Mangoes can be ripened either at th

Mangoes can be ripened either at the markets or onfarm
using ethylene. Using the ‘shot system’ ethylene
is injected at 200 ppm twice in 24 hours. Ventilate
the room for 10 minutes between shots to remove
the build-up of carbon dioxide. Keep the humidity
above 85% to reduce moisture loss from fruit. The
best ripening temperature is 18 to 22o
C. Temperature
control is important for full flavour and skin colour
development, so avoid temperatures above 24o
C.
Mangoes will be ripe for eating in 5 to 9 days.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มะม่วงสามารถสุกได้ทั้ง ที่ตลาดหรือ onfarmโดยใช้เอทิลีน โดยใช้เอทิลีน 'ภาพจากระบบ'ฉีดที่ 200 ppm ใน 24 ชั่วโมง ระบายอากาศห้อง 10 นาทีระหว่างภาพลบการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เก็บความชื้นสูงกว่า 85% เพื่อลดการสูญเสียความชื้นจากผลไม้ การสุกที่อุณหภูมิที่ดีที่สุดคือ 18 กับ 22oค.อุณหภูมิควบคุมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรสชาติและสีผิวพัฒนา เพื่อ หลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูงกว่า 24oคมะม่วงจะสุกสำหรับรับประทานในวันที่ 5 ถึง 9

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะม่วงสุกสามารถทั้งในตลาดหรือ OnFarm
ใช้เอทิลีน โดยใช้ระบบการยิง 'เอทิลีน
ถูกฉีดที่ 200 ppm สองครั้งใน 24 ชั่วโมง ระบายอากาศใน
ห้องเป็นเวลา 10 นาทีระหว่างภาพที่จะเอา
การสร้างขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เก็บความชื้น
ไว้ข้างต้น 85% เพื่อลดการสูญเสียความชุ่มชื้นจากผลไม้
อุณหภูมิสุกดีที่สุดคือ 18 ถึง 22o
องศาเซลเซียส อุณหภูมิ
ควบคุมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรสชาติที่เต็มรูปแบบและสีผิวที่
พัฒนาเพื่อหลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูงกว่า 24o
C.
มะม่วงจะสุกสำหรับการรับประทานอาหารใน 5-9 วัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มะม่วงจะสุกให้ที่ตลาด หรือ onfarmการใช้เอทธิลีน การใช้เอทิลีน " ระบบ " ยิงเป็นหัวฉีดที่ 200 ppm 2 ครั้ง ใน 24 ชั่วโมง ระบายอากาศห้องสำหรับ 10 นาที ระหว่าง ภาพลบการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ความชื้น85 % เพื่อลดการสูญเสียความชื้นจากผลไม้ ที่ที่ดีที่สุดสุกอุณหภูมิ 18 22oองศาเซลเซียส อุณหภูมิการควบคุมที่สำคัญเต็มรสชาติและผิวสีการพัฒนาเพื่อหลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูงกว่า 24oC .มะม่วงจะสุกสำหรับการรับประทานอาหารที่ 5 ถึง 9 วัน