If the “shared cost” is less than t

If the “shared cost” is less than the “shared value,” the value created by the organization will show a net positive balance. On the other hand, if the shared cost is more than the shared value, this will show a net negative balance. In private organizations, assuming that the ultimate measure of the success of a competitive strategy is growth in shareholder value, the equation becomes more complex. The key is to determine the extent to which shareholder value creation depends on a contribution by society as a whole — and whether that contribution is sustainable in the long term. In Section 4, from page 24, we elaborate on this theory and provide examples

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ว่า "ต้นทุนร่วม" น้อยกว่า "ร่วมค่า" ค่าที่สร้าง โดยองค์กรที่จะแสดงยอดดุลสุทธิเป็นบวก ในทางกลับกัน ถ้าต้นทุนที่ใช้ร่วมกันมากกว่าค่าที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งจะแสดงยอดดุลสุทธิเป็นค่าลบ ในองค์กรเอกชน สมมติว่าเจริญเติบโตมูลค่าผู้ถือหุ้น การวัดความสำเร็จของกลยุทธ์การแข่งขันที่ดีที่สุดคือสมการจะซับซ้อนมากขึ้น สำคัญคือการ กำหนดขอบเขตเพื่อผู้ถือหุ้นที่สร้างมูลค่าขึ้นอยู่กับเงินช่วยเหลือสังคมทั้งตัวและไม่ว่าเงินสมทบที่ยั่งยืนในระยะยาว ใน 4 ส่วน จากหน้า 24 เราอธิบายทฤษฎีนี้ และให้ตัวอย่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถ้า "ค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกัน" น้อยกว่า "ค่าใช้ร่วมกัน" ค่าที่สร้างขึ้นโดยองค์กรจะแสดงยอดดุลเป็นบวกสุทธิ ในทางกลับกันหากค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกันมากขึ้นกว่ามูลค่าที่ใช้ร่วมกันนี้จะแสดงยอดคงเหลือติดลบสุทธิ ในภาคเอกชนสมมติว่าตัวชี้วัดที่ดีที่สุดของความสำเร็จของกลยุทธ์การแข่งขันที่มีการเจริญเติบโตในมูลค่าผู้ถือหุ้นจะกลายเป็นสมการที่ซับซ้อนมากขึ้น ที่สำคัญคือการตรวจสอบขอบเขตที่การสร้างมูลค่าผู้ถือหุ้นขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมจากสังคมโดยรวม - และไม่ว่าผลงานที่มีความยั่งยืนในระยะยาว ในหมวดที่ 4 จาก 24 หน้าเราอย่างละเอียดในทฤษฎีนี้และให้ตัวอย่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถ้า " ใช้ทุน " น้อยกว่า " ค่านิยม " คุณค่าที่สร้างโดยองค์กรจะแสดงบวกสุทธิยอดดุล ในทางกลับกัน ถ้าใช้ต้นทุนมากกว่าคุณค่าร่วมกัน นี้จะแสดงยอดสุทธิเป็นลบ . ในองค์กรเอกชน สมมติว่าตัวชี้วัดที่ดีที่สุดของความสำเร็จของกลยุทธ์การแข่งขันคือการเจริญเติบโตของมูลค่าผู้ถือหุ้นกลายเป็นสมการที่ซับซ้อนมากขึ้น กุญแจสำคัญคือการกำหนดขอบเขตที่การสร้างมูลค่าผู้ถือหุ้นขึ้นอยู่กับการบริจาคจากสังคมโดยรวม และไม่ว่าผลงานจะยั่งยืนได้ในระยะยาว ในส่วนที่ 4 จากหน้า 24 เราซับซ้อนในทฤษฎีนี้ และให้ตัวอย่าง