Environmental activists kicked off

Environmental activists kicked off a door-knocking campaign against coal-fired power plants in coastal provinces in the South yesterday.

The Save Andaman from Coal Network launched the campaign yesterday to persuade local people in communities along the Andaman coast to call on the government to halt coal-fired power projects in the South of Thailand.

Until June 2, the activists will travel from Satun to Trang, Krabi, Phangnga and Phuket to educate people about the impact of coal-fired plants.

"We want to call on the government to scrap coal-fired power plants in Krabi and other provinces," said Akradej Chakjunda from the network. At least two plants have been planned for construction in southern provinces.

Coal-fired power plants were not needed in the South as renewable energy options can feed power demand in the region, he said.

Environmental impact assessments of a coal-fired plant, with 870 megawatts (MW) of installed capacity, and a coal sea port at a Ramsar site in Baan Klong Rua of Krabi are being scrutinised by the Office of Natural Resources and Environmental Policy and Planning.

Mr Akradej also urged the government to give southern provinces 10 years to prove that renewable energy can be an efficient option before going ahead with coal-fired power plants.

In Krabi, there are 27 oil palm factories, 13 of which together can produce 90MW of power, said Prasitchai Nunuan, another network member. If every factory produces power efficiently, the combined result will be about 800MW, which equals the amount of energy provided by a coal-fired power plant.

Natural resources are abundant in the South, said Jae-na Wattanapan, a local environmental activist, so the government should not push for destructive development projects such as coal-fired plants. She believed if a plant is built in Krabi as a pilot project, others would soon follow in Nakhon Si Thammarat and Songkhla.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมเตะออกแคมเปญเคาะประตูกับถ่านไฟฟ้าในจังหวัดชายฝั่งทะเลในภาคใต้เมื่อวานนี้อันดามันบันทึกจากเครือข่ายถ่านหินเปิดตัวแคมเปญเมื่อวานชักจูงคนในท้องถิ่นในชุมชนริมฝั่งทะเลอันดามันเพื่อเรียกให้รัฐบาลหยุดโครงการถ่านไฟในภาคใต้ของไทยจนถึง 2 มิถุนายน นักเคลื่อนไหวที่จะเดินทางจากสตูลไปตรัง กระบี่ พังงา และภูเก็ตเพื่อใหคนเกี่ยวกับผลกระทบของพืชถ่าน"เราต้องการเรียกให้รัฐบาลเสียถ่านโรงไฟฟ้ากระบี่และจังหวัดอื่น ๆ กล่าวว่า Akradej Chakjunda จากเครือข่าย น้อยสองพืชได้ถูกวางแผนสำหรับการก่อสร้างในจังหวัดภาคใต้โรงไฟฟ้าถ่านไม่จำเป็นในภาคใต้เป็นตัวเลือกพลังงานทดแทนสามารถป้อนความต้องการพลังงานในภูมิภาค เขากล่าวว่าประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมถ่านพืช กับ 870 เมกะวัตต์ (MW) ของกำลังการผลิตติดตั้ง และการท่าเรือถ่านหินที่ Ramsar ในบ้านคลองเรือกระบี่จะถูกพิจารณา โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมนโยบาย และวางแผนนาย Akradej ยังเรียกร้องให้รัฐบาลให้จังหวัดภาคใต้ 10 ปีเพื่อพิสูจน์ว่า พลังงานทดแทนที่สามารถเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพก่อนที่จะไปข้างหน้ากับโรงไฟฟ้าถ่านกระบี่ มีโรงงานน้ำมันปาล์ม 27, 13 ซึ่งกันสามารถผลิต 90MW ของพลังงาน กล่าวว่า Prasitchai Nunuan สมาชิกเครือข่ายอื่น หากทุกโรงงานสร้างพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลรวมจะเป็นเกี่ยวกับ 800MW ซึ่งเท่ากับจำนวนพลังงานที่มาจากโรงไฟฟ้าถ่านทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ในภาคใต้ กล่าวว่า แจนา Wattanapan เป็นกิจกรรมสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น ดังนั้นรัฐบาลควรผลักดันโครงการพัฒนาแบบทำลายเช่นพืชถ่านไม่ เธอเชื่อว่า หากโรงงานตั้งอยู่ในกระบี่เป็นโครงการนำร่อง อื่น ๆ เร็ว ๆ นี้จะตามที่นครศรีธรรมราชและสงขลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมเตะออกแคมเปญประตูเคาะกับโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดชายฝั่งทะเลในภาคใต้เมื่อวานนี้. บันทึกอันดามันจากถ่านหินเครือข่ายเปิดตัวแคมเปญเมื่อวานนี้เพื่อชักชวนให้คนในท้องถิ่นในชุมชนตามแนวชายฝั่งอันดามันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลที่จะหยุด ถ่านหินโครงการโรงไฟฟ้าในภาคใต้ของประเทศไทย. จนถึงวันที่ 2 มิถุนายนร้องจะเดินทางจากจังหวัดสตูลตรังกระบี่พังงาและภูเก็ตเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของถ่านหินโรง. "เราต้องการที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลในการ เศษถ่านหินโรงไฟฟ้าในจังหวัดกระบี่และจังหวัดอื่น ๆ "Akradej Chakjunda กล่าวจากเครือข่าย อย่างน้อยสองพืชได้รับการวางแผนสำหรับการก่อสร้างในจังหวัดชายแดนภาคใต้. ถ่านหินโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ในภาคใต้เป็นตัวเลือกพลังงานทดแทนสามารถป้อนความต้องการใช้ไฟฟ้าในภูมิภาคที่เขากล่าวว่า. การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้าถ่านหินด้วย 870 เมกะวัตต์ (MW) ของกำลังการผลิตติดตั้งและท่าเรือน้ำถ่านหินที่ Ramsar เว็บไซต์ในบ้านคลองเรือของจังหวัดกระบี่จะได้รับการพิจารณาจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม. นาย Akradej ยังเรียกร้องให้รัฐบาลที่จะให้ 10 จังหวัดภาคใต้ ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่าพลังงานทดแทนอาจเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพก่อนที่จะไปข้างหน้าด้วยถ่านหินโรงไฟฟ้า. ในกระบี่มี 27 โรงงานปาล์มน้ำมัน 13 แห่งที่ร่วมกันสามารถผลิตขนาด 90 MW อำนาจ Prasitchai Nunuan สมาชิกเครือข่ายอื่นกล่าวว่า ถ้าทุกโรงงานผลิตพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพผลรวมจะอยู่ที่ประมาณ 800MW ซึ่งเท่ากับปริมาณของพลังงานที่ได้รับจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน. ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ในภาคใต้กล่าวว่า Jae-na Wattanapan, กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นเพื่อให้ รัฐบาลไม่ควรผลักดันให้โครงการพัฒนาทำลายเช่นโรงไฟฟ้าถ่านหิน เธอเชื่อว่าถ้าพืชที่ถูกสร้างขึ้นในจังหวัดกระบี่เป็นโครงการนำร่องอื่น ๆ เร็ว ๆ นี้จะปฏิบัติตามในจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม kicked off ประตูเคาะประตูรณรงค์ต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน - ยิงในจังหวัดชายฝั่งทะเลในภาคใต้ เมื่อวานนี้

