NACC not hopeful of resolution with

NACC not hopeful of resolution with prosecutors in Yingluck case


Sansern rules out conducting more probe in rice-pledging case against ex-PM

National Anti-Corruption Commission secretary-general Sansern Poljieak has said the Office of the Attorney-General and the anti-graft agency are unlikely to jointly resolve the case involving the rice-pledging scheme against ex-prime minister Yingluck Shinawatra.

Sansern yesterday insisted the NACC would not investigate more people in the case after he said the Office asked it to spend more time probing the alleged government-to-government rice sales.

He was responding to a reaction from the Office's litigation department director-general Surasak Trirattrakul, calling on the NACC to plug the holes in the case by interviewing more witnesses.

Surasak said the Office wanted to see more evidence because the NACC report showed discrepancies in witness testimonies, which made it unclear as to whether the government-to-government rice sales took place.

Sansern said that would not happen because that investigation element was not related to the charge the NACC had filed against Yingluck.

He said the NACC report did not include this issue in the Yingluck case but included it in another graft case, against former Commerce Minister Boonsong Teriyapirom and former Deputy Commerce Minister Poom Sarapol over the scrapped rice-pledging scheme.

He said the NACC had accused Yingluck of dereliction of duty for failing to stop corruption and massive losses in the scheme.

In October, the Finance Ministry reported that the estimated losses in the scheme were between Bt600-700 billion.

Sansern said the NACC would meet tomorrow to decide its next move.

He said it was not clear if the Office would indict Yingluck as recommended by the NACC but there was a high probability that both agencies would be unable to resolve the case together.

Whether she would be indicted or not would be announced when the agencies hold their last joint meeting, which was yet to be scheduled.

The state prosecution agency said it would not be able to complete the investigation this year.

According to due process, if both agencies disagree with the indictment decision in any case, they have to make that known officially.

If that happens in this case, the NACC would be able to directly file the case in the Supreme Court's Criminal Division for Political Office Holders Court. It had previously stated it was prepared to do so.

The anti-graft agency and the public prosecutors failed for a third time in November to reach an agreement on whether a criminal case should be filed against Yingluck. That prompted speculation that the NACC might take the case to court on its own.

An NACC source said that if the Office continued to refuse to file a criminal case against Yingluck, it was likely the anti-graft agency would go down that route.

