To determine the influence of the c

To determine the influence of the calcination temperature on
the activity of the eggshell-derived catalyst, eggshell was calcined
at different temperatures between 200 C and 1000 C and then
tested for the transesterification of soybean oil to produce biodiesel.
These results showed that eggshell sample calcined above
800 C was the most active catalyst. A yield of 97–99% was obtained
in the presence of eggshell sample calcined above 800 C.
When the calcination temperature was 700 C, a yield of 90% was
achieved, whereas, a low level of activity was observed when the
calcination temperature was

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การพิจารณาอิทธิพลของอุณหภูมิการเผาในกิจกรรมของ catalyst มาเปลือกไข่ เปลือกไข่เผาผลิตภัณฑ์ที่อุณหภูมิแตกต่างระหว่าง 200 C และ 1000 C แล้วทดสอบการเพิ่มน้ำมันถั่วเหลืองเพื่อผลิตไบโอดีเซลผลเหล่านี้แสดงให้เห็นตัวอย่างเปลือกไข่ที่เผาผลิตภัณฑ์ข้างต้น800 C มี catalyst อยู่มากที่สุด ได้รับผลตอบแทนของ 97-99%ในต่อหน้าของตัวอย่างเปลือกไข่เผาผลิตภัณฑ์เหนือ 800 C.เมื่ออุณหภูมิเผา 700 C ผลผลิต 90% ถูกสำเร็จ ขณะที่ ระดับต่ำของกิจกรรมถูกตรวจสอบเมื่อการอุณหภูมิเผา < 600 C. ผลตอบแทนของ < ได้รับ 30%ในต่อหน้าของตัวอย่างเปลือกไข่เผาผลิตภัณฑ์ < 600 C.ร่วมการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของ XRD (Fig. 1)มีการเปลี่ยนแปลงในกิจกรรมตัวเร่งปฏิกิริยาของเปลือกไข่ที่เผาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันอุณหภูมิ Calcinations ด้านล่าง 600 C ไม่ได้นำไปสู่การผู้แต่งโจ และ จึง กิจกรรมตัวเร่งปฏิกิริยาได้มากต่ำสุด ประสิทธิภาพตัวเร่งปฏิกิริยาส่วนได้รับการเผาอุณหภูมิ 800 C เมื่อรูป XRD พบเป็นผลึกเกา ตัวอย่างที่เผาผลิตภัณฑ์ที่ 700 C สำหรับ 2 h ประกอบด้วย CaCO3 เป็นขั้นตอนที่สำคัญและ CaO เป็นระยะรอง ดังนั้นพิมพ์กลางรับ ดังนั้น เกามีระยะการใช้งานของเปลือกไข่ที่ได้รับสิ่งที่ส่งเสริมการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การตรวจสอบอิทธิพลของอุณหภูมิในการเผาบนการทำงานของตัวเร่งปฏิกิริยาเปลือกไข่ที่ได้มาจากที่เปลือกไข่ที่ถูกเผาที่อุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่าง200 ซีและ 1000 ซีและจากนั้นทดสอบการtransesterification ของน้ำมันถั่วเหลืองในการผลิตไบโอดีเซล. ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างเปลือกไข่เผา ดังกล่าวข้างต้น800 C เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้งานมากที่สุด ผลผลิตของ 97-99% ที่ได้รับในการปรากฏตัวของกลุ่มตัวอย่างเปลือกไข่เผาเหนือ800 องศาเซลเซียสเมื่ออุณหภูมิในการเผาเป็น700 C, อัตราผลตอบแทน 90% ได้รับการประสบความสำเร็จในขณะที่ระดับต่ำของกิจกรรมพบว่าเมื่ออุณหภูมิในการเผาเป็น<600 ซีผลผลิตของ <30% ได้รับในการปรากฏตัวของกลุ่มตัวอย่างเปลือกไข่เผา <600 ซีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ในรูปแบบXRD (รูปที่ 1). ในเวลาใกล้เคียงกับการเปลี่ยนแปลงในการเร่งปฏิกิริยาของเปลือกไข่เผาที่แตกต่างกันอุณหภูมิ เผาด้านล่าง 600 C ไม่ได้นำไปสู่การก่อตัวของCaO และดังนั้นการเร่งปฏิกิริยาเป็นอย่างต่ำ ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดในการเร่งปฏิกิริยาที่ได้รับสำหรับการเผาอุณหภูมิสูงกว่า 800 องศาเซลเซียสเมื่อรูปแบบ XRD แสดงให้เห็นผลึก CaO ตัวอย่างเผาที่อุณหภูมิ 700 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 2 ชั่วโมงมี CaCO3 เป็นขั้นตอนที่สำคัญและCaO เป็นขั้นตอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ผลผลิตกลางจึงถูกรับ ดังนั้น CaO เป็นขั้นตอนการใช้งานของเปลือกไข่ที่ได้มาตัวเร่งปฏิกิริยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อศึกษาอิทธิพลของอุณหภูมิการเผาต่อ
กิจกรรมของเปลือกไข่และตัวเร่งปฏิกิริยา เปลือกไข่เผา
ที่อุณหภูมิแตกต่างกันระหว่าง 200 C 1000 C แล้ว
ทดสอบสำหรับกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นของน้ำมันถั่วเหลืองเพื่อผลิตไบโอดีเซล
พบว่าเปลือกไข่เผาตัวอย่างข้างบน
800 C เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้งานมากที่สุด ผลผลิตของ 97 – 99% ได้
ในการแสดงตนของเปลือกไข่เผาตัวอย่างข้างต้น 800 C .
เมื่อเผาที่อุณหภูมิ 700 องศาเซลเซียส ผลผลิต 90 %
สำเร็จ ส่วนระดับต่ำของกิจกรรม พบว่า เมื่อเผาที่อุณหภูมิ 600 องศาเซลเซียส
< < 30% ผลตอบแทนที่ได้รับ
ในการแสดงตนของเปลือกไข่เผา < 600 ตัวอย่าง C .
) ในการวิเคราะห์รูปแบบ ( ภาพที่ 1 ) ประจวบเหมาะ
กับการเปลี่ยนแปลงในฤทธิ์ของเปลือกไข่เผาที่อุณหภูมิต่างกัน

การให้ความร้อนด้านล่าง 600 C ไม่ได้นำไปสู่
การก่อตัวของเคา และ จากนั้น ฤทธิ์มาก
น้อย การแสดงที่ดีที่สุดสำหรับอุณหภูมิการเผาตัวเร่งปฏิกิริยาได้
สูงกว่า 800 องศาเซลเซียส เมื่อตรวจพบผลึกรูปแบบเคา

ตัวอย่างเผาที่ 700 C 2 H มี CaCO3 เป็น
ขั้นตอนหลักและเคาเป็นระยะกลางเล็กน้อย ดังนั้นผลผลิต
) ดังนั้น โจโฉ คือ ระยะที่ใช้งานของเปลือกไข่

ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา