Materials and Methods Study siteThe

Materials and Methods Study site

The study site was on a limestone hill in the Rong Kwang District (northern sector of Phrae Province, northern Thailand) ca. 550 km from Bangkok (17o70'-18o84'N, 99o58'-100o32'E) (Fig. 1). The site spanned elevations of 320-460 m above mean sea level. The mean annual temper- ature and rainfall were 35.87oC and 1400 mm, respectively. The area has two main seasons: (i) a wet season (May-

Lamthai Asanok and Dokrak Marod

October; the mean rainfall and temperature were 1460 mm and 35.42oC) and (ii) a dry season (November-April; the mean rainfall and temperature were 406 mm and 35.42oC). The dry season is subdivided into cool-dry (November- January) and hot-dry sub-seasons (February-April) (Phrae Information Department 2013; Thai Meteorological De- partment 2015). Limestone hills occupy 318 km2 or 4.8% of the total landscape area in Phrae Province (Geology Bureau 2012).

Sampling plot selection and species composition

The field study period extended from October 2014 un- til December 2015. Four forest stands on a limestone hill were selected: a mixed deciduous forest stand (MDS), a hill-slope stand (HSS), a sink-hole stand (SHS), and a hill-cliff stand (HCS). The stands were differentiated by the topography and geomorphology of the limestone hill (Table 1).

We established a 10×10-m permanent plot in each forest stand. At each corner of each plot, we established a 4×4-m sub-quadrat, thereby generating a total of 64 sub-quadrats (Table 1). We counted adult trees (diameter at breast height [DBH] ≥4.5 cm) in each 10×10-m quadrat, and sap- lings (DBH 1.30 m) and seedlings (height

