PoliticalTo understand the politics

Political
To understand the politics of Brazil, a few steps back are needed to look at the history and what has happened in the politics regarding to the economy. Brazil became a federal republic in 1889 and at that time they had a central government, which was mostly controlled by interests of the coffee industry. At that time Brazil was producing about 65% of the world’s coffee.
From 1964 to 1985, Brazil was ruled and controlled by the military. It was a period of turbulences and obstacles for Brazil when they had an Electoral College system set up by the military.
Today Brazil is a country with a democratic government but they did not become a fully democracy until the 1980’s. Since then, there have been different parties in power, for example the Party of Brazilian Social Democracy, the Party of Brazilian Democratic Movement and the Liberal Front Party. The president now is Dilma Rousseff and she belongs to the Workers Party.
The government in Brazil has an intrinsic part of controlling the economy since they have a perceived value and strategy. However, Brazil politics has a filthy and dark backside called corruption.
The corruption has been the central topic in the Brazilian politics since their return to democracy in 1988. The most recent scandal within the corruption is involving bribes, famous politicians and even the sentencing prominent government officials to jail. The Transparency International’s Corruption Perception Index score for Brazil in 2012 was 43 - the same score as South Africa placing Brazil at 69th out of 183 countries. Citizens do not really experience corruption at a daily basis, except for dealing with the police, but it is mostly related to campaign financing. The type of corruption is more alike the found in industrial economies with ineffective checks and balances than in the poor countries where corruption is high in the service delivery.
The corruption in Brazil is facing the effects of the developmental outcomes in many areas especially education and health. Studies show that a quarter to one third of local governments has been caught of producing irregularities from their educational and health funds. The corruption does not only break down the system but also costs Brazil a huge amount of money. The cost of corruption is obvious: slowing down the economic growth, impediments for development, weakening of democratic institutions and morals, discredited public services and also widening market for organized crimes. According to Forbes Magazine, the cost of corruption in Brazil could be up to $53 billion just this year alone with intention on year 2013.
With the purpose of preventing the corruption, the government has signed several international agreements against corruption and they also have taken other international commitments. Some conventions Brazil has signed are the UN Convention, the Convention of the Organizing of American States and the Convention of the Organizing for Economic Cooperation and Development.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทางการเมืองเข้าใจการเมืองของประเทศบราซิล กี่ตอนจำเป็นต้องดูประวัติและสิ่งที่เกิดขึ้นในการเมืองเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ บราซิลเป็น สาธารณรัฐสหพันธ์จาก 1889 และที่ มีรัฐบาลกลาง ซึ่งส่วนใหญ่ถูกควบคุม โดยผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมกาแฟ ในขณะที่ ประเทศบราซิลถูกผลิตประมาณ 65% ของกาแฟโลกจากปี 1964-1985 บราซิลถูกปกครอง และควบคุม โดยทหาร มันเป็นระยะของ turbulences และอุปสรรคสำหรับประเทศบราซิลเมื่อมีระบบ Electoral วิทยาลัยการติดตั้ง โดยทหาร ปัจจุบันบราซิลเป็นประเทศที่ มีรัฐบาลประชาธิปไตย แต่จะไม่กลายเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งปี 1980 หลังจากนั้น มีบุคคลอื่นอำนาจ เช่นพรรคของบราซิลสังคมประชาธิปไตย พรรคของบราซิลประชาธิปไตยความเคลื่อนไหว และหน้า พรรคเสรี ตอนนี้ประธานคือ Dilma Rousseff และเธอเป็นสมาชิกของพรรคแรงงานรัฐบาลบราซิลได้มี intrinsic หนึ่งควบคุมเศรษฐกิจเนื่องจากมีมูลค่าการรับรู้และกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม การเมืองของประเทศบราซิลมีด้านหลังเข้ม และส่วนที่เรียกว่าความเสียหายความเสียหายที่ได้รับหัวข้อกลางในเมืองบราซิลตั้งแต่แทนเพื่อประชาธิปไตยในปี 1988 สแกนดัลล่าสุดภายในความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับสินบน นักการเมืองที่มีชื่อเสียงและแม้กระทั่งโทษประหารเด่นเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าคุกได้ คะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต Transparency International ในบราซิลในปี 2012 มี 43 - คะแนนเดียวเป็นวางบราซิลที่ 69th จาก 183 ประเทศแอฟริกาใต้ ประชาชนไม่จริง ๆ มีความเสียหายที่เป็นประจำ ยกเว้นสำหรับจัดการกับตำรวจ แต่ส่วนใหญ่มีการเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการขายการเงิน ชนิดของความเสียหายได้มากเหมือนเศรษฐกิจพบในกับผลตรวจสอบ และดุลมากกว่าประเทศยากจนซึ่งความเสียหายในการจัดส่งบริการความเสียหายในบราซิลจะหันผลของผลการพัฒนาในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาและสุขภาพ การศึกษาแสดงว่า มีการจับไตรมาสของรัฐบาลท้องถิ่นผลิตความผิดปกติจากการศึกษาและกองทุนสุขภาพ ความเสียหายไม่เฉพาะแบ่งระบบ แต่ยัง ต้นทุนบราซิลจำนวนเงินขนาดใหญ่ ต้นทุนของความเสียหายเป็นที่ชัดเจน: ชะลอการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ impediments พัฒนา ลดลงของสถาบันประชาธิปไตยและคุณธรรม discredited ยัง ขยับขยายตลาด organized อาชญากรรมและบริการสาธารณะ ตามที่นิตยสาร Forbes ต้นทุนความเสียหายในประเทศบราซิลสามารถได้ถึง 53 พันล้าน เหรียญเพียงปีนี้อยู่คนเดียวกับความตั้งใจในปี 2013โดยมีวัตถุประสงค์ป้องกันการทุจริต รัฐบาลได้ลงนามข้อตกลงระหว่างประเทศต่าง ๆ กับการทุจริต และพวกเขายังได้นำข้ออื่น ๆ แบบแผนบางอย่างบราซิลได้ลงนามเป็น อนุสัญญาสหประชาชาติ การประชุมการจัดระเบียบของอเมริกันอเมริกา และการประชุมจัดระเบียบสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทางการเมืองเพื่อให้เข้าใจการเมืองของบราซิลไม่กี่ขั้นตอนกลับมีความจำเป็นที่จะมองไปที่ประวัติศาสตร์และสิ่งที่เกิดขึ้นในทางการเมืองเกี่ยวกับการที่มีต่อเศรษฐกิจ
บราซิลกลายเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐในปี 1889 และในเวลาที่พวกเขามีรัฐบาลกลางซึ่งถูกควบคุมโดยส่วนใหญ่เป็นผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมกาแฟ ในขณะที่บราซิลกำลังการผลิตประมาณ 65% ของกาแฟของโลก.
จาก 1964-1985, บราซิลถูกปกครองและควบคุมโดยทหาร มันเป็นช่วงเวลาของความปั่นป่วนและอุปสรรคบราซิลเมื่อพวกเขามีระบบการเลือกตั้งวิทยาลัยที่ตั้งขึ้นโดยทหาร.
วันนี้บราซิลเป็นประเทศที่มีรัฐบาลประชาธิปไตย แต่พวกเขาไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มที่จนกว่าจะถึงปี 1980 ตั้งแต่นั้นมามีการฝ่ายต่างอยู่ในอำนาจเช่นพรรคของสังคมประชาธิปไตยบราซิลพรรคของขบวนการประชาธิปไตยบราซิลและพรรคเสรีนิยมด้านหน้า ประธานในขณะนี้คือ Dilma Rousseff และเธอเป็นของพรรคแรงงาน.
รัฐบาลในบราซิลมีส่วนที่แท้จริงของการควบคุมเศรษฐกิจตั้งแต่พวกเขามีมูลค่าการรับรู้และกลยุทธ์การ อย่างไรก็ตามการเมืองบราซิลมีด้านหลังสกปรกและความมืดที่เรียกว่าการทุจริต.
ความเสียหายที่ได้รับหัวข้อสำคัญในการเมืองบราซิลตั้งแต่พวกเขากลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในปี 1988 เรื่องอื้อฉาวล่าสุดที่อยู่ในการทุจริตที่มีการเกี่ยวข้องกับสินบนนักการเมืองที่มีชื่อเสียงและแม้กระทั่งการพิจารณาคดีที่โดดเด่น เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าคุก การรับรู้ของความโปร่งใสนานาชาติทุจริตคะแนนดัชนีบราซิลในปี 2012 เป็น 43 - คะแนนเช่นเดียวกับการวางแอฟริกาใต้บราซิลที่ 69 จาก 183 ประเทศ ประชาชนไม่ได้จริงๆพบความเสียหายในชีวิตประจำวันยกเว้นสำหรับการรับมือกับตำรวจ แต่มันก็เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาเงินทุนหาเสียง ประเภทของการทุจริตเป็นเหมือนกันมากขึ้นที่พบในประเทศอุตสาหกรรมที่มีการตรวจสอบไม่ได้ผลและยอดคงเหลือกว่าในประเทศยากจนที่ทุจริตอยู่ในระดับสูงในการส่งมอบบริการ.
