1. หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้ คือ ถ้าเราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือให้ได้เท่ การแปล - 1. หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้ คือ ถ้าเราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือให้ได้เท่ ไทย วิธีการพูด

1. หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้ คือ ถ้

1. หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้ คือ ถ้าเราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือให้ได้เท่านี้สำหรับวันนี้ เราก็ต้องทำให้ได้ วิธีฝึกเริ่มแรกให้กำหนดง่ายๆ ก่อนว่า วันนี้เราจะอ่านตำราแค่ 1 บท หรือ 10 หน้า เป็นต้น เอาแค่นี้ให้ได้ ถ้าอ่านจบเร็วก็ไปทำอย่างอื่น พอวันต่อๆ ไปก็ค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นตามสมควร แล้วก็ต้องอ่านให้ได้ตามเป้าหมาย เมื่อเราอ่านได้ตามเป้าแล้วในแต่ละครั้งก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเองด้วยทุก ครั้ง โดยรางวัลก็อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ เช่น ได้ดูละครหนึ่งเรื่องตอนกลางคืน เป็นต้น

2. วางแผนการอ่านหนังสือ เมื่อเรามีวินัยและเคารพการวางแผนของตัวเองแล้ว ต่อไปก็ต้อง วางแผนการอ่านหนังสือ การวางแผนที่ดีนั้นสำคัญมาก เพราะทำให้เราเดินไปถูกทิศทาง การวางแผนไม่ถือเป็นการเสียเวลา แต่เป็นการประหยัดเวลาในระยะยาว เพราะไม่ต้องไปเสียเวลาเดินผิดทาง

3. อย่าตะบี้ตะบันอ่านเกินควร อย่าคิดว่าตัวเองเป็น superman คือ สามารถอ่านหนังสือได้เยอะเกินกำลังภายในเวลาอันสั้น อย่าวางตารางการอ่านให้แน่นเกินไป เพราะนอกจากจะทำไม่ได้ตามแผนอยู่แล้ว ยังทำให้ตัวเองเครียดเพราะแผนนั้นโดยไม่จำเป็นด้วย แรกๆ อาจจะกะความสามารถตัวเองยากหน่อย หรือการอ่านตำราภาษาอังกฤษกับภาษาไทยก็ใช้ระยะเวลาการอ่านไม่เท่ากัน ก็ใช้เก็บสถิติจากการอ่านในรอบแรกๆ เช่น การอ่านภาษาอังกฤษ 1 หน้า เราใช้เวลา 10 นาที เราก็จะประมาณถูกว่าต้องใช้เวลาเท่าไรจึงจะอ่านจบบทหรือจบวิชา เป็นต้น

4. หาที่อ่านที่สงบเงียบและนั่งสบาย ส่วนบรรยากาศก็แล้วแต่คนชอบ บางคนชอบอ่านที่บ้าน ในห้องสมุด ในสวนมีต้นไม้เขียวๆ หรือในร้านกาแฟ หรือบางทีเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ควรไม่อยู่ใกล้ทีวี หรือสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราเสียสมาธิ เพราะทำให้เราเสียเวลาในการอ่าน และทำให้จำได้ไม่ดีด้วย แต่ก็ทราบมาว่าบางคนจะชอบให้มีเสียงเพลงหรือเสียงอื่นๆ เวลาอ่านหนังสือด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ

5. อย่าให้สิ่งใดมารบกวนการอ่าน เวลาอ่านหนังสือ เราควรกำหนดว่า เวลานี้เราจะตั้งใจ และไม่ปล่อยให้อะไรมาขัดโดยไม่จำเป็น เช่น อาจจะปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น คนอื่นก็จะไม่มารบกวนโดยไม่จำเป็น การได้ทำงานหรืออ่านหนังสือเป็นช่วงเวลาติดต่อกันอย่างนี้มีประสิทธิภาพกว่า การอ่านที่ถูกหยุดด้วยสิ่งต่างๆ

6. พักผ่อนสมองบ้าง เมื่ออ่านหนังสือไปนานๆ เราก็จะเริ่มล้า ทั้งสมองที่ต้องคิด ทั้งร่างกายที่ไม่ได้ขยับ ทั้งสายตาที่ต้องจ้องอยู่นาน เราก็ควรกำหนดเวลาพัก อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ อาจจะพักอ่านหนังสือทุกๆ ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง โดยออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ ทานขนม หรือไปมองต้นไม้เขียวๆ เวลาพักก็ต้องกำหนดด้วยว่า 5 นาที หรือ 15 นาที เป็นต้น