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัสดุและวิธีการศึกษาเว็บไซต์สถานศึกษาได้บนเขาหินปูนในอำเภอร้องกวาง (ภาคเหนือของจังหวัดแพร่ ภาคเหนือ) ca ห่างจากกรุงเทพฯ 550 กม. (17o70'-18o84 ' n, 99o58'-100o32'E) (รูปที่ 1) ระดับขยายไซต์ 320-460 เมตรข้างบนหมายถึง ระดับน้ำทะเล อารมณ์ ature รายปีเฉลี่ยและปริมาณน้ำฝนได้ 1400 มม. และ 35.87oC ตามลำดับ พื้นที่มีสองฤดูกาลหลัก: ฤดูกาล (i) ความชื้น (พฤษภาคม-Lamthai Asanok และ Marod ๑๐๖ตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยและอุณหภูมิถูก 1460 มม.และ 35.42oC) และ (ii) แห้งฤดูกาล (พฤศจิกายนเมษายน หมายถึงปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิได้ 406 มมและ 35.42oC) ฤดูแล้งจะถูกแบ่งออกเป็นเย็นแห้ง (พฤศจิกายนมกราคม) และฤดูร้อนแห้งย่อย (กุมภาพันธ์เมษายน) (แพร่ข้อมูลแผนก 2013 ไทยเดอุตุนิยม - partment 2015) ภูเขาหินปูนครอบครอง 318 กม. 2 หรือ 4.8% ของพื้นที่ภูมิทัศน์รวมในจังหวัดแพร่ (2012 สำนักงานธรณีวิทยา)เลือกแผนการสุ่มตัวอย่างและชนิดองค์ประกอบฟิลด์การศึกษาระยะเวลาที่ขยายจาก 2557 ตุลาคม un-til 2558 เลือกสี่ป่ายืนบนเนินเขาหินปูน: ป่าผลัดใบเด่น (MDS), ภูเขาลาดเด่น (HSS), อ่างล้างจานหลุมเด่น (SHS), และเป็นหน้าผาเขาเด่น (HCS) การยืนแตกต่างจากลักษณะภูมิประเทศและธรณีสัณฐานวิทยาของเขาหินปูน (ตาราง 1)เราสามารถสร้างพล็อตถาวร 10 × 10 เมตรในแต่ละขาป่า ในแต่ละมุมของพล็อตแต่ละ เราสร้าง quadrat ย่อย 4 × 4 เมตร จึงสร้างจำนวน 64 quadrats ย่อย (ตารางที่ 1) เรานับต้นไม้ผู้ใหญ่ (เส้นผ่าศูนย์กลางที่เต้านม [DBH] ≥4.5 ความยาว) ใน quadrat 10 × 10 เมตร sap lings (DBH < 4.5 ซม. ความสูง > 1.30 เมตร) และต้นกล้า (สูง < 1.30 เมตร) ใน quadrat ย่อย 4 × 4 เมตรแต่ละ และทั้งหมดต้นไม้ กล้าไม้ ต้นกล้าถูกแท็ก และระบุกับสายพันธุ์ เราสามารถระบุชนิด โดยรวบรวมใบทดสอบ และเปรียบเทียบกับตัวอย่างมาตรฐานใน rium herba ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพืชอนุรักษ์ การตั้งชื่อตามพืชไทย (ป่าหอม 2014) เราวัดค่า DBH (1.30 เมตรเหนือระดับพื้นดิน) ของต้นไม้ทั้งหมด (แต่ไม่ใช่ต้นไม้และต้นกล้า) แต่ละสายพันธุ์การวัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพตัวแปรสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ห้าถูกวัด: photosynthetically active (PAR), ความชื้นดิน (SMC), ดินความหนาแน่น (SDb), ความลึกของดิน (สด), และรังสีปกเปอร์เซ็นต์ของจุดหิน (RC) ความชื้นแสงและดินร่วมควบคุมการงอกของเมล็ด เมล็ดพันธุ์ลิงก่อตั้ง และความอยู่รอดของต้นกล้าในป่าเขตร้อน (โรงแรมคูรานาและสิงห์ 2001) ดินความชื้นที่มีใน fluenced โดยตรง โดยปริมาณน้ำฝน ซึ่งเป็นฤดูกาลสูงในระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่แห้ง (แมคลาเรนและแมคโดนัลด์ 2003) นี้เด่นชัดฤดูกาลมีผลต่อรูปแบบของความอยู่รอดการผลิต งอก ต้นกล้า และเมล็ดพันธุ์และ devel opment (โรงแรมคูรานาและสิงห์ 2001) แสงมักจะเป็น pri-แมรี่จำกัดปัจจัยสำหรับฟื้นฟูต้นกล้าในป่าที่ลุ่มเขตร้อน (Gustafsson et al. 2016) สภาพแสงที่ดีขึ้นหลังขนาดใหญ่หลังคาไฟฟ้าสามารถ pro-มลทินการเติบโตของต้นกล้าบางสายพันธุ์เขตร้อน (Dupuy และ Chazdon 2008)ความหนาแน่นในดินและปริมาณน้ำในดินจะเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดเพื่อต้านทานการเจาะฐาน ซึ่งเพิ่มขึ้นกับความหนาแน่นเพิ่มขึ้นและปริมาณน้ำลดลง (อเมริกัน et al. 2012) เนื้อหาอินทรีย์สูงยังเกี่ยวข้องกับความหนาแน่นในดินต่ำ และมีผลต่อต้นไม้ราก ac-ซัพพลาย (Quero et al. 2011) ความลึกของดินยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับดินต้นไม้และความชื้นระบบราก (de กราฟฟ์เรน et al. 2014 Gevaert et al. 2015) ก้อนหินในภูมิทัศน์ karst ผลิต microenvironments รุนแรงมากทุกหินหินปูนขนาดใหญ่ซึ่งมีจำนวนมาก และครอบคลุมมากของพื้นผิว (Felfili et al. 2007) มีจำนวนชนิดพืชที่ปลูกในชุมชนอาณานิคมเหล่านี้ ronments สิ่งแวดล้อมจำกัด (Tang et al. 2010)เราวัดแสงและดินชื้นแปร ในพล็อตแต่ละ 10 × 10 เมตร และภาย ใน quadrats ย่อย 64 วัด SMC เราเก็บตัวอย่างดิน 100 cm3 จากชั้นดินชั้น (0-15 ซม.) ใน 2558 ใช้แซมเพลอร์หลักดินแทรกใน quadrat ย่อย 4 × 4 เมตรแต่ละ ทั้งหมดสาม-ples ถูกจัดเก็บในวันเดียว 10 วันหลัง จากฝนครั้งสุดท้าย และการโจมตีของฤดูแล้ง เมื่อฝนได้ไม่บ่อยนัก ดินค่อนข้างชื้นมาก เพิ่มเติม varia อัลตราโซนิคส์ในสภาพดินถูกตั้งข้อสังเกตในการ quadrats ในช่วงฤดูนี้กว่าระหว่างกลางเปียก และแห้งกลางฤดูกาล SDb (cm-3 กรัม) ประมาณดินอย่างเป็นสัดส่วนของมวลดินที่อบแห้งในปริมาณรวม (Brahim et al. 2012) SMC (%) พิจารณาจากอัตราส่วนของน้ำหนักสดแห้งน้ำหนัก (Anctil et al. 2008) เราวัดสด (cm) จากผิวดินเพื่อข้อเท็จจริงในแซมเพลอร์ดินหลุมตั้งอยู่ที่ศูนย์ของแต่ละ quadrat ย่อย 4 × 4 เมตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัสดุและวิธีการศึกษาเว็บไซต์