ความเสียหายในบราซิลจะหันผลกระทบของผลการพัฒนาในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาและสุขภาพ . การศึกษาแสดงให้เห็นว่าหนึ่งในสี่ถึงหนึ่งในสามของรัฐบาลท้องถิ่นได้รับการติดในการผลิตความผิดปกติจากการศึกษาและกองทุนสุขภาพของพวกเขา ความเสียหายไม่เพียง แต่ทำลายลงระบบ แต่ยังมีค่าใช้จ่ายบราซิลเงินจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายของการทุจริตที่เห็นได้ชัด: ชะลอตัวลงการเติบโตทางเศรษฐกิจอุปสรรคสำหรับการพัฒนาความอ่อนแอของสถาบันประชาธิปไตยและศีลธรรมอดสูบริการสาธารณะและตลาดยังเปิดกว้างจัดอาชญากรรม ตามที่นิตยสาร Forbes ค่าใช้จ่ายของการทุจริตในบราซิลอาจจะถึง $ 53000000000 ในปีนี้เพียงคนเดียวที่มีความตั้งใจในปี 2013
โดยมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันการทุจริตที่รัฐบาลได้ลงนามในข้อตกลงระหว่างประเทศหลายกับการทุจริตและพวกเขายังมีการดำเนินการอื่น ๆ ภาระผูกพันระหว่างประเทศ บางการประชุมบราซิลได้ลงนามเป็นอนุสัญญาสหประชาชาติ, การประชุมจัดงานของรัฐอเมริกันและอนุสัญญาการจัดความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเมือง
เข้าใจการเมืองของบราซิล เพียงไม่กี่ก้าว กลับจะต้องดูประวัติ และสิ่งที่เกิดขึ้นในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ บราซิลกลายเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐในปี 1889 และในเวลาที่พวกเขาได้ รัฐบาล กลาง ซึ่งถูกควบคุมโดยความสนใจของอุตสาหกรรมกาแฟ ตอนนั้นบราซิลคือการผลิตประมาณ 65% ของโลกกาแฟ
จาก 2507 ถึงปี 1985 บราซิลถูกปกครองและควบคุมโดยทหาร มันคือช่วงเวลาของ turbulences และอุปสรรคของบราซิลเมื่อพวกเขามีการเลือกวิทยาลัยระบบที่ตั้งขึ้นโดยทหาร
วันนี้บราซิลจะเป็นประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่พวกเขาไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มที่จน 1980 ตั้งแต่นั้นมา มีฝ่ายต่างๆ ในการใช้พลังงานเช่นพรรคประชาธิปไตยเพื่อสังคมชาวบราซิล พรรคของบราซิลขบวนการประชาธิปไตยและพรรคแนวหน้าเสรีนิยม ท่านประธานตอนนี้ เลือกตั้งนาง Dilma เป็นของพรรคแรงงาน .
รัฐบาลบราซิลมีส่วนในการควบคุมเศรษฐกิจ เนื่องจากพวกเขามีการรับรู้คุณค่าและกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม การเมือง บราซิลมีสกปรกและมืดด้านหลังเรียกว่าคอรัปชั่น
การทุจริตมีหัวข้อสำคัญในการเมืองของบราซิลตั้งแต่พวกเขากลับมาเพื่อประชาธิปไตยในปี 1988 ล่าสุดเรื่องอื้อฉาวในการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการติดสินบน นักการเมืองชื่อดัง และแม้แต่โทษเด่นข้าราชการที่ต้องเข้าคุกความโปร่งใสระหว่างประเทศดัชนีการคอรัปชั่นคะแนนสำหรับบราซิล 2012 คือ 43 - เดียวกันคะแนนเป็นแอฟริกาใต้วางที่บราซิลปีจาก 183 ประเทศ ประชาชนไม่ได้จริงๆพบการทุจริตในแต่ละวัน ยกเว้นสำหรับการรับมือกับตำรวจ แต่เป็นส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการขาย