Synchronous vs. asynchronous commun

Synchronous vs. asynchronous communications
Synchronous communications require some type of "handshaking" between tasks that are sharing data. This can be explicitly structured in code by the programmer, or it may happen at a lower level unknown to the programmer.
Synchronous communications are often referred to as blocking communications since other work must wait until the communications have completed.
Asynchronous communications allow tasks to transfer data independently from one another. For example, task 1 can prepare and send a message to task 2, and then immediately begin doing other work. When task 2 actually receives the data doesn't matter.
Asynchronous communications are often referred to as non-blocking communications since other work can be done while the communications are taking place.
Interleaving computation with communication is the single greatest benefit for using asynchronous communications.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบซิงโครนัสกับสื่อสารแบบอะซิงโครนัสสื่อสารแบบซิงโครนัสต้องบางชนิดของ "ทฤษฎี" ระหว่างงานที่จะใช้ข้อมูลร่วมกันได้ นี้สามารถจัดชัดเจนโครงสร้างรหัส โดยนักเขียนโปรแกรม หรืออาจเกิดขึ้นที่ยังไม่ทราบระดับล่างกับผู้เขียนโปรแกรมสื่อสารแบบซิงโครนัสมักจะอ้างถึงเป็นบล็อกสื่อสารเนื่องจากงานอื่น ๆ ต้องรอจนกระทั่งเสร็จสิ้นการสื่อสารการสื่อสารแบบอะซิงโครนัสให้งานการโอนย้ายข้อมูลเป็นอิสระจากกัน ตัวอย่าง งาน 1 สามารถเตรียมส่งข้อความไปงาน 2 และจากนั้น ทันทีเริ่มการทำงานอื่น ๆ เมื่องาน 2 จะได้รับ ข้อมูลที่ไม่สำคัญสื่อสารแบบอะซิงโครนัสมักจะอ้างถึงเป็นสถานที่ไม่มีการบล็อกสื่อสารเนื่องจากสามารถทำงานอื่น ๆ ในขณะที่มีการติดต่อสื่อสารแทรกสลับข้อมูลคำนวณ ด้วยการสื่อสารเป็นประโยชน์มากที่สุดเดียวสำหรับใช้สื่อสารแบบอะซิงโครนัส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซิงโครนัส ( Synchronous vs
การสื่อสารต้องบางชนิดของ " ทฤษฎี " ระหว่างงานที่แบ่งปันข้อมูล นี้สามารถอย่างชัดเจนโครงสร้างรหัส โดยโปรแกรมเมอร์ หรือมันอาจจะเกิดขึ้นที่ระดับล่างไม่รู้จักกับ
โปรแกรมเมอร์การสื่อสารแบบซิงโครนัสที่มักจะเรียกว่าการปิดกั้นการสื่อสารเนื่องจากงานอื่น ต้องรอจนกว่าการสื่อสารการสื่อสารแบบอะซิงโครนัสให้งานเสร็จ
โอนข้อมูลที่เป็นอิสระจากกัน ตัวอย่างเช่น งานที่ 1 สามารถจัดเตรียมและส่งข้อความไปยังงานที่ 2 และจากนั้นทันทีเริ่มทำงานอื่น ๆ เมื่องานที่ 2 จริงๆ แล้วได้รับข้อมูลที่ไม่สำคัญ .
การสื่อสารแบบอะซิงโครนัส มักจะเรียกว่า ไม่ปิดกั้นการสื่อสารเนื่องจากงานอื่น ๆที่สามารถทำได้ในขณะที่การสื่อสารเกิดขึ้น .
interleaving การคำนวณด้วยการสื่อสารเดี่ยวมากที่สุดประโยชน์เพื่อใช้สื่อสารไม่ตรงกัน