When compared to Korea, the relatio

When compared to Korea, the relationship between stigma perception and care burden
among Japanese families is slightly more complicated. For example, Japanese families,
compared to Korean families, tend to be “embarrassed” by the behaviors of schizophrenia
patients, and they report “not feeling comfortable around a relative with schizophrenia”. In
addition, Japanese families are more likely to resist allowing people other than family
members to care for schizophrenia patients. They are more likely to think that schizophrenia
patients “feel uncomfortable with others entering his/her house” and “feel uncomfortable
with being cared for by someone outside the family”. Japanese families appear to be
sensitive to schizophrenia patients’ tendencies of “rejecting interactions with others and not
wanting to be cared for by others besides family members at home, which is their safe
space”. Japanese families are also resistant to allowing others to take care of schizophrenia
patients. Hence, a close family tie between schizophrenia patients and their families is
suggested. The ratio of families who have access to people outside the family who could
provide care in Japan was greater than half overall. However, even if Japanese families
could find someone to provide care, they are more likely to care for schizophrenia patients
on their own because they prefer not to have nonfamily members providing care.
In contrast to Korean families, Japanese families tend to believe that other people think
chronic schizophrenia patients are “unpredictable and dangerous” and that “it is best to
avoid them”. Japanese families feel that “if they had a problem with schizophrenia, they
would not tell anyone” and that “if a person had a problem with schizophrenia, he or she
would not tell anyone”, thus suggesting that their attitude is “it is best to hide schizophrenia
in family members from others”.
To summarize our third caregiver burden and family stigma study, Japanese families of
patients with schizophrenia, compared to Korean families, are likely to perceive a stronger
stigma from others and are more likely to think that schizophrenia should be hidden from
others. Because they are “worried about what relatives and neighbors might think”, they are
more likely to take care of schizophrenia patients on their own.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อเทียบกับเกาหลี ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความอัปยศและภาระการดูแลในหมู่ครอบครัวญี่ปุ่นที่ซับซ้อนมากขึ้นเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ครอบครัวญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับครอบครัวที่เกาหลี มีแนวโน้มที่จะ "อาย" พฤติกรรมของโรคจิตเภทผู้ป่วย และรายงาน "รู้สึกไม่สบายทั่วญาติกับโรคจิตเภท" ในนอกจากนี้ ครอบครัวญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะต่อต้านการอนุญาตให้คนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวสมาชิกที่ให้ดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภท พวกเขามีแนวโน้มจะคิดว่า โรคจิตเภทผู้ป่วย "รู้สึกอึดอัดกับคนใส่บ้านของเขา" และ "รู้สึกอึดอัดด้วยการดูแลจากบุคคลนอกครอบครัว" ครอบครัวญี่ปุ่นปรากฏอยู่ในมีความสำคัญกับบุคลิกภาพของผู้ป่วยโรคจิตเภทของ "ปฏิเสธปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และไม่ซึ่งต้องจะดูแลผู้อื่นนอกจากสมาชิกในครอบครัวที่บ้าน เป็นของพวกเขาปลอดภัยพื้นที่" ครอบครัวญี่ปุ่นก็ทนให้คนอื่นดูแลโรคจิตเภทผู้ป่วย ดังนั้น จะสู้ครอบครัวใกล้ชิดระหว่างผู้ป่วยโรคจิตเภทและครอบครัวแนะนำ อัตราส่วนของครอบครัวที่มีถึงบุคคลภายนอกครอบครัวที่อาจให้ดูแลในญี่ปุ่นมีมากกว่าครึ่งโดยรวม อย่างไรก็ตาม แม้ญี่ปุ่นครอบครัวสามารถหาคนที่ให้การดูแล พวกเขามีแนวโน้มการดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทตนเองเนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการมีสมาชิก nonfamily ที่ให้การดูแลตรงข้ามกับเกาหลีครอบครัว ครอบครัวญี่ปุ่นมักจะ เชื่อว่าที่คิดว่าคนอื่นเรื้อรังในผู้ป่วยโรคจิตเภท "คาดไม่ถึง และอันตราย" และว่า "มันเป็นที่ดีที่สุดหลีกเลี่ยงพวกเขา" ครอบครัวญี่ปุ่นรู้สึกที่ "ถ้าพวกเขามีปัญหากับโรคจิตเภท พวกเขาจะบอกทุกคน"และ"ถ้าเป็นคนมีปัญหากับโรคจิตเภท เขา หรือเธอจะไม่บอกใคร" จึง บอกทัศนคติของพวกเขาว่า "มันคือโรคจิตเภทในครอบครัวจากคนอื่น"สรุปภูมิปัญญาของเราสาม ภาระและความอัปยศครอบครัวศึกษา ครอบครัวที่ญี่ปุ่นผู้ป่วยโรคจิตเภท เมื่อเทียบกับครอบครัวที่เกาหลี มักจะรู้สึกแข็งแกร่งตีตราจากผู้อื่น และมีแนวโน้มจะคิดว่า โรคจิตเภทควรถูกซ่อนอยู่จากผู้อื่น เนื่องจาก "กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ญาติและเพื่อนบ้านอาจคิดว่า" เป็น อยู่น่าจะดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทในตนเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเทียบกับประเทศเกาหลีความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้และความอัปยศภาระการดูแลในหมู่ครอบครัวชาวญี่ปุ่นเป็นเพียงเล็กน้อยที่ซับซ้อนมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นครอบครัวชาวญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับครอบครัวเกาหลีมีแนวโน้มที่จะ "อาย" โดยพฤติกรรมของโรคจิตเภทผู้ป่วยและพวกเขารายงาน"ไม่รู้สึกสบาย ๆ เมื่อเทียบกับโรคจิตเภท" ในนอกจากนี้ครอบครัวของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะต่อต้านการอนุญาตให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวสมาชิกในการดูแลผู้ป่วยจิตเภทสำหรับ พวกเขามีแนวโน้มที่จะคิดว่าเป็นโรคจิตเภทผู้ป่วย "รู้สึกอึดอัดกับคนอื่น ๆ ที่เข้ามาในบ้านของเขา / เธอ" และ "รู้สึกอึดอัดกับการได้รับการดูแลโดยคนภายนอกครอบครัว" ครอบครัวญี่ปุ่นดูเหมือนจะมีความไวต่อแนวโน้มผู้ป่วยจิตเภทของ"ปฏิเสธการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและไม่ต้องการที่จะได้รับการดูแลโดยคนอื่นๆ นอกจากนี้สมาชิกในครอบครัวที่บ้านซึ่งมีความปลอดภัยของพวกเขาพื้นที่" ครอบครัวญี่ปุ่นยังทนต่ออนุญาตให้ผู้อื่นที่จะดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทผู้ป่วย ดังนั้นการผูกครอบครัวที่ใกล้ชิดระหว่างผู้ป่วยจิตเภทและครอบครัวของพวกเขาจะแนะนำ อัตราส่วนของครอบครัวที่มีการเข้าถึงคนที่อยู่นอกครอบครัวที่ทำได้ให้การดูแลในญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งหนึ่งโดยรวม อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีครอบครัวญี่ปุ่นสามารถหาคนที่จะให้การดูแลพวกเขามีแนวโน้มที่จะดูแลผู้ป่วยจิตเภทของตัวเองเพราะพวกเขาไม่ต้องการที่จะมีสมาชิกไม่เหมาะสำหรับครอบครัวให้การดูแล. ในทางตรงกันข้ามกับครอบครัวเกาหลี, ครอบครัวญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าคนอื่น ๆ คิดว่าผู้ป่วยจิตเภทเรื้อรัง"คาดเดาไม่ได้และอันตราย" และ "ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงพวกเขา" ครอบครัวชาวญี่ปุ่นรู้สึกว่า "ถ้าพวกเขามีปัญหากับอาการจิตเภทที่พวกเขาจะไม่บอกใคร" และ "ถ้าเป็นคนที่มีปัญหากับอาการจิตเภทที่เขาหรือเธอจะไม่บอกใคร" จึงบอกว่าทัศนคติของพวกเขาคือ "ที่ดีที่สุดคือ เพื่อซ่อนโรคจิตเภทในสมาชิกในครอบครัวจากคนอื่นๆ ". เพื่อสรุปภาระในการดูแลของเราที่สามและการศึกษาปานครอบครัวครอบครัวญี่ปุ่นของผู้ป่วยที่มีอาการจิตเภทเมื่อเทียบกับครอบครัวเกาหลีมีแนวโน้มที่จะรับรู้แข็งแกร่งปานจากผู้อื่นและมีแนวโน้มที่จะคิดว่าเป็นโรคจิตเภทควรจะซ่อนจากคนอื่น ๆ เพราะพวกเขามี "ความกังวลใจเกี่ยวกับสิ่งที่ญาติและเพื่อนบ้านอาจจะคิดว่า" พวกเขาจะมีโอกาสมากขึ้นในการดูแลผู้ป่วยจิตเภทของตัวเอง