7. ชอบขีดเส้นหรือเน้นข้อความที่สำคัญในหนังสือโดยไม่หวงหนังสือ ว่าจะดูเลอะเทอะเลย เพราะชอบเวลากลับมาอ่านทวน เราก็จะรู้ว่าจุดไหนเป็นข้อมูลสำคัญ เรายังสามารถใช้ทบทวนก่อนสอบได้ด้วย สำหรับคนที่ชอบหนังสือใหม่ๆ เกลี้ยงๆ ก็อาจจะต้องหาสมุดกับปากกามาจดสิ่งที่สำคัญจากหนังสือนั้นๆ เพื่อการอ่านทบทวนได้

8. พยายามจัดเวลาอ่านหนังสือในช่วงเวลาที่เราตื่นตัวที่สุด อันนี้แตกต่างกันไป บางคนจะจำได้ดีถ้าอ่านตอนเช้า บางคนเป็นตอนเย็น ก็ต้องสังเกตตัวเองดู ถ้าทราบแล้วอาจจะกำหนดเป็นเวลาประจำทุกวัน เช่น ทุกวันเวลา 2 ทุ่ม – 5 ทุ่ม เราต้องอ่านตำราทบทวนที่เรียนมา เป็นต้น
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
1. หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้คือถ้าเราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือให้ได้เท่านี้สำหรับวันนี้เราก็ต้องทำให้ได้วิธีฝึกเริ่มแรกให้กำหนดง่าย ๆ ก่อนว่าวันนี้เราจะอ่านตำราแค่ 1 บทหรือ 10 หน้าเป็นต้นเอาแค่นี้ให้ได้ถ้าอ่านจบเร็วก็ไปทำอย่างอื่นพอวันต่อ ๆ ไปก็ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นตามสมควรแล้วก็ต้องอ่านให้ได้ตามเป้าหมายเมื่อเราอ่านได้ตามเป้าแล้วในแต่ละครั้งก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเองด้วยทุกครั้งโดยรางวัลก็อาจจะเป็นอะไรง่าย ๆ เช่นได้ดูละครหนึ่งเรื่องตอนกลางคืนเป็นต้น 2. วางแผนการอ่านหนังสือเมื่อเรามีวินัยและเคารพการวางแผนของตัวเองแล้วต่อไปก็ต้องวางแผนการอ่านหนังสือการวางแผนที่ดีนั้นสำคัญมากเพราะทำให้เราเดินไปถูกทิศทางการวางแผนไม่ถือเป็นการเสียเวลาแต่เป็นการประหยัดเวลาในระยะยาวเพราะไม่ต้องไปเสียเวลาเดินผิดทาง 3. อย่าตะบี้ตะบันอ่านเกินควรอย่าคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์แมนคือสามารถอ่านหนังสือได้เยอะเกินกำลังภายในเวลาอันสั้นอย่าวางตารางการอ่านให้แน่นเกินไปเพราะนอกจากจะทำไม่ได้ตามแผนอยู่แล้วยังทำให้ตัวเองเครียดเพราะแผนนั้นโดยไม่จำเป็นด้วยแรก ๆ อาจจะกะความสามารถตัวเองยากหน่อยหรือการอ่านตำราภาษาอังกฤษกับภาษาไทยก็ใช้ระยะเวลาการอ่านไม่เท่ากันก็ใช้เก็บสถิติจากการอ่านในรอบแรก ๆ เช่นการอ่านภาษาอังกฤษ 1 หน้าเราใช้เวลา 10 นาทีเราก็จะประมาณถูกว่าต้องใช้เวลาเท่าไรจึงจะอ่านจบบทหรือจบวิชาเป็นต้น 4. หาที่อ่านที่สงบเงียบและนั่งสบายส่วนบรรยากาศก็แล้วแต่คนชอบบางคนชอบอ่านที่บ้านในห้องสมุดในสวนมีต้นไม้เขียว ๆ หรือในร้านกาแฟหรือบางทีเราก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่ควรไม่อยู่ใกล้ทีวีหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้เราเสียสมาธิเพราะทำให้เราเสียเวลาในการอ่านและทำให้จำได้ไม่ดีด้วยแต่ก็ทราบมาว่าบางคนจะชอบให้มีเสียงเพลงหรือเสียงอื่น ๆ เวลาอ่านหนังสือด้วยอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ5. อย่าให้สิ่งใดมารบกวนการอ่านเวลาอ่านหนังสือเราควรกำหนดว่าเวลานี้เราจะตั้งใจและไม่ปล่อยให้อะไรมาขัดโดยไม่จำเป็นเช่นอาจจะปิดเสียงโทรศัพท์มือถือเป็นต้นคนอื่นก็จะไม่มารบกวนโดยไม่จำเป็นการได้ทำงานหรืออ่านหนังสือเป็นช่วงเวลาติดต่อกันอย่างนี้มีประสิทธิภาพกว่าการอ่านที่ถูกหยุดด้วยสิ่งต่าง ๆ 6. พักผ่อนสมองบ้าง เมื่ออ่านหนังสือไปนานๆ เราก็จะเริ่มล้า ทั้งสมองที่ต้องคิด ทั้งร่างกายที่ไม่ได้ขยับ ทั้งสายตาที่ต้องจ้องอยู่นาน เราก็ควรกำหนดเวลาพัก อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ อาจจะพักอ่านหนังสือทุกๆ ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง โดยออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ ทานขนม หรือไปมองต้นไม้เขียวๆ เวลาพักก็ต้องกำหนดด้วยว่า 5 นาที หรือ 15 นาที เป็นต้น 7. ชอบขีดเส้นหรือเน้นข้อความที่สำคัญในหนังสือโดยไม่หวงหนังสือว่าจะดูเลอะเทอะเลยเพราะชอบเวลากลับมาอ่านทวนเราก็จะรู้ว่าจุดไหนเป็นข้อมูลสำคัญเรายังสามารถใช้ทบทวนก่อนสอบได้ด้วยสำหรับคนที่ชอบหนังสือใหม่ ๆ เกลี้ยง ๆ ก็อาจจะต้องหาสมุดกับปากกามาจดสิ่งที่สำคัญจากหนังสือนั้น ๆ เพื่อการอ่านทบทวนได้ 8. พยายามจัดเวลาอ่านหนังสือในช่วงเวลาที่เราตื่นตัวที่สุดอันนี้แตกต่างกันไปบางคนจะจำได้ดีถ้าอ่านตอนเช้าบางคนเป็นตอนเย็นก็ต้องสังเกตตัวเองดูถ้าทราบแล้วอาจจะกำหนดเป็นเวลาประจำทุกวันเช่นทุกวันเวลา 2 ทุ่ม-5 ทุ่มเราต้องอ่านตำราทบทวนที่เรียนมาเป็นต้น
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
1. หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้คือ เราก็ต้องทำให้ได้วิธีฝึกเริ่มแรกให้กำหนดง่ายๆก่อนว่าวันนี้เราจะอ่านตำราแค่ 1 บทหรือ 10 หน้าเป็นต้นเอาแค่นี้ให้ได้ถ้าอ่านจบเร็วก็ไปทำอย่างอื่นพอวันต่อ ๆ ไปก็ค่อยๆเพิ่มปริมาณ ขึ้นตามสมควรแล้วก็ต้องอ่านให้ได้ตามเป้าหมาย ครั้งโดยรางวัลก็อาจจะเป็นอะไรง่ายๆเช่นได้ดูละครหนึ่งเรื่องตอนกลางคืนเป็นต้น2 วางแผนการอ่านหนังสือ ต่อไปก็ต้องวางแผนการอ่านหนังสือการวางแผนที่ดีนั้นสำคัญมากเพราะทำให้เราเดินไปถูกทิศทางการวางแผนไม่ถือเป็นการเสียเวลา แต่เป็นการประหยัดเวลาในระยะยาวเพราะไม่ต้องไปเสียเวลาเดินผิดทาง 3 อย่าตะบี้ตะบันอ่านเกินควรอย่าคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์แมนคือ อย่าวางตารางการอ่านให้แน่นเกินไป แรก ๆ อาจจะกะความสามารถตัวเองยากหน่อย ก็ใช้เก็บสถิติจากการอ่านในรอบแรก ๆ เช่นการอ่านภาษาอังกฤษ 1 หน้าเราใช้เวลา 10 นาที เป็นต้น4 หาที่อ่านที่สงบเงียบและนั่งสบายส่วนบรรยากาศก็แล้วแต่คนชอบบางคนชอบอ่านที่บ้านในห้องสมุดในสวนมีต้นไม้เขียว ๆ หรือในร้านกาแฟหรือบางทีเราก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่ควรไม่อยู่ใกล้ทีวีหรือสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราเสียสมาธิเพราะทำให้เราเสียเวลาในการอ่านและทำให้จำได้ไม่ดีด้วย เวลาอ่านหนังสือด้วยอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ5 อย่าให้สิ่งใดมารบกวนการอ่านเวลาอ่านหนังสือเราควรกำหนดว่าเวลานี้เราจะตั้งใจ เช่นอาจจะปิดเสียงโทรศัพท์มือถือเป็นต้นคนอื่นก็จะไม่มารบกวนโดยไม่จำเป็น การอ่านที่ถูกหยุดด้วยสิ่งต่างๆ6 พักผ่อนสมองบ้างเมื่ออ่านหนังสือไปนาน ๆ เราก็จะเริ่มล้าทั้งสมองที่ต้องคิดทั้งร่างกายที่ไม่ได้ขยับทั้งสายตาที่ต้องจ้องอยู่นานเราก็ควรกำหนดเวลาพักอันนี้ก็แล้วแต่คนชอบอาจจะพักอ่านหนังสือทุกๆ ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงโดยออกไปเดินยืดเส้นยืดสายดื่มน้ำทานขนมหรือไปมองต้นไม้เขียว ๆ เวลาพักก็ต้องกำหนดด้วยว่า 5 นาทีหรือ 15 นาทีเป็นต้น7 ว่าจะดูเลอะเทอะเลยเพราะชอบเวลากลับมาอ่านทวน สำหรับคนที่ชอบหนังสือใหม่ ๆ เกลี้ยง ๆ เพื่อการอ่านทบทวนได้8 อันนี้แตกต่างกันไปบางคนจะจำได้ดีถ้าอ่านตอนเช้าบางคนเป็นตอนเย็นก็ต้องสังเกตตัวเองดู เช่นทุกวันเวลา 2 ทุ่ม - 5 ทุ่มเราต้องอ่านตำราทบทวนที่เรียนมาเป็นต้น













การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
1 .หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้ความถ้าเราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือให้ได้เท่านี้สำหรับวันนี้เราก็ต้องทำให้ได้วิธีฝึกเริ่มแรกให้กำหนดง่ายๆก่อนว่าวันนี้เราจะอ่านตำราแค่ 1 บทค็อค 10 หน้าเป็นต้นเอาแค่นี้ให้ได้พอวันต่อๆไปก็ค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นตามสมควรแล้วก็ต้องอ่านให้ได้ตามเป้าหมายเมื่อเราอ่านได้ตามเป้าแล้วในแต่ละครั้งก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเองด้วยทุกครั้งโดยรางวัลก็อาจจะเป็นอะไรง่ายๆเช่นเป็นต้น

2 .วางแผนการอ่านหนังสือเมื่อเรามีวินัยและเคารพการวางแผนของตัวเองแล้วต่อไปก็ต้องวางแผนการอ่านหนังสือการวางแผนที่ดีนั้นสำคัญมากเพราะทำให้เราเดินไปถูกทิศทางการวางแผนไม่ถือเป็นการเสียเวลาเพราะไม่ต้องไปเสียเวลาเดินผิดทาง

3อย่าตะบี้ตะบันอ่านเกินควรอย่าคิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์แมนความสามารถอ่านหนังสือได้เยอะเกินกำลังภายในเวลาอันสั้นอย่าวางตารางการอ่านให้แน่นเกินไปเพราะนอกจากจะทำไม่ได้ตามแผนอยู่แล้วแรกๆอาจจะกะความสามารถตัวเองยากหน่อยหรือการอ่านตำราภาษาอังกฤษกับภาษาไทยก็ใช้ระยะเวลาการอ่านไม่เท่ากันก็ใช้เก็บสถิติจากการอ่านในรอบแรกๆเช่นการอ่านภาษาอังกฤษ 1 หน้าเราใช้เวลา 10 นาทีเป็นต้น
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: