The data on the spread of Guatemala

The data on the spread of Guatemalan corn is not clear, but Behrman
concludes that "the only available estimates on the national level
suggest that Guatemalan flint yields 300 to 350 kg per rai [ I rai is
equivalent to 0.4 acres ] as compared with 200 to 250 kg per rai from
pakchong dent and that by the early 1960s, as much as 60 to 85% of
total corn production was Guatemalan."
The year 1958 saw the start of a corn boom . From the 1 percent
level of 1957, Thai corn export jumped to 2.8 percent of export
earnings in 1958 and 8.6 percent by 1963, while the volume rose
nearly twelve-fold .A large fraction of these export wass Guatemalan
corn. Besides the development of an acceptable variety, two other
factors contributed to Thailand is ability to respond to the growth in
japanese maize demand during these years; improvement in road
transport and the reduction in malaria, which opened up previously
uncultivated areas that were now put into corn production."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อมูลในการแพร่กระจายของข้าวโพด Guatemalan ไม่ชัดเจน แต่ Behrmanสรุปที่ "มีเฉพาะการประเมินในระดับชาติแนะนำว่า หินเหล็กไฟ Guatemalan 300 ถึง 350 กิโลกรัมต่อไร่ผลผลิต [ผมอยู่เชียงรายเท่ากับ 0.4 เอเคอร์] เทียบกับ 200-250 กิโลกรัมต่อไร่จาก ปากช่องที่ โดยอเรอส์ และบุ๋มเท่า 60 ถึง 85% ของการผลิตข้าวโพดรวมเป็น Guatemalan" ปี 1958 เห็นเริ่มบูมในข้าวโพด จากร้อยละ 1ระดับของ 1957 ไทยข้าวโพดส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 ของส่งออกกำไรในปี 1958 และร้อยละ 8.6 โดย 1963 ในขณะที่ปริมาณเพิ่มขึ้นเกือบ twelve-fold ส่วนใหญ่เหล่านี้ส่งออก wass Guatemalanข้าวโพด นอกจากการพัฒนาของการยอมรับความหลากหลาย สองอื่น ๆปัจจัยให้ประเทศไทยมีความสามารถในการตอบสนองต่อการเติบโตญี่ปุ่นต้องการข้าวโพดในปีนี้ ปรับปรุงถนนขนส่งและการลดโรคมาลาเรีย ซึ่งเปิดไว้ก่อนหน้านี้uncultivated ที่ตอนนี้ถูกวางลงในการผลิตข้าวโพด "พื้นที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของข้าวโพดกัวเตมาลาไม่ชัดเจน แต่เบอร์แมน
สรุปว่า "ประมาณการใช้ได้เฉพาะในระดับชาติ
แนะนำว่ากัวเตมาลาหินเหล็กไฟผลตอบแทนถัวเฉลี่ย 300-350 กิโลกรัมต่อไร่ [I ไร่
คิดเป็น 0.4 เอเคอร์] เมื่อเทียบกับ 200 250 กิโลกรัมต่อไร่จาก
บุ๋มปากช่องและจากต้นปี 1960 มากที่สุดเท่าที่ 60-85% ของ
การผลิตข้าวโพดรวมกัวเตมาลา. "
ในปี 1958 เห็นจุดเริ่มต้นของบูมข้าวโพดที่ จากร้อยละ 1
ระดับของปี 1957 การส่งออกข้าวโพดของไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.8 ของการส่งออก
ผลประกอบการในปี 1958 และร้อยละ 8.6 จากปี 1963 ขณะที่ปริมาณเพิ่มขึ้น
เกือบสิบเท่าลวด Cored Metallurgical ส่วนใหญ่ของเหล่านี้ส่งออก Wass กัวเตมาลา
ข้าวโพด นอกจากนี้การพัฒนาของความหลากหลายที่ได้รับการยอมรับอีกสอง
ปัจจัยที่มีส่วนทำให้ประเทศไทยมีความสามารถในการตอบสนองต่อการเจริญเติบโตใน
ความต้องการข้าวโพดญี่ปุ่นในช่วงปีที่ผ่านมาเหล่านี้ การปรับปรุงในถนน
การขนส่งและการลดลงของโรคมาลาเรียซึ่งเปิดขึ้นมาก่อนหน้านี้
พื้นที่รกร้างที่ตอนนี้ถูกนำไปผลิตข้าวโพด. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของข้าวโพดกัวเตมาลา ไม่ชัดเจน แต่แบร์เมินสรุปได้ว่า " ใช้ได้เฉพาะการประเมินระดับชาติแนะนำว่าผลผลิตกัวเตมาลาหินเหล็กไฟ 300 ถึง 350 กิโลกรัมต่อไร่ [ ผมเชียงรายเท่ากับ 0.4 เอเคอร์ ] เมื่อเทียบกับ 200 ถึง 250 กิโลกรัมต่อไร่ จากปากช่อง เดนท์ และโดยช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 มากที่สุดเท่าที่ 60 ถึง 85% ของการผลิตข้าวโพดทั้งหมดกัวเตมาลา "ปี 1958 เห็นจุดเริ่มต้นของข้าวโพด บูม จาก 1 เปอร์เซ็นต์ส่งออกข้าวไทยระดับ 1957 เพิ่มขึ้น 2.8 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกกำไรในปี 1958 และร้อยละ 8.6 โดย 1963 ในขณะที่ปริมาณดอกกุหลาบเกือบ 20 เท่า ส่วนขนาดใหญ่ของเหล่านี้ส่งออกวาสกัวเตมาลาข้าวโพด นอกเหนือจากการพัฒนาความหลากหลายยอมรับ สองอื่น ๆปัจจัยที่สนับสนุนให้ประเทศไทยมีความสามารถในการตอบสนองการเติบโตในความต้องการข้าวโพดของญี่ปุ่นในระหว่างปีเหล่านี้ การปรับปรุงถนนการขนส่งและการลดลงในโรคมาลาเรีย ซึ่งเปิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่ขาดการบำรุงพื้นที่ที่ตอนนี้ใส่ลงในการผลิตข้าวโพด”