The Moon is basically a giant ball

The Moon is basically a giant ball of rock 3500 kilometers across hanging in space. Its surface is actually pretty dark, with about the same reflectivity as a chalkboard or asphalt. However, it looks bright to us because it’s sitting in full sunlight; the Sun illuminates it, and it reflects that light down to us here on Earth. And because it’s a sphere, and orbiting the Earth, the way we see it lit by the Sun changes with time. That’s what causes its phases: geometry. The important thing to remember through all this is, because the Moon is a ball and in space, half of it is always illuminated by the Sun! This is true for the Earth, too, and every spherical object in space; half faces the Sun, half faces away. We call the part facing the Sun the daylight or bright side, and the half facing away the night or dark side.
The phase of the Moon refers to what shape the Moon appears to us; how much of it we see illuminated from the Earth. The key to all this is this line, dividing the lit day side from the unlit night side. We call that line the terminator. If you’re facing the moon, with the sun behind you, you’re seeing the half of the moon that is fully illuminated by sunlight and it looks full. If you’re off to the side you see half of the lit side and half of the dark side and we say the moon is half full. If the sun is on the other side of the moon, you’re look at the unlit half, and it looks dark. Now, mind you, I haven’t moved anything except our point of view here, so at all times the Moon is always half lit, and half dark. Remember that. The phase of the Moon we see depends on from what direction the sunlight’s hitting it, and the angle we see that from Earth. The Moon orbits the Earth roughly once per month. In fact, that’s where the word “month” comes from; “month” and “Moon” are cognates, words that have similar etymological histories, and in most languages, including English, the two words are very similar. The length of time we call the month is derived from the length of time it takes the Moon to go through all its phases -- 29.5 days.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดวงจันทร์นั้นเป็นลูกยักษ์ของหิน 3500 กิโลเมตรทั่วแขวนอยู่ในพื้นที่ พื้นผิวของมันเป็นจริงสีเข้มสวยกับเกี่ยวกับการสะท้อนแสงเช่นเดียวกับกระดานดำหรือยางมะตอย แต่ก็ดูสดใสให้กับเราเพราะมันนั่งอยู่ในแสงแดดเต็ม ดวงอาทิตย์สว่างมันและมันสะท้อนแสงที่ลงมาให้เราบนโลกใบนี้ และเพราะมันเป็นทรงกลมและโคจรรอบโลกในแบบที่เราเห็นมันแสงไฟจากดวงอาทิตย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดขั้นตอนของ: เรขาคณิต สิ่งสำคัญที่ต้องจำผ่านทั้งหมดนี้เป็นเพราะดวงจันทร์เป็นลูกและในพื้นที่ครึ่งหนึ่งของมันสว่างเสมอโดยดวงอาทิตย์! นี้เป็นจริงสำหรับโลกมากเกินไปและวัตถุทุกทรงกลมในพื้นที่; ใบหน้าครึ่งดวงอาทิตย์ครึ่งใบหน้าออกไป เราขอเรียกร้องส่วนหนึ่งหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ในเวลากลางวันหรือด้านสว่างและหันหน้าออกครึ่งหนึ่งคืนหรือด้านมืด.