บันทึกอันดามันจากเครือข่ายเปิดตัวแคมเปญถ่านหินเมื่อวานนี้เพื่อชักชวนประชาชนในชุมชนตามแนวชายฝั่งอันดามัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติโครงการพลังงานถ่านหินในภาคใต้

จนถึงวันที่ 2 มิ.ย. นี้กิจกรรมจะเดินทางจากสตูล ตรัง กระบี่ พังงา และภูเก็ต ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของพืช - .

" เราอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเศษถ่านหินโรงไฟฟ้ากระบี่ และจังหวัดอื่น ๆ กล่าวว่า " อัครเดช chakjunda จากเครือข่าย อย่างน้อยสองพืชที่ได้รับการวางแผนสำหรับการก่อสร้างในจังหวัดภาคใต้

พืชพลังงานถ่านไฟไม่จําเป็นต้องในภาคใต้เป็นทางเลือกพลังงานทดแทนสามารถฟีดความต้องการพลังงานในภูมิภาค กล่าวว่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การประเมิน

ของโรงงานถ่านหิน กับ 870 เมกะวัตต์ ( MW ) สามารถติดตั้ง และถ่านหินทะเลพอร์ตที่เป็นแรมซาร์ไซต์ บ้านคลองเรือกระบี่จะถูกพิจารณาโดย สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม .

นายอัครเดชยังกระตุ้นให้รัฐบาลที่จะให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ 10 ปีเพื่อพิสูจน์ว่าพลังงานทดแทนที่สามารถเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพก่อนที่จะไปข้างหน้ากับโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ในจังหวัดกระบี่ มีน้ำมันปาล์ม 27 โรงงาน 13 แห่งซึ่งร่วมกันสามารถผลิต 90mw อำนาจ กล่าวว่า prasitchai nunuan อีกเครือข่ายสมาชิก ถ้าทุกโรงงานผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพผลรวมจะอยู่ที่ประมาณ 800mw ซึ่งเท่ากับปริมาณพลังงานโดยโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ทรัพยากรธรรมชาติมีชุกชุมในภาคใต้ กล่าวว่า เจ นา wattanapan นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรผลักดันการพัฒนาที่ทำลายโครงการ เช่น โรงงานถ่านหิน . เธอเชื่อว่าหากโรงงานถูกสร้างขึ้นในจังหวัดกระบี่ เป็นโครงการนำร่องที่คนอื่นจะตามไปในไม่ช้า ใน นครศรีธรรมราช และสงขลา