(posterior margin without indentati

(posterior margin without indentation), ventral
end nearly circular (without anterior spine or
projection); caudal-fin rays without internal pigmentation;
illicium short, nearly completely enveloped
by escal bulb (esca nearly sessile on
snout) to about three times length of escal bulb
in largest known specimens; pterygiophore of
illicium emerging on snout from between frontal
bones, anterior end exposed (especially in
larger specimens), posterior end concealed beneath
skin; first ray of dorsal fin well developed;
dorsal-fin rays usually 5 (6 in two of smallest
known specimens, 10.8–11.8 mm; see Bertelsen
and Pietsch, 1977:181, table 2); anal-fin rays 5;
pectoral-fin lobe short and broad, shorter than
longest rays of pectoral fin; pectoral-fin rays 19–
24 (Table 1); skin naked, without dermal spinules;
darkly pigmented skin of caudal peduncle
extending well past base of caudal fin (diagnosis
based primarily on eight females, 52–
132 mm).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ด้านหน้า (ด้านหลังขอบ โดยไม่มีการเยื้อง),สิ้นสุดที่เกือบเป็นวงกลม (ไม่ มีกระดูกสันหลังที่ด้านหน้า หรือฉายภาพ); -จางรังสีไม่ มีเม็ดสีภายในillicium สั้น เกือบสมบูรณ์ห่อหุ้มโดยหลอด escal (esca เกือบนั่งบนจมูก) ยาวประมาณ 3 เท่าของหลอด escalในชิ้นงานทดสอบที่ใหญ่ที่สุดรู้จัก pterygiophore ของillicium ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับจมูกระหว่างหน้าผากกระดูก สัมผัสด้านหน้าสิ้นสุด (โดยเฉพาะในชิ้นงานขนาดใหญ่), หลังสิ้นภายใต้ผิว พัฒนาครีบแรกแสงดีครีบหลังรังสีปกติ 5 (6 ในสองน้อยที่สุดตัวอย่างที่รู้จัก 10.8 – 11.8 มม. ดู Bertelsenและ Pietsch, 1977:181 ตารางที่ 2); ครีบก้นรังสี 5-ครีบกลีบสั้น และกว้าง สั้นกว่ารังสีที่ยาวที่สุดของครีบ -ครีบรังสี 19 –24 (ตาราง 1); เปล่า ไม่แท้ spinules ผิวผิวสีเข้มของโคนขยายฐานของไหล่ (วินิจฉัยที่ผ่านมาด้วยตามหลักแปดหญิง 52-132 มม)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

(อัตรากำไรหลังโดยไม่ต้องเยื้อง) ท้อง
สิ้นสุดเกือบกลม (ไม่มีกระดูกสันหลังหน้าหรือ
ฉาย); รังสีหางครีบโดยไม่คล้ำภายใน
Illicium สั้นเกือบห่อหุ้มอย่างสมบูรณ์
โดยหลอด Escal (Esca เกือบนั่งบน
จมูก) ไปประมาณสามเท่าของความยาวของหลอดไฟ Escal
ในตัวอย่างที่รู้จักกันที่ใหญ่ที่สุด; pterygiophore ของ
Illicium ที่เกิดขึ้นใหม่ในระหว่างจมูกจากหน้าผาก
กระดูกปลายหน้าสัมผัส (โดยเฉพาะใน
ชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่) หลังจบการปกปิดใต้
ผิวหนัง เรย์แรกของครีบหลังการพัฒนาดี;
รังสีหลังครีบมัก 5 (6 ในสองของที่เล็กที่สุด
ตัวอย่างที่รู้จักกัน 10.8-11.8 มมดู Bertelsen
และ Pietsch 1977: 181, ตารางที่ 2); รังสีทวารครีบ 5;
ครีบอกครีบกลีบสั้นและกว้าง
สั้นกว่า รังสีที่ยาวที่สุดของครีบอกครีบ; รังสีทรวงอกครีบ 19-
24 (ตารางที่ 1); ผิวเปลือยเปล่าโดยไม่ต้อง spinules ผิวหนัง;
เม็ดสีผิวเข้มของคอดหาง
ขยายฐานผ่านมากันดีของครีบหาง (วินิจฉัย
บนพื้นฐานของเพศหญิงแปด 52
132 มิลลิเมตร)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

( ด้านหลังไม่มีรอยขอบ ) , พบจบเกือบเป็นวงกลม ( ด้านหน้ากระดูกสันหลังหรือการฉายรังสี ) ; ครีบหางไม่มีสีภายในillicium สั้นเกือบห่อหุ้มอย่างสมบูรณ์โดย escal หลอดไฟ ( เอสคาร์เกือบจะเกาะติดบนพวย ) ไปประมาณสามครั้งความยาวของ escal หลอดไฟที่ใหญ่ที่สุดที่รู้จักกัน pterygiophore ตัวอย่าง ; ของillicium ที่เกิดขึ้นบนหน้าผากจมูกจากระหว่างกระดูกบริเวณปลายสัมผัส ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวอย่างขนาดใหญ่ด้านหลังจบซ่อนอยู่ใต้ )ผิวหนัง รังสีแรกของครีบหลังพัฒนาดีกระโดงรังสีมักจะ 5 6 2 เล็กตัวอย่างที่รู้จักกัน , 10.8 – 11.8 มม. ; ดู เบเตลเซนและ เพียต ช 1977:181 , ตาราง , 2 ) ; ครีบทวารหนัก rays 5 ;ขาม้ากลีบสั้นและกว้างน้อยกว่ารังสีที่ยาวที่สุดของขาม้า ; ขาม้ารังสี 19 จำกัด24 ( ตารางที่ 1 ) ; ผิวหนัง โดยเนื้อ spinules ;ของ caudal peduncle ผิวสีมืด ๆขยายผ่านฐานของครีบหาง ( การวินิจฉัยตามหลักแปดหญิง 52 –132 มม. )