่าจะเป็น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าเฉลี่ยของจำนวนและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ทางสถิติ ( t-test , การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวการวิเคราะห์ความแปรปรวน ) และการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ( Pearson Correlation ผลการศึกษาพบว่า )
มีส่วนร่วมในการปรับปรุงคุณภาพ โรงพยาบาล , โรงพยาบาลไม่เห็นด้วยระดับโดยรวมจะประกอบด้วยในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วม การมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ และการมีส่วนร่วมในการประเมินผล อยู่ในระดับมาก สำหรับด้านการศึกษา และภารกิจที่แตกต่างกัน มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ . 0.05
สำหรับบุคลากรที่มี เพศ อายุประสบการณ์การทำงานและทำหน้าที่แตกต่างกัน สนับสนุนการปรับปรุงโรงพยาบาลไม่แตกต่างกัน ปัจจัยแรงจูงใจมีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลโดยรวมสูง ประกอบด้วยในธรรมชาติ
และความก้าวหน้าในความสัมพันธ์กับระดับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลความสำเร็จในการทำงาน การยอมรับและความรับผิดชอบ
มีความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงพยาบาล ข้อมูล
เปิดเผยว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .