From the attitude’s theory of Hogg,

From the attitude’s theory of Hogg, & Vaughan (2005) stated that the affective component, this part deal with the emotions and feeling that brought to face about something such as fear or hate. We brought this theory to change their attitude about studying English in a negative ways to be positive ways by using extra marks.
Our classroom had the rule that they would get the extra marks when they pay attention in the classroom and had a responsibility. It is similar to Wattana Singsamrit (1984) & Jintana Tanawiboonchai (1997) who mentioned that work responsibility meant it was doing work with diligence, endured the barriers and tried to improve the problems and protect the defects.
According to the Assertiveness’s theory of Shane Ridley (2005) who mentioned that we could all be assertive in certain situations, but what we needed to learn was the ability to be assertive in all areas of our lives. We brought this theory to use extra marks to make students pay more attention and given their opinions in studying
Classroom observation’s theory of Howard, A (2011) mentioned that classroom observation was the process that teachers and students to cooperate with each other, both before, during, and after the process of observation. The teacher collected data for assessment and reported the behavior of students. To achieve the objectives set, and also benefits both teachers and those evaluated.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากทฤษฎีทัศนคติของฮอที่และวอห์น (2005) ระบุว่าส่วนประกอบอารมณ์ที่ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งกับอารมณ์และความรู้สึกที่นำที่จะเผชิญกับบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับการเช่นความกลัวหรือความเกลียดชัง เราได้นำทฤษฎีนี้จะเปลี่ยนทัศนคติของพวกเขาเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษในรูปแบบเชิงลบที่จะเป็นทางบวกโดยใช้เครื่องหมายพิเศษ.
ห้องเรียนของเรามีกฎที่ว่าพวกเขาจะได้รับคะแนนพิเศษเมื่อพวกเขาให้ความสนใจในห้องเรียนและมีความรับผิดชอบ มันคล้ายกับวัฒนา Singsamrit (1984) และจินตนา Tanawiboonchai (1997) ที่กล่าวถึงความรับผิดชอบในการทำงานนั่นหมายความว่ามันก็ทำงานด้วยความรอบคอบทนอุปสรรคและพยายามที่จะปรับปรุงปัญหาและป้องกันข้อบกพร่อง.
ตามทฤษฎีอหังการของเชนริดลีย์ (2005) ที่กล่าวถึงว่าเราทุกคนสามารถจะแน่วแน่ในสถานการณ์บางอย่าง แต่สิ่งที่เราต้องการที่จะเรียนรู้เป็นความสามารถที่จะกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมในทุกพื้นที่ของชีวิตของเรา เราได้นำทฤษฎีนี้ไปใช้เครื่องหมายพิเศษเพื่อให้นักเรียนให้ความสนใจมากขึ้นและให้ความเห็นของพวกเขาในการศึกษาทฤษฎีการสังเกตในชั้นเรียนของฮาวเวิร์ด, A (2011) กล่าวถึงการสังเกตการสอนที่เป็นกระบวนการที่ครูและนักเรียนให้ความร่วมมือกับแต่ละอื่น ๆ ทั้งก่อน ระหว่างและหลังกระบวนการของการสังเกต
ครูที่เก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการประเมินผลและการรายงานพฤติกรรมของนักเรียน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้และยังได้รับประโยชน์ทั้งครูผู้สอนและผู้ที่ได้รับการประเมิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากทฤษฎีของทัศนคติของ ฮอกก์& , วอห์น ( 2548 ) กล่าวว่า องค์ประกอบด้านนี้ ส่วนการจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกที่นำหน้า อะไร เช่น กลัว หรือ เกลียด เรานำทฤษฎีนี้ไปเปลี่ยนทัศนคติในการเรียนภาษาอังกฤษในรูปแบบเชิงลบเป็นบวก วิธี โดยการใช้เครื่องหมายพิเศษ
ห้องเรียนของเรามีกฎที่พวกเขาจะได้รับคะแนนพิเศษเมื่อพวกเขาสนใจในชั้นเรียนและมีความรับผิดชอบ มันคล้ายกับวัฒนา singsamrit ( 1984 ) &จินตนา tanawiboonchai ( 1997 ) ที่กล่าวว่า งานในความรับผิดชอบ หมายถึง มันทำงานด้วยความขยัน อดทนต่ออุปสรรค และพยายามที่จะปรับปรุงปัญหาและป้องกันข้อบกพร่อง
ตามทฤษฎีของการกล้าแสดงออกของเชน ริดลีย์ ( 2005 ) ที่กล่าวว่า เราได้ทั้งหมดจะเหมาะสมในบางสถานการณ์ แต่สิ่งที่เราต้องเรียนรู้คือความสามารถที่จะแสดงออกในทุกพื้นที่ของชีวิตของเรา เรานำทฤษฎีนี้ไปใช้เครื่องหมายพิเศษเพื่อให้นักเรียนสนใจและให้ความคิดเห็นของพวกเขาในการศึกษา
ทฤษฎีการสังเกตชั้นเรียนของฮาวเวิร์ด( 2011 ) กล่าวว่า การสังเกตชั้นเรียน เป็นขั้นตอนที่ครูและนักเรียนให้ความร่วมมือกับแต่ละอื่น ๆ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังกระบวนการของการสังเกต ครูรวบรวมข้อมูล การประเมินและรายงานพฤติกรรมนักเรียน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้และยังประโยชน์ทั้งครูและผู้ประเมิน