เว็บไซต์การศึกษาอยู่บนเนินเขาหินปูนในอำเภอร้องกวาง (ภาคเหนือของจังหวัดแพร่, ภาคเหนือของประเทศไทย) รัฐแคลิฟอร์เนีย 550 กิโลเมตรจากกรุงเทพมหานคร (17o70'-18o84'N, 99o58'-100o32'E) (รูปที่ 1). เว็บไซต์ทอดของเอนไซม์ไล 320-460 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลหมายถึง ค่าเฉลี่ย ature temper- ประจำปีและปริมาณน้ำฝนเป็น 35.87oC และ 1,400 มิลลิเมตรตามลำดับ พื้นที่ที่มีสองฤดูกาลหลัก: (i) ฤดูฝน ( พ.ค.

Lamthai Asanok และดอกรักมารอด

ตุลาคมปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยและอุณหภูมิอยู่ที่ 1,460 มิลลิเมตรและ 35.42oC) และ (ii) ฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนหมายถึงปริมาณน้ำฝน และอุณหภูมิได้ 406 มิลลิเมตรและ 35.42oC) ฤดูแล้งแบ่งเป็นเย็นแห้ง (พฤศจิกายนมกราคม) และร้อนแห้งย่อยฤดูกาล (เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน) (แพร่กรมสารนิเทศ 2013; ไทยอุตุนิยมวิทยา De- partment 2015) ภูเขาหินปูนครอบครอง 318 กิโลเมตร 2 หรือ 4.8% ของพื้นที่ภูมิทัศน์โดยรวมในจังหวัดแพร่ (ธรณีวิทยาสำนัก 2012).

เลือกสุ่มตัวอย่างพล็อตและองค์ประกอบชนิด

ระยะเวลาการศึกษาข้อมูลยื่นออกมาจากตุลาคม 2014 ยกเลิก til ธันวาคม 2015 สี่ป่ายืนอยู่บนเนินเขาหินปูนอยู่ เลือก: ยืนป่าผสมผลัดใบ (MDS) ยืนเนินเขาลาด (ไฮสปีด) ขาตั้งอ่างล้างจานหลุม (SHS) และเนินเขาหน้าผายืน (HCS) ยืนถูกแตกต่างจากภูมิประเทศและธรณีสัณฐานของเนินเขาหินปูน (ตารางที่ 1).

เราสร้างพล็อต 10 × 10 เมตรยืนถาวรในป่าแต่ละ ที่มุมของแต่ละแปลงแต่ละเราจัดตั้ง 4 × 4 เมตรย่อย quadrat จึงสร้างทั้งหมด 64 ย่อยกรอบ (ตารางที่ 1) เรานับต้นไม้ผู้ใหญ่ (เส้นผ่าศูนย์กลางที่เต้านมสูง [DBH] ≥4.5เซนติเมตร) ละ 10 × 10 เมตร quadrat และ Lings sap- (DBH <4.5 ซมสูง> 1.30 เมตร) และต้นกล้า (ความสูง <1.30 เมตร) ในแต่ละ 4 × 4 เมตรย่อย quadrat ทั้งหมดของต้นไม้ต้นกล้าและต้นกล้าถูกแท็กและมีการระบุสายพันธุ์ เราระบุสายพันธุ์โดยการเก็บตัวอย่างใบและเปรียบเทียบกับตัวอย่างมาตรฐานในเรียม herba- ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบบการตั้งชื่อตามฟลอร่าแห่งประเทศไทย (หอพรรณไม้ 2014) เราวัดค่า DBH นี้ (1.30 เมตรเหนือระดับพื้นดิน) ของต้นไม้ทั้งหมด ( แต่ไม่ใช่ที่ของต้นกล้าและต้นกล้า) ของแต่ละสายพันธุ์.



