This Pali word "avijja" is a negati

This Pali word "avijja" is a negative term meaning "not knowing completely" but it does not mean "knowing nothing at all." This kind of unknowing is very special and not concerned with ordinary ways or subjects of knowledge, for here what one does not know are the Four Noble Truths, one does not see them clearly in one’s own heart and one’s own life. In past lives, we did not care to see 'dukkha' (1), so we could not destroy 'the cause of dukkha' (2) or craving which has impelled us to seek more and more lives, more and more pleasures. 'The cessation of dukkha' (3) which perhaps could have been seen by us in past lives, was not realised, so we come to the present existence inevitably burdened with dukkha. And in the past we can hardly assume that we set our feet upon the 'practice-path leading to the cessation of dukkha' (4) and we did not even discover Stream-entry. We are now paying for our own negligence in the past.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำบาลี "avijja" เป็นความหมายลบคำว่า "ไม่รู้ทั้งหมด" แต่ไม่ "รู้อะไรทั้งนั้น" นี้ unknowing ชนิดพิเศษมาก และไม่เกี่ยวข้อง ด้วยวิธีธรรมดาหรือวิชาความรู้ การสิ่งหนึ่งไม่รู้จะทุกข์ ไม่เห็นได้อย่างชัดเจนในหัวใจตัวเองและชีวิตของตนเอง ในอดีตชีวิต เราไม่เลี้ยงดู 'dukkha' (1), ดังนั้นเราไม่สามารถทำลาย "สาเหตุของ dukkha' (2) หรือซื้อที่ impelled เราแสวงหามากชีวิต ความสุขมาก 'การยุติ dukkha' (3) ซึ่งบางทีอาจเห็นเราในอดีต ถูกไม่เองก็ยังคิด ดังนั้นเรามาย่อมเป็นภาระกับ dukkha อยู่ปัจจุบัน และในอดีต เราสามารถไม่สมมติว่า เราตั้งเท้าของเราเมื่อ 'ฝึกเส้นทางนำไปสู่การยุติ dukkha' (4) และเราก็ได้พบกระแสรายการ ตอนนี้เราจะจ่ายเงินสำหรับการละเลยของเราเองในอดีต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี้คำภาษาบาลี "avijja" เป็นคำที่มีความหมายเชิงลบ "ไม่ทราบว่าสมบูรณ์" แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า "ไม่มีอะไรที่ทุกคนรู้ว่า." ชนิดของการไม่รู้นี้เป็นอย่างมากเป็นพิเศษและไม่เกี่ยวข้องกับวิธีสามัญหรือวิชาความรู้ที่นี่สิ่งที่ไม่มีใครรู้ว่ามีอริยสัจก็ไม่เห็นพวกเขาอย่างชัดเจนในหัวใจของตัวเองและการใช้ชีวิตของตัวเอง ในชีวิตที่ผ่านมาเราไม่ได้สนใจที่จะดู dukkha '(1) ดังนั้นเราจึงไม่สามารถทำลาย' สาเหตุของทุกข์ '(2) หรือความอยากที่มีการผลักดันให้เราเพื่อแสวงหาชีวิตที่มากขึ้นและความสุขมากขึ้น "The หยุดชะงักของการ dukkha '(3) ซึ่งอาจจะได้รับการเห็นโดยเราในชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่รู้ดังนั้นเราจึงมาถึงการดำรงอยู่ในปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่เป็นภาระกับ dukkha และในอดีตที่ผ่านมาเราแทบจะไม่สามารถสรุปได้ว่าเราตั้งเท้าของเราเมื่อปฏิบัติเส้นทางที่นำไปสู่​​การหยุดชะงักของทุกข์ '(4) และเราไม่ได้ค้นพบกระแสรายการ ขณะนี้เรากำลังจ่ายเงินสำหรับความประมาทของเราเองในอดีตที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี้คำว่า " บาลี avijja " เป็นคำที่ความหมายในทางลบ " ไม่ทราบเลย " แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า " รู้อะไรเลย " แบบนี้โง่มากเป็นพิเศษ และไม่กังวลด้วยวิธีธรรมดาหรือวิชาความรู้ ที่นี่ อะไรไม่รู้อริยสัจสี่ หนึ่งไม่ได้เจอพวกเขา ชัดเจนในหนึ่งของหัวใจ และชีวิตของคนเอง ในช่วงชีวิตเราไม่ได้อยากเห็น ' ทุกข์ ' ( 1 ) ดังนั้นเราจะไม่ทำลาย ' สาเหตุของความทุกข์ ( ' 2 ) หรือความอยากซึ่งมี impelled เราแสวงหาชีวิตมากขึ้นและมากขึ้นและความสุข” หยุดทุกข์ ( 3 ) ซึ่งบางทีอาจจะถูกเห็นโดยเราในช่วงชีวิตไม่คิดได้ เราก็เลยมาจนถึงปัจจุบันมีอยู่ ย่อมเป็นภาระกับความทุกข์ .และที่ผ่านมาเราไม่ได้คิดว่าเราตั้งเท้าของเราบนเส้นทางที่นำไปสู่การปฏิบัติการทุกขัง ' ( 4 ) และเราไม่ได้ค้นพบกระแสรายการ ตอนนี้เรากำลังจ่ายเพราะความประมาทของเราเองในอดีต