Previous studies have found that a

Previous studies have found that a majority of college
students use the Internet. In a survey of 1,302 college students
at 8 institutions, Anderson2 found that 83% indicated
that they used the Internet. In his report, The Internet Goes
to College, Jones3 found that 86% of 2,501 college students
had gone online. Their most frequently reported online
communication activities were e-mail (62%) and instant
messaging (29%). Five percent or fewer of college students
used Web boards, chat rooms, and newsgroups.
The Internet provides volumes of health information for
consumer health education4 and has the potential for
improving individual health.5,6 It offers online health information
and service delivery through various different formats,
including text-based health information, e-mails, chat
rooms, and listservs.7 Individuals can use the Web to access
information and support on demand.8,9 In addition, it can
also mediate interactions among patients or with health professionals
for support with health concerns.10,11 Other
advantages of the Internet include the possibility of obtaining
health information conveniently to make better decisions
about health and medical care, interacting with others
over the Internet, and choosing health providers.4,12
The Chronicle of Higher Education Almanac 2003–413
reported that nearly 15,312,000 students are enrolled in colleges
and universities nationwide. A national health objective
from Healthy Campus 201014 emphasizes the need for
health education in colleges and universities. Specifically,
the objective is to increase the proportion of college and
university students who receive information from their institutions
on each of the 6 priority health-risk behavior
areas, including injuries; tobacco; alcohol and illicit drug
use; sexual behaviors; dietary patterns; and inadequate
physical activity. Although we recognize the potential for
using the Internet more in the delivery of health education
on college and university campuses, we have found little data about college students’ use of the Internet for locating
health information. In this study, we examined college students’
Internet use, health-seeking behaviors on the Internet,
and attitudes toward the use of the Internet for health
information. We also investigated differences in Internet use
for health information by gender, level in college, racial
group, and level of Internet experience.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาก่อนหน้านี้ได้พบว่าส่วนใหญ่ของวิทยาลัยนักเรียนใช้อินเทอร์เน็ต ในการสำรวจของนักศึกษา 1,302ที่สถาบัน 8, Anderson2 พบว่า 83% ระบุว่า พวกเขาใช้อินเทอร์เน็ต ในรายงานของเขา อินเทอร์เน็ตไปศึกษา Jones3 พบว่า 86% ของนักศึกษา 2,501เดินทางออนไลน์ ส่วนใหญ่ของพวกเขามักจะรายงานแบบออนไลน์กิจกรรมการสื่อสารได้ทันทีและอีเมล์ (62%)ส่งข้อความ (29%) ร้อยละ 5 หรือน้อยกว่าของนักเรียนใช้เว็บบอร์ด ห้องสนทนา และกลุ่มข่าวสารอินเทอร์เน็ตช่วยให้ไดรฟ์ข้อมูลสุขภาพeducation4 สุขภาพผู้บริโภค และมีศักยภาพในการปรับปรุงแต่ละ health.5,6 มีข้อมูลสุขภาพออนไลน์และบริการจัดส่งผ่านรูปแบบต่าง ๆ แตกต่างกันรวมข้อมูลสุขภาพข้อความ อีเมล์ แชทห้อง และบุคคล listservs.7 สามารถใช้เว็บในการเข้าถึงข้อมูลและการสนับสนุนบน demand.8,9 นอกจากนี้ สามารถนอกจากนี้ยัง บรรเทาการโต้ตอบ ระหว่างผู้ป่วย หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสำหรับการสนับสนุนกับ concerns.10,11 สุขภาพอื่น ๆข้อดีของอินเทอร์เน็ตมีความเป็นไปได้ของการได้รับข้อมูลสุขภาพเชิญให้ตัดสินใจได้ดีเกี่ยวกับสุขภาพและการดูแลทางการแพทย์ การโต้ตอบกับผู้อื่นอินเตอร์เน็ต และเลือกสุขภาพ providers.4,12พงศาวดารของศึกษา Almanac 2003 – 413รายงานว่า นักศึกษาเกือบ 15,312,000 ลงทะเบียนในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ประสงค์สุขภาพแห่งชาติจาก 201014 วิทยาเขตสุขภาพเน้นต้องการสุขภาพการศึกษาในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะวัตถุประสงค์จะเพิ่มสัดส่วนของวิทยาลัย และนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ได้รับข้อมูลจากสถาบันของพวกเขาในแต่ละพฤติกรรมเสี่ยงสุขภาพสำคัญ 6พื้นที่ รวมทั้งบาดเจ็บ ยาสูบ แอลกอฮอล์และยาเสพติดผิดกฎหมายใช้ พฤติกรรมทางเพศ รูปแบบอาหาร และไม่เพียงพอกิจกรรมทางกายภาพ ถึงแม้ว่าเราจำเป็นใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้นในการจัดส่งการศึกษาสุขภาพในวิทยาเขตวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย เราพบข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับวิทยาลัยนักเรียนใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพ ในการศึกษานี้ เราตรวจสอบวิทยาลัยนักเรียนใช้อินเทอร์เน็ต พฤติกรรมสุขภาพออกกำลังบนอินเทอร์เน็ตและเจตคติการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสุขภาพข้อมูล เรายังตรวจสอบความแตกต่างในการใช้อินเทอร์เน็ตข้อมูลสุขภาพโดยระดับในวิทยาลัย เชื้อชาติ เพศกลุ่ม และระดับของประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าส่วนใหญ่ของวิทยาลัย
นักเรียนใช้อินเทอร์เน็ต ในการสำรวจของ 1,302 นักศึกษา
ที่ 8 สถาบัน anderson2 พบว่า 83% ระบุ
ว่าพวกเขาใช้อินเทอร์เน็ต ในรายงานของเขา, อินเทอร์เน็ตไป
วิทยาลัย, Jones3 พบว่า 86% ของ 2,501 นักศึกษา
ได้ไปออนไลน์ รายงานบ่อยที่สุดของพวกเขาออนไลน์
กิจกรรมการสื่อสารการเป็น e-mail (62%) และทันทีที่
การส่งข้อความ (29%) ร้อยละห้าหรือน้อยกว่าของนักศึกษา
ที่ใช้เว็บบอร์ดห้องสนทนาและกลุ่มข่าว.
อินเทอร์เน็ตให้ปริมาณของข้อมูลสุขภาพสำหรับ
education4 สุขภาพของผู้บริโภคและมีศักยภาพในการ
ปรับปรุงแต่ละ health.5,6 มันมีข้อมูลสุขภาพออนไลน์
และการให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ รูปแบบที่แตกต่างกัน
รวมทั้งข้อมูลด้านสุขภาพขึ้นอยู่กับข้อความอีเมลแชท
ห้องและบุคคล listservs.7 สามารถใช้เว็บในการเข้าถึง
ข้อมูลและการสนับสนุนใน demand.8,9 นอกจากนี้ยังสามารถ
ยังเป็นสื่อกลางในการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้ป่วยหรือสุขภาพ มืออาชีพ
ที่ให้การสนับสนุนกับสุขภาพ concerns.10,11 อื่น ๆ
ข้อดีของอินเทอร์เน็ตรวมทั้งความเป็นไปได้ของการได้รับ
ข้อมูลสุขภาพสะดวกในการตัดสินใจที่ดีขึ้น
เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการแพทย์, การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและเลือกสุขภาพ providers.4,12
พงศาวดาร การศึกษาระดับอุดมศึกษาปูม 2003-413
รายงานว่าเกือบ 15,312,000 นักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนในวิทยาลัย
และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ วัตถุประสงค์สุขภาพแห่งชาติ
จากสุขภาพวิทยาเขต 201,014 เน้นถึงความจำเป็นสำหรับ
การศึกษาด้านสุขภาพในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะ
วัตถุประสงค์คือการเพิ่มสัดส่วนของวิทยาลัยและ
นักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ได้รับข้อมูลจากสถาบันของพวกเขา
ในแต่ละ 6 พฤติกรรมเสี่ยงสุขภาพความสำคัญ
พื้นที่รวมทั้งการบาดเจ็บ; ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย
ใช้; พฤติกรรมทางเพศ รูปแบบการบริโภคอาหาร; และไม่เพียงพอ
การออกกำลังกาย ถึงแม้ว่าเราจะรับรู้ศักยภาพในการ
ใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้นในการส่งมอบความรู้ด้านสุขภาพ
ในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเราได้พบข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการใช้นักศึกษา 'ของอินเทอร์เน็ตสำหรับตำแหน่ง
ข้อมูลด้านสุขภาพ ในการศึกษานี้เราตรวจสอบนักศึกษา '
การใช้งานอินเทอร์เน็ต, พฤติกรรมสุขภาพที่กำลังมองหาในอินเทอร์เน็ต
และทัศนคติที่มีต่อการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสุขภาพ
ข้อมูล นอกจากนี้เรายังตรวจสอบความแตกต่างในการใช้อินเทอร์เน็ต
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพโดยเพศระดับในวิทยาลัยเชื้อชาติ
กลุ่มและระดับของประสบการณ์อินเทอร์เน็ต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ส่วนใหญ่ของนักเรียนวิทยาลัย
ใช้อินเทอร์เน็ต ในการสำรวจ 1302 นักศึกษา
ที่ 8 สถาบัน anderson2 พบว่า 83% พบ
ที่พวกเขาใช้อินเทอร์เน็ต ในรายงานของเขา อินเทอร์เน็ตไป
วิทยาลัย jones3 พบว่า 86% ของ 2501 นักศึกษา
ได้ไปออนไลน์ ของพวกเขาบ่อยที่สุด
รายงานออนไลน์กิจกรรมการสื่อสารถูกอี ( 62% ) และการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที
( 29% ) ห้าเปอร์เซ็นต์หรือน้อยกว่าของนักศึกษาวิทยาลัย
ใช้บอร์ด , เว็บห้องแชทและกลุ่มข่าว .
อินเทอร์เน็ตให้ปริมาณของข้อมูลสุขภาพ
education4 สุขภาพผู้บริโภคและมีศักยภาพสำหรับ
การปรับปรุงสุขภาพบุคคล . 5 , 6 มันมี
ข้อมูลสุขภาพออนไลน์และบริการจัดส่งผ่านรูปแบบที่แตกต่างกันต่างๆ
ข้อมูลสุขภาพรวมทั้งข้อความ , อีเมล , การแชท
บุหรี่ และ listservs 7 บุคคลสามารถใช้เว็บเข้าถึง
ข้อมูลและการสนับสนุนตามความต้องการ 8,9 นอกจากนี้ยัง
ยังไกล่เกลี่ยปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยหรือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
สำหรับการสนับสนุนที่มีประโยชน์อื่น ๆเกี่ยวกับสุขภาพ 10,11
ของอินเทอร์เน็ตรวมถึงความเป็นไปได้ของการได้รับ
ข้อมูลด้านสุขภาพ สะดวกที่จะทำให้การตัดสินใจได้ดี
เกี่ยวกับสุขภาพและการรักษาพยาบาล มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
ผ่านอินเตอร์เน็ต และการเลือกผู้ให้บริการสุขภาพ 4,12
Chronicle ปูมอุดมศึกษา 2003 – 413
รายงานว่า เกือบ 15312000 นักศึกษาจะลงทะเบียนเรียนในวิทยาลัย
และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อสุขภาพสุขภาพแห่งชาติ
จากวิทยาเขต 201014 เน้นความต้องการ
สุขศึกษาในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย โดย
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มสัดส่วนของวิทยาลัย และมหาวิทยาลัย นักเรียนที่ได้รับข้อมูลจาก

ในสถาบันของตนใน 6 อันดับแรกพฤติกรรม
ความเสี่ยงสุขภาพพื้นที่ รวมทั้งการบาดเจ็บ ; ยาสูบ ; เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้ยา
ผิดกฎหมาย พฤติกรรมทางเพศ รูปแบบผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ

แม้ว่าเราจะรู้จักศักยภาพสำหรับ
ใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้นในการสุขศึกษา
ในวิทยาลัยและวิทยาเขต เราได้พบข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับนักศึกษาวิทยาลัยการใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับการค้นหา
ข้อมูลสุขภาพ ในการศึกษาครั้งนี้ได้ทดสอบนักศึกษาวิทยาลัย
อินเทอร์เน็ตใช้ พฤติกรรมการแสวงหาบนอินเทอร์เน็ต
และทัศนคติในการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสุขภาพ
ข้อมูล นอกจากนี้เรายังตรวจสอบความแตกต่างใน
ใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับข้อมูลสุขภาพตามเพศ ระดับมหาวิทยาลัย กลุ่มเชื้อชาติ
, และระดับของประสบการณ์อินเทอร์เน็ต