Feed resources are very important f

Feed resources are very important for livestock production,
especially during the dry season in the tropical area. The
scarcity of feed has been critically exerting in terms of
quantity and quality, particularly protein sources which
result in low productivity. Rice straw is the main cropresidue
which farmers usually store for use as ruminant feed
in tropical areas, especially in Asia. However, rice straw is low in nutritive value with low level of protein (2–5%DM), high
fiber and lignin content (NDFN50%), low DM digestibility
(b65%) thus resulting in low voluntary feed intake (1.5–2.0%)
(Wanapat et al., 1985). Of the chemical treatment procedures
available generally for improving cereal straws, Fadel Elseed
et al. (2003) show that when using urea combined with
calcium hydroxide, it could improve rumen degradability.
Furthermore, Wanapat et al. (2009) suggested that using 2%
urea and 2% calcium hydroxide treated rice straw could
improve rumen fermentation and milk production. The
concentrated alkaline agents can chemically break the ester
bonds between lignin and hemicellulose and cellulose, and

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทรัพยากรอาหารสำคัญสำหรับการผลิตปศุสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูแล้งในพื้นที่เขตร้อน ที่ขาดแคลนอาหารได้ถูกถึงพยายามความในแง่ของปริมาณและคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีนแหล่งที่ผลผลิตต่ำ ฟางข้าวเป็น cropresidue หลักซึ่งเกษตรกรมักจะเก็บสำหรับใช้เป็นอาหาร ruminant หรือไม่บริเวณเขตร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย อย่างไรก็ตาม ฟางข้าวมีโปรตีน (2 – 5% DM), สูงระดับต่ำค่าวิจัยไฟเบอร์และ lignin เนื้อหา (NDFN50%), digestibility DM ต่ำ(b65%) จึง เกิดขึ้นในการบริโภคอาหารต่ำความสมัครใจ (1.5 – 2.0%)(ศ.ดร.เมธาวรรณพัฒน์ et al., 1985) ขั้นตอนการกำจัดสารเคมีโดยทั่วไปสำหรับการปรับปรุงธัญพืชหลอด Fadel Elseedal. ร้อยเอ็ด (2003) แสดงว่าเมื่อใช้ยูเรียร่วมกับแคลเซียมไฮดรอกไซด์ มันสามารถปรับปรุง degradability ต่อนอกจากนี้ ศ.ดร.เมธาวรรณพัฒน์ et al. (2009) แนะนำว่า ใช้ 2%ยูเรียและ 2% ฟางข้าวแคลเซียมไฮดรอกไซด์ที่ถือว่าสามารถปรับปรุงการผลิตหมักและนมต่อ ที่ตัวแทนด่างเข้มข้นสารเคมีสามารถแบ่งเอสพันธบัตรระหว่าง เซลลูโลส และ hemicellulose, lignin และ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟีดทรัพยากรที่มีความสำคัญมากสำหรับการผลิตปศุสัตว์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้งในพื้นที่เขตร้อน
ขาดแคลนอาหารได้รับการพยายามอย่างยิ่งในแง่ของ
ปริมาณและคุณภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งโปรตีนซึ่ง
ส่งผลให้ผลผลิตต่ำ ฟางข้าวเป็นหลัก cropresidue
ซึ่งเกษตรกรมักจะเก็บเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง
ในเขตร้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย แต่ฟางข้าวอยู่ในระดับต่ำในคุณค่าทางโภชนาการที่มีระดับต่ำของโปรตีน (2-5% DM) สูง
เส้นใยและเนื้อหาลิกนิน (NDFN50%) การย่อย DM ต่ำ
(B65%) จึงทำให้ปริมาณอาหารที่กินโดยสมัครใจต่ำ (1.5-2.0 %)
(Wanapat et al., 1985) ของวิธีการรักษาทางเคมี
ที่มีอยู่โดยทั่วไปสำหรับการปรับปรุงหลอดธัญพืช Fadel Elseed
et al, (2003) แสดงให้เห็นว่าเมื่อมีการใช้ปุ๋ยยูเรียรวมกับ
แคลเซียมไฮดรอกไซก็สามารถปรับปรุงการย่อยสลายในกระเพาะรูเมน.
นอกจากนี้ Wanapat et al, (2009) ชี้ให้เห็นว่าการใช้ 2%
ยูเรียและไฮดรอกไซแคลเซียม 2% ได้รับการรักษาฟางข้าวจะ
ปรับปรุงการหมักในกระเพาะรูเมนและการผลิตนม
ตัวแทนด่างเข้มข้นสามารถทำลายสารเคมีเอสเตอร์
พันธบัตรระหว่างลิกนินและเฮมิเซลลูโลสและเซลลูโลสและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทรัพยากรอาหารสัตว์มีความสำคัญมากสำหรับการผลิตปศุสัตว์
โดยเฉพาะในฤดูแล้ง ในพื้นที่เขตร้อน
ความขาดแคลนอาหาร มีความทุ่มเท ในแง่ของปริมาณและคุณภาพ โดยเฉพาะ
,
" แหล่งโปรตีนที่ประสิทธิภาพต่ำ ฟางข้าวเป็นหลัก
cropresidue ซึ่งเกษตรกรมักเก็บเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้องเขตร้อน
ในพื้นที่ โดยเฉพาะในเอเชีย อย่างไรก็ตามฟางข้าวต่ำในคุณค่าทางอาหารที่มีโปรตีนต่ำ ( 2 ) 5% DM ) และเส้นใยสูง
ลิกนิน ( ndfn50 % )
ได้ DM ต่ำ ( b65 % ) จึงส่งผลให้ต่ำ โดยปริมาณอาหาร ( 1.5 – 2.0 % )
( เมธา วรรณพัฒน์ et al . , 1985 ) ของสารเคมีที่ใช้โดยทั่วไปสำหรับการปรับปรุงกระบวนการ
หลอดธัญพืช ฟาเดล elseed
et al . ( 2546 ) แสดงให้เห็นว่าเมื่อใช้ยูเรียร่วมกับ
แคลเซียมไฮดรอกไซด์ ,มันสามารถปรับปรุงกระบวนการการสลายตัว .
นอกจากนี้ เมธา วรรณพัฒน์ และคณะ ( 2009 ) แนะนำว่าใช้ยูเรีย 2 %
2 % แคลเซียมโซดาไฟ ฟางข้าวจะ
ปรับปรุงกระบวนการหมักและผลิตนม
มีสารที่เป็นด่างสามารถเคมีทำลายเอสเทอร์
พันธบัตรระหว่างเฮมิเซลลูโลสและลิกนินและเซลลูโลส และ