Verma [20] viewed conflict from hum

Verma [20] viewed conflict from human relations perspective and concluded that conflict is unavoidable as it is a natural phenomenon in any organization and its response determines whether the result will be positive or negative. VII. CONCEPTUAL FRAMEWORK Conflict emerges in an organization when an individual perceives that his goals are threatened or hindered by the activities of another person. Schramm-Nielsen [21] defines a conflict as a state of serious disagreement and argument about something perceived to be important by at least one of the parties involved while Azamosa [22] says industrial conflict involves the total range of behaviour and attitudes that is in opposition between individual owners and managers on one hand and working people on the other. However, there are many sources of organizational conflicts as categorized by Jones and George [23] with each category having its unique characteristics as shown in figure 1.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Verma [20] ดูความขัดแย้งจากมุมมองความสัมพันธ์ของมนุษย์ และสรุปว่า ความขัดแย้งเป็นต้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในองค์กร และตอบสนองการกำหนดว่า ผลจะเป็นบวก หรือลบ VII. กรอบแนวคิดความขัดแย้งขึ้นในองค์กรเมื่อบุคคลละเว้นว่า เป้าหมายของเขาถูกคุกคาม หรือผู้ที่ขัดขวางกิจกรรมของบุคคลอื่น Schramm-นีล [21] กำหนดความขัดแย้งเป็นรัฐกันอย่างจริงจังและอาร์กิวเมนต์เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่มองเห็นเป็นสำคัญน้อยหนึ่งของฝ่ายเกี่ยวข้องในขณะ Azamosa [22] กล่าวว่า ช่วงทั้งหมดของพฤติกรรมและทัศนคติในการต่อต้านระหว่างแต่ละเจ้าของและผู้จัดการหนึ่งและคนทำงานอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับการอุตสาหกรรมความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม มีหลายแหล่งที่มาของความขัดแย้งในองค์กรเป็นตามโจนส์และจอร์จ [23] กับแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะแสดงในรูป 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Verma [20] ดูความขัดแย้งจากมุมมองของความสัมพันธ์ของมนุษย์และได้ข้อสรุปว่ามีความขัดแย้งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในองค์กรใด ๆ และการตอบสนองที่กำหนดว่าผลจะเป็นบวกหรือลบ ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ความขัดแย้งกรอบแนวคิดโผล่ออกมาในองค์กรเมื่อบุคคลรับรู้ว่าเป้าหมายของเขากำลังถูกคุกคามหรือขัดขวางโดยกิจกรรมของบุคคลอื่น Schramm-นีลเซ่น [21] กำหนดความขัดแย้งเป็นรัฐของความขัดแย้งที่รุนแรงและข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างน้อยหนึ่งของฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องในขณะที่ Azamosa [22] กล่าวว่าความขัดแย้งในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับช่วงรวมของพฤติกรรมและทัศนคติที่อยู่ใน ความขัดแย้งระหว่างเจ้าของและผู้จัดการของแต่ละบุคคลบนมือข้างหนึ่งและคนที่ทำงานที่อื่น ๆ อย่างไรก็ตามมีหลายแหล่งที่มาของความขัดแย้งขององค์กรเป็นหมวดหมู่ตามโจนส์และจอร์จ [23] กับแต่ละประเภทมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ดังแสดงในรูปที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

verma [ 20 ] ดูความขัดแย้งจากมุมมองของมนุษย์สัมพันธ์ และสรุปว่า ความขัดแย้งย่อมเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในองค์กรใด ๆและการตอบสนองของกำหนดว่าผลจะเป็นบวกหรือลบ 7 . ความขัดแย้งในแนวคิดที่ปรากฏในองค์กร เมื่อบุคคลรับรู้ว่าเป้าหมายของเขาถูกคุกคามหรือขัดขวางจากกิจกรรมของบุคคลอื่นบริษัท Schramm [ 21 ] นิยามความขัดแย้งเป็นสถานะของความขัดแย้งที่รุนแรง และโต้แย้งเรื่องการรับรู้เป็นสำคัญ โดยอย่างน้อยหนึ่งของฝ่ายที่เกี่ยวข้องในขณะที่ azamosa [ 22 ] กล่าวว่า ความขัดแย้งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับช่วงทั้งหมดของพฤติกรรมและทัศนคติที่ในการต่อสู้ระหว่างเจ้าของและผู้จัดการในแต่ละมือและคนที่ทำงานในอื่น ๆ . อย่างไรก็ตามมีหลายสาเหตุของความขัดแย้งขององค์การ เช่น แบ่งตาม โจนส์และจอร์จ [ 23 ] กับแต่ละประเภทมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงในรูปที่ 1