It has previously taken criminal cases against political-office holders to court without the state prosecutor's consent, including the one against Yingluck's older brother, former PM Thaksin Shinawatra.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ป.ป.ช.ไม่หวังความละเอียดกับพนักงานอัยการในกรณียิ่งลักษณ์ชาติสุวรรณอัครกฎออกดำเนินการโพรบเพิ่มเติมในกรณีที่สัญญาจำนำข้าวกับ ex PMเลขาธิการคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติชาติสุวรรณอัคร Poljieak ได้กล่าวว่า สำนักให้อัยการ และหน่วยงานที่รับสินบนต่อต้านไม่น่าจะร่วมกันแก้ไขกรณีและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการจำนำกับ ex-นายกรัฐมนตรี Yingluck ชินวัตร วันนี้ชาติสุวรรณอัครยืนยันว่า ป.ป.ช.จะตรวจสอบคนในกรณีหลังจากที่เขากล่าวว่า สำนักงานขอให้ใช้เวลามากขึ้นละเอียดขายข้าวรัฐบาลเพื่อรัฐบาลที่ถูกกล่าวหา เขาตอบสนองต่อปฏิกิริยาจาก Office การดำเนินคดีกรมอธิบดีสุรศักดิ์ Trirattrakul เรียกป.ป.ช.เพื่อต่อหลุมในกรณี โดยการสัมภาษณ์พยานเพิ่มเติม สุรศักดิ์กล่าวว่า สำนักงานที่ต้องการเห็นหลักฐานเพิ่มเติม เพราะรายงานป.ป.ช.พบว่าความขัดแย้งในพยานพยาน ซึ่งทำให้มันชัดเจนว่าว่าขายข้าวรัฐบาลเพื่อรัฐบาลที่เกิดขึ้น ชาติสุวรรณอัครกล่าวที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากองค์ประกอบที่ตรวจสอบถูกไม่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมที่ป.ป.ช.ได้ยื่นกับยิ่งลักษณ์ เขากล่าวว่า รายงานของป.ป.ช.จึงไม่มีปัญหานี้ในกรณียิ่งลักษณ์ แต่รวมในกรณีรับสินบนอีก อดีต Teriyapirom บุญส่งกระทรวงพาณิชย์และอดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ว่าผ่านการเสียจำนำ เขากล่าวว่า ป.ป.ช.ได้กล่าวหาว่า Yingluck ของแข็งกร้าวการหยุดความเสียหายและสูญเสียขนาดใหญ่ในโครงการ ในเดือนตุลาคม กระทรวงการคลังรายงานว่า การสูญเสียที่ประเมินในโครงการที่ระหว่าง Bt600-700 พันล้าน ชาติสุวรรณอัครกล่าวว่า ป.ป.ช.จะไปรับพรุ่งนี้จะตัดสินใจย้ายไป เขากล่าวว่า ไม่ชัดเจนหากสำนักงานจะ indict Yingluck แนะนำ โดยป.ป.ช. แต่มีโอกาสสูงว่า หน่วยงานทั้งสองจะไม่สามารถแก้ไขกรณีและปัญหาร่วมกัน ไม่ว่าเธอจะที่ใด หรือไม่จะประกาศเมื่อหน่วยงานที่เก็บไว้ของพวกเขาร่วมกันประชุมครั้ง ซึ่งเป็นการจัดกำหนดการ หน่วยงานของรัฐฟ้องร้องกล่าวว่า มันจะไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบปีนี้ ตามกระบวนการ หน่วยงานทั้งสองไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจปฏิเสธในกรณีใด ๆ พวกเขาได้ที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ในกรณีที่ในกรณีนี้ ป.ป.ช.จะสามารถโดยตรงไฟล์กรณีในแผนกคดีอาญาของศาลฎีกาสำหรับศาลการเมืองผู้ ก่อนหน้านี้ก็ได้กล่าวก็จัดทำได้ หน่วยงานต่อต้านการรับสินบนและให้พนักงานอัยการไม่เป็นเวลาที่สามในเดือนพฤศจิกายนไปถึงข้อตกลงในการว่าความคดีอาญาควรยื่นกับยิ่งลักษณ์ ที่พร้อมท์การเก็งกำไรที่ป.ป.ช.อาจใช้กรณีไปยังศาลในตัวเอง แหล่งมาของป.ป.ช.กล่าวว่า ถ้าสำนักงานยังคงปฏิเสธที่จะไฟล์อาญากับ Yingluck ก็มีโอกาสหน่วยงานที่รับสินบนต่อต้านจะไปลง มันก่อนหน้านี้ได้ดำเนินคดีอาชญากรรมกับการเมืองผู้การศาลโดยปราศจากความยินยอมของรัฐอัยการ เช่นเดียวกับพี่ชายของยิ่งลักษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตรอดีต PM

