The research method adopted for thi

The research method adopted for this study is concept mapping (Kane & Trochim, 2007; Trochim,
1989). Concept mapping is a process that incorporates a range of group activities (e.g. participatory
brainstorming, unstructured idea sorting and rating tasks) which are analysed to produce visual
concept maps (Kane & Trochim, 2007). The resulting concept maps show how ideas are organised
into conceptual clusters, interrelationships among the concepts and the relative importance among the
conceptual clusters. Concept mapping has been applied in Page, Wilson and Kolb’s (1994) study on
managerial competencies as well as a number of organisational studies (e.g., Burchell & Kolb, 2003;
Legget, 2009). A meta-analysis of 33 concept mapping research projects conducted by Trochim
(1993) found that concept mapping is a reliable method according to generally-recognised standards
for acceptable reliability levels. Concept mapping is therefore chosen for this study as it provides a
means to measure the interrelationships between HR competency concepts and compare the perceived
importance of HR competency groupings between strategic and functional HR practitioners. The
concepts mapping process adopted for this study involves five steps which are outlined in Figure 1:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการวิจัยที่นำมาใช้ในการศึกษานี้เป็นแนวคิดการแม็ป (เคนและ Trochim, 2007 Trochim1989) . แนวคิดการแม็ปเป็นกระบวนการที่หลากหลาย (เช่นมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่มคิดระดม ไม่มีโครงสร้างการเรียงลำดับ และการจัดอันดับงาน) ซึ่ง analysed เพื่อสร้างภาพแนวความคิดแผนผัง (เคนและ Trochim, 2007) แผนผังแนวคิดผลลัพธ์แสดงวิธีจัดความคิดเป็นแนวคิดคลัสเตอร์ interrelationships ระหว่างแนวความคิดและความสำคัญในการกลุ่มแนวคิด แนวคิดการแม็ปได้ถูกนำไปใช้ในหน้า Wilson และของ Kolb (1994) ศึกษาในความสามารถบริหารจัดการรวมจำนวน organisational ศึกษา (เช่น Burchell และ Kolb, 2003Legget, 2009) Meta-analysis ของ 33 แผนที่แนวคิดวิจัยโดย Trochim(1993) พบว่าการแม็ปแนวคิดวิธีการเชื่อถือได้ตามมาตรฐานโดยทั่วไปยังระดับความน่าเชื่อถือยอมรับ แนวคิดการแม็ปดังนั้นเลือกศึกษามีการหมาย ถึงวัด interrelationships ระหว่างแนวคิดสมรรถนะ HR และเปรียบเทียบการรับรู้ความสำคัญของการจัดกลุ่มความสามารถชั่วโมงระหว่างกลยุทธ์ และงาน HR ผู้ ที่การแม็ปการนำมาใช้สำหรับการศึกษานี้เกี่ยวข้องกับห้าขั้นตอนที่ระบุไว้ในรูปที่ 1: แนวคิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการวิจัยนำมาใช้สำหรับการศึกษาครั้งนี้คือการทำแผนที่แนวคิด (Kane & Trochim 2007; Trochim,
1989) การทำแผนที่คอนเซ็ปต์เป็นกระบวนการที่ประกอบด้วยช่วงของกิจกรรมกลุ่ม
(เช่นมีส่วนร่วมในการระดมความคิดความคิดที่ไม่มีโครงสร้างการเรียงลำดับและงานคะแนน) ซึ่งมีการวิเคราะห์ในการผลิตภาพแผนที่ความคิด (Kane & Trochim 2007)
แผนที่แนวคิดที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าความคิดที่ถูกจัดเข้ากลุ่มแนวคิดความสัมพันธ์ในหมู่แนวคิดและความสำคัญในหมู่กลุ่มความคิด การทำแผนที่แนวความคิดที่ได้รับนำไปใช้ในหน้าวิลสันและคอล์บ (1994) การศึกษาเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารจัดการเช่นเดียวกับจำนวนของการศึกษาขององค์กร(เช่น Burchell & คอล์บ 2003; Legget 2009) meta-analysis 33 แนวคิดโครงการวิจัยการทำแผนที่ที่จัดทำโดย Trochim (1993) พบว่าการทำแผนที่แนวคิดวิธีการที่เชื่อถือตามมาตรฐานโดยทั่วไปได้รับการยอมรับในระดับความน่าเชื่อถือที่ยอมรับได้ การทำแผนที่แนวความคิดที่ถูกเลือกดังนั้นการศึกษานี้มันมีวิธีการในการวัดความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดสมรรถนะการบริหารทรัพยากรบุคคลและเปรียบเทียบการรับรู้ถึงความสำคัญของการจัดกลุ่มความสามารถทรัพยากรบุคคลระหว่างผู้ปฏิบัติงานบริหารทรัพยากรบุคคลเชิงกลยุทธ์และการทำงาน กระบวนการทำแผนที่แนวความคิดที่นำมาใช้สำหรับการศึกษาครั้งนี้เกี่ยวข้องกับห้าขั้นตอนที่มีการระบุไว้ในรูปที่ 1:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการวิจัยใช้ในการศึกษานี้คือ แผนที่ความคิด ( เคน& trochim , 2007 ; trochim
, 1989 ) แผนที่ความคิด คือ กระบวนการที่ประกอบด้วยช่วงของกิจกรรมกลุ่ม ( เช่นการมีส่วนร่วม
การระดมสมอง ไม่มีความคิด การเรียงลำดับ และการจัดอันดับ ) ซึ่งใช้เพื่อผลิตแผนที่แนวคิดภาพ
( เคน& trochim , 2007 ) ส่งผลให้แนวคิดแผนที่แสดงให้เห็นว่าความคิดจัด
เป็นแนวคิดของกลุ่ม ความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดและความสำคัญของญาติ
กลุ่มครั้งนี้ แผนที่ความคิดได้ถูกใช้ในหน้า วิลสัน และ คอล์บ ( 1994 ) การศึกษาสมรรถนะการจัดการ
รวมถึงหมายเลขขององค์กรการศึกษา ( เช่น เบอร์เชลล์&โกล์บ , 2003 ;
เลกเกตต์ , 2009 ) การวิเคราะห์มโนทัศน์ 33 โครงการวิจัยที่ดำเนินการ โดย trochim
( 2536 ) พบว่า แผนผังมโนทัศน์ เป็นวิธีการที่น่าเชื่อถือตามมาตรฐานที่ยอมรับโดยทั่วไป
ระดับความน่าเชื่อถือที่ยอมรับได้ แผนที่ความคิดจึงเลือกเรียนนี้มันให้เป็น
หมายถึงวัดความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลความสามารถแนวคิด และเปรียบเทียบการรับรู้ความสำคัญของการจัดกลุ่มสมรรถนะ HR
ระหว่างยุทธศาสตร์และการทำงาน HR ผู้ปฏิบัติงาน .
การทำแผนที่แนวคิดประกาศใช้การศึกษานี้เกี่ยวข้องกับห้าขั้นตอนที่อธิบายไว้ในรูปที่ 1 :