วัดทางกายภาพสภาพแวดล้อมที่

ห้าตัวแปรสิ่งแวดล้อมทางกายภาพถูกวัด: สังเคราะห์รังสีที่ใช้งาน (PAR) ความชื้นในดิน (SMC ) ความหนาแน่น (SDB) ดินลึก (SOD) และครอบคลุมร้อยละของโขดหิน (RC กลุ่มดิน) ความชื้นแสงและดินร่วมกันควบคุมการงอกของเมล็ดจัดตั้งหลิงเมล็ดและความอยู่รอดของต้นกล้าในป่าเขตร้อน (Khurana และซิงห์ 2001) ความชื้นในดิน fluenced หโดยตรงจากปริมาณน้ำฝนซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลอย่างมากในระบบนิเวศป่าเขตร้อนแห้ง (แม็คลาเรนและโดนัลด์ 2003) ฤดูกาลนี้เด่นชัดส่งผลกระทบต่อรูปแบบของการผลิตเมล็ดงอกและความอยู่รอดของต้นกล้าและ opment พัฒนานั้น (ที่คูรานาซิงห์และ 2001) แสงมักจะเป็นขั้นต้นใน

แมรี่ปัจจัย จำกัด สำหรับต้นกล้างอกในป่าฝนเขตร้อนที่ลุ่ม (Gustafsson et al. 2016) การปรับปรุงสภาพแสงหลังจากความวุ่นวายขนาดใหญ่หลังคาสามารถโปรมลทินการเจริญเติบโตของต้นกล้าในเขตร้อนชนิดบาง (Dupuy และ Chazdon 2008). the

ความหนาแน่นของดินจำนวนมากและปริมาณน้ำในดินมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับฐานความต้านทานการเจาะที่เพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มความหนาแน่น และปริมาณน้ำลดลง (Alameda et al. 2012) สูงปริมาณสารอินทรีย์ยังเกี่ยวข้องกับความหนาแน่นของดินต่ำและมีผลกระทบต่อรากต้นไม้ tivities ทํา (Quero et al. 2011) ดินลึกนอกจากนี้ยังจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความชื้นในดินและต้นไม้ระบบราก (de Graaff et al, 2014;. Gevaert et al, 2015). ก้อนหินในภูมิประเทศ Karst ผลิต microenvironments รุนแรงมากทุกที่หินปูนหินขนาดใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และครอบคลุมมากของพื้นดิน (Felfili et al. 2007) จำนวนของสายพันธุ์พืชที่เจริญเติบโตในชุมชนอาณานิคม ronments แวดล้อมเหล่านี้จะถูก จำกัด (Tang et al. 2010).

เราวัดแสงและความชื้นในดินตัวแปรในแต่ละ 10 ×พล็อต 10 เมตรและภายใน 64 ย่อยกรอบ เพื่อวัด SMC เราเก็บรวบรวม 100 cm3 ตัวอย่างดินจากชั้นดิน (0-15 เซนติเมตร) ตุลาคม 2015 โดยใช้ตัวอย่างแกนดินแทรกอยู่ในศูนย์กลางของแต่ละ 4 × 4 เมตรย่อย quadrat Ples ตัวอย่างทดสอบไว้ทั้งหมดถูกเก็บในวันเดียวกัน, 10 วันหลังจากที่ปริมาณน้ำฝนที่ผ่านมาและใกล้กับการโจมตีของฤดูแล้งเมื่อฝนตกก็ไม่บ่อยนัก ดินที่ค่อนข้างชื้น ทั้งนี้ varia- อื่น ๆ ในสภาพดินถูกตั้งข้อสังเกตในหมู่กรอบในช่วงฤดูกาลนี้กว่าในช่วงกลางเดือนเปียกและแห้งกลางฤดูกาล SDB (ช CM-3) เป็นที่คาดกันสำหรับแต่ละตัวอย่างดินเป็นสัดส่วนของเตาอบแห้งมวลดินในปริมาณรวม (Brahim et al. 2012) SMC (%) ถูกกำหนดจากอัตราส่วนของน้ำหนักสดให้แห้งน้ำหนัก (Anctil et al. 2008) เราวัด SOD (ซม.) จากดินพื้นผิวที่ข้อเท็จจริงในตัวอย่างดินหลุมตั้งอยู่ที่ใจกลางของแต่ละ 4 × 4 เมตรย่อย quadrat