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปปชไม่ได้มีความหวังของการแก้ปัญหากับอัยการในกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์สรรเสริญออกกฎการดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมในกรณีข้าวให้คำมั่นกับ EX-PM แห่งชาติต่อต้านการทุจริตคณะกรรมการเลขาธิการสรรเสริญ Poljieak ได้กล่าวว่าสำนักงานอัยการสูงสุดและหน่วยงานต่อต้านการรับสินบน ไม่น่าจะร่วมกันแก้ปัญหากรณีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวกับอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ชินวัตร. สรรเสริญเมื่อวานนี้ยืนยัน ป.ป.ช. จะไม่ตรวจสอบผู้คนมากขึ้นในกรณีที่หลังจากที่เขากล่าวว่าสำนักงานขอให้ใช้เวลามากขึ้นละเอียดที่รัฐบาลกล่าวหา เพื่อรัฐบาลขายข้าว. เขาได้รับการตอบสนองต่อการเกิดปฏิกิริยาจากสำนักงานกรมดำเนินคดีอธิบดีสุรศักดิ์ Trirattrakul ที่เรียกร้องให้ ป.ป.ช. ที่จะเสียบหลุมในกรณีที่โดยการสัมภาษณ์พยานเพิ่มเติม. สุรศักดิ์กล่าวว่าสำนักงานอยากจะเห็นหลักฐานมากขึ้นเพราะ รายงาน ป.ป.ช. แสดงให้เห็นความแตกต่างในพยานซึ่งทำให้มันชัดเจนเป็นไปได้ว่าการขายข้าวรัฐบาลต่อรัฐบาลที่เกิดขึ้น. สรรเสริญกล่าวว่าจะไม่เกิดขึ้นเพราะองค์ประกอบการสืบสวนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายที่ ป.ป.ช. ได้ฟ้องยิ่งลักษณ์. เขา กล่าวรายงาน ป.ป.ช. ไม่ได้รวมถึงปัญหานี้ในกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ แต่รวมถึงในกรณีการรับสินบนอีกกับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บุญทรงเตริยาภิรมย์และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ภูมิ Sarapol กว่าโครงการข้าวจำนำไนต์. เขากล่าวว่า ป.ป.ช. กล่าวหาว่านางสาวยิ่งลักษณ์ของ ทอดทิ้งหน้าที่สำหรับความล้มเหลวที่จะหยุดการทุจริตและการสูญเสียมากในโครงการ. ในเดือนตุลาคมกระทรวงการคลังรายงานว่าผลขาดทุนโดยประมาณในโครงการอยู่ระหว่าง Bt600-700 พันล้าน. สรรเสริญกล่าวว่า ป.ป.ช. จะตอบสนองในวันพรุ่งนี้ที่จะตัดสินใจย้ายต่อไป. เขา บอกว่ามันเป็นไม่ชัดเจนว่าสำนักงานจะดำเนินคดีกับนางสาวยิ่งลักษณ์ตามคำแนะนำของ ป.ป.ช. แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองหน่วยงานจะไม่สามารถที่จะแก้ปัญหากรณีด้วยกัน. ไม่ว่าเธอจะมีความผิดหรือไม่จะมีการประกาศเมื่อหน่วยงานที่ค้างไว้สุดท้ายของพวกเขา การประชุมร่วมกันซึ่งยังไม่ได้กำหนดไว้. หน่วยงานการฟ้องร้องรัฐกล่าวว่ามันจะไม่สามารถที่จะดำเนินการตรวจสอบในปีนี้. ตามที่กำหนดขั้นตอนหากหน่วยงานทั้งสองไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจฟ้องในกรณีใด ๆ พวกเขาจะต้องทำให้เป็นที่รู้จัก อย่างเป็นทางการ. หากที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ ป.ป.ช. จะสามารถยื่นโดยตรงในกรณีที่แผนกคดีอาญาของศาลฎีกาสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองศาล มันได้ระบุไว้ก่อนหน้ามันก็พร้อมที่จะทำเช่นนั้น. หน่วยงานต่อต้านการรับสินบนและอัยการล้มเหลวเป็นครั้งที่สามในเดือนพฤศจิกายนที่จะบรรลุข้อตกลงกับว่าคดีอาญาควรจะฟ้องยิ่งลักษณ์ ที่ได้รับแจ้งการเก็งกำไรว่า ป.ป.ช. อาจใช้เวลาคดีขึ้นสู่ศาลในตัวเอง. แหล่ง ป.ป.ช. กล่าวว่าหากสำนักงานยังคงปฏิเสธที่จะยื่นคดีอาญากับยิ่งลักษณ์มันก็น่าจะเป็นหน่วยงานต่อต้านการรับสินบนจะไปลงที่เส้นทาง. มัน ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้คดีอาญากับผู้ถือการเมืองสำนักงานไปยังศาลโดยปราศจากความยินยอมอัยการของรัฐรวมทั้งคนหนึ่งกับพี่ชายของนางสาวยิ่งลักษณ์ของอดีตนายกฯ ทักษิณชินวัตร