Coming on the heels of high-profile

Coming on the heels of high-profile arrests linked directly to Facebook posts, the Interior Ministry has revealed plans to establish a new “anti-cybercrime” department that will not only “crack down” on crimes like hacking, but a broad range of misdeeds open to interpretation including incitement and insulting or racist language.

Working with other branches of government as well as private service providers, the new department will “gather and analyse” telecommunications data to discover online crime and national security threats, according to a sub-decree signed on August 19 and revealed yesterday.

“This department will cooperate with all the involved institutions in order to intercept online crime, because if the crime is not halted, it will put society in danger,” National Police spokesman Kirt Chantharith said, adding that a director and deputy director had yet to be selected for the “long planned” department.

However, after recent arrests linked to social media posts, human rights groups and the opposition yesterday doubted the government’s intentions, calling the department another weapon to stifle dissent among Cambodia’s booming online community.

“I’m afraid this is a systematic crackdown on opinion,” Cambodia National Rescue Party spokesman Yim Sovann said.

“You can see the crackdown on NGOs; they arrest the CRNP activists and leaders, and now they set up a team to crack down on the internet, on Facebook.”

In December last year, the government seemingly pulled the plug on a “cybercrime” bill, first revealed in the Post, in the face of fierce criticism.

The Council of Ministers, however, has since established a “Cyber War Team” to monitor online activity and maintain the prestige of the Cambodian government.

Despite its name, government spokesman Phay Siphan said it was more like a media monitor, checking “open source" information to “evaluate the news”.

But Interior Ministry spokesman General Khieu Sopheak said that, in contrast to the Cyber War Team, the new department’s staff of judicial police will be fully empowered to investigate and compel cooperation.

He added: “This team also has the right to crack down on the crimes.”

On August 15, Sam Rainsy Party Senator Hong Sok Hour was arrested by armed police after posting to Facebook a “fake” version of a 1979 border treaty between Cambodia and Vietnam.

Less than two weeks later, university student Kong Raiya was detained after allegedly calling for a “colour revolution” on the social media network.

Following the arrests, young bloggers said that they had increasingly felt forced to self-censor for fear of a government backlash.

Cambodian Centre for Independent Media executive director Pa Nguon Teang said that the cases showed the government didn’t need a cybercrime bill to intimidate Cambodia’s internet users.

Teang called the plan “highly troubling”, saying authorities were dedicating a significant amount of resources to policing the web.

“This becomes very concerning given the seeming overlap between these efforts by the Ministry of Information, the activities of the Cyber War Team announced last year, and the duties of the Ministry of Post and Telecommunications,” Teang said.

“Without a clear legal framework establishing accountability lines and clearly outlining the warrants or court orders required to obtain users’ records, no one’s communications are secure.”

It was not immediately clear how the government might go about compelling internet service providers to provide information.

Am Sam Ath, a senior investigator with Cambodian rights group Licadho, said it appeared the government was paving the way to finally introduce its cybercrime law.

“This clearly shows that the government intends to control and restrict those who wish to criticise the current government, as many Cambodians dare to criticise the government through social networks, especially Facebook,” Sam Ath said.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาของการจับกุมสูงโปรไฟล์เชื่อมโยงโดยตรงกับ Facebook โพสต์ กระทรวงมหาดไทยได้เปิดเผยแผนสร้าง "cybercrime ต้าน" แผนกใหม่ที่จะไม่เพียงแต่ "พวก" ในอาชญากรรมเช่นการแฮ็ค แต่ไถ่บาปที่หลากหลายเปิดตีความรวมทั้งการส่งเสริมและภาษาที่ดูหมิ่น หรือเหยียดสีผิวทำงานกับสาขาอื่น ๆ ของรัฐบาลเป็นผู้ให้บริการส่วนตัว แผนกใหม่จะ "รวบรวม และวิเคราะห์" ข้อมูลโทรคมนาคมเยือนอาชญากรรมออนไลน์และการคุกคามความปลอดภัยแห่งชาติ ตามกฤษฎีกาย่อยลงนามวันที่ 19