ขั้นตอนของดวงจันทร์หมายถึงสิ่งที่รูปร่างดวงจันทร์จะปรากฏขึ้นเพื่อเรา วิธีการมากของมันที่เราเห็นสว่างจากโลก กุญแจสำคัญในการทั้งหมดนี้คือสายนี้แบ่งด้านวันไฟจากด้านมืดสนิทคืน เราเรียกสายที่เทอร์มิ หากคุณกำลังหันหน้าไปทางดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ที่อยู่เบื้องหลังคุณที่คุณได้เห็นในช่วงครึ่งของดวงจันทร์ที่ส่องสว่างอย่างเต็มที่จากแสงแดดและมันก็ดูเต็มรูปแบบ หากคุณออกไปด้านข้างที่คุณเห็นครึ่งหนึ่งของด้านสว่างและครึ่งหนึ่งของด้านมืดและเราบอกว่าดวงจันทร์จะเต็มไปครึ่งหนึ่ง หากดวงอาทิตย์อยู่ในด้านอื่น ๆ ของดวงจันทร์คุณดูที่ครึ่งมืดสนิทและดูเหมือนมืด ตอนนี้ใจคุณผมยังไม่ได้ย้ายสิ่งใดนอกจากมุมมองของเราที่นี่ดังนั้นตลอดเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เสมอสว่างครึ่งและครึ่งมืด โปรดจำไว้ว่า ขั้นตอนของดวงจันทร์ที่เราเห็นขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทิศทางของแสงแดดตีมันและมุมที่เราเห็นว่าจากโลก โคจรดวงจันทร์โลกประมาณหนึ่งครั้งต่อเดือน ในความเป็นจริงนั่นคือสิ่งที่คำว่า "เดือน" มาจาก; "เดือน" และ "ดวงจันทร์" เป็นดาล์คอี, คำที่มีประวัตินิรุกติศาสตร์ที่คล้ายกันและในเกือบทุกภาษารวมทั้งภาษาอังกฤษทั้งสองคำจะคล้ายกันมาก ระยะเวลาที่เราเรียกว่าเดือนที่ได้มาจากความยาวของเวลาที่ใช้ในดวงจันทร์จะไปผ่านทุกขั้นตอนของ - 29.5 วัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดวงจันทร์เป็นลูกบอลยักษ์หิน 3 , 500 กิโลเมตร ข้ามลอยในอวกาศ พื้นผิวของมันจริง ๆ สวยเข้ม กับเรื่องการสะท้อนแสงเหมือนกระดานดำ หรือยางมะตอย อย่างไรก็ตาม มันดูสดใส เพราะเรามันนั่งอยู่ในแสงแดดเต็ม ดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง และมันสะท้อนให้เห็นถึงแสงนั้นลงกับเราที่นี่บนโลก และเพราะมันเป็นทรงกลม และโคจรรอบโลกวิธีที่เราเห็นมันสว่างด้วยแสงแดดที่เปลี่ยนแปลงกับเวลา นั้นเป็นสิ่งที่เป็นเหตุให้ขั้นตอนทางเรขาคณิต สิ่งที่สำคัญที่ต้องจำ ผ่าน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะดวงจันทร์ที่เป็นลูก และในพื้นที่ครึ่งหนึ่งของมันเสมอส่องดวงอาทิตย์ นี้เป็นจริงสำหรับโลกด้วย และทุกคนทรงกลมวัตถุในอวกาศ ; ครึ่งหน้าดวงอาทิตย์ ครึ่งหน้าเลยเราเรียกส่วนที่เผชิญแสงแดด แสงแดด หรือ แสงสว่าง และหันหน้าไปครึ่งคืน หรือด้านมืด
เฟสของดวงจันทร์หมายถึงอะไร รูปร่างของดวงจันทร์ที่ปรากฏให้เรา ; มันเท่าไหร่ เราเห็นแสงจากโลก ที่สำคัญทั้งหมดนี้คือบรรทัดนี้ แบ่ง จ้า วันข้างจากฝั่งคืนไม่ . เราโทรไปที่สายคนเหล็ก ถ้าคุณกำลังเผชิญกับดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์อยู่ข้างหลังเธอ เธอเห็นครึ่งหนึ่งของดวงจันทร์ที่สว่างไสวด้วยแสงแดดอย่างเต็มที่ และมันดูเต็ม ถ้าคุณไปข้างเห็นครึ่งหนึ่งของไฟด้านข้างและครึ่งหนึ่งของด้านมืดและเราบอกว่าดวงจันทร์ครึ่ง ถ้าพระอาทิตย์อยู่ในด้านอื่น ๆของดวงจันทร์ เธอมองไปที่ครึ่งไม่ และมันดูมืดๆ ตอนนี้ จิตใจคุณผมยังไม่ได้ย้ายอะไรเลยนอกจากมุมมองของเราที่นี่ ดังนั้นตลอดเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เสมอไฟครึ่งและครึ่งมืด จำไว้ เฟสของดวงจันทร์ที่เราเห็น ขึ้นอยู่กับทิศทางของแสงแดดจากอะไร ตีมัน และมุมที่เราเห็นได้จากโลก ดวงจันทร์โคจรรอบโลกประมาณเดือนละ 1 ครั้ง ในความเป็นจริงแล้ว คำว่า " เดือน " มาจาก " เดือน " และ " ดวงจันทร์ " เพื่อนแท้คือ ,คำที่มีประวัตินิรุกติศาสตร์เหมือนกันและในภาษามากที่สุด ได้แก่ อังกฤษ , คําสองคํา คล้ายกันมาก ความยาวของเวลาที่เราเรียกเดือนที่ได้มาจากความยาวของเวลาที่ใช้ดวงจันทร์เพื่อไปผ่านขั้นตอนทั้งหมด --
29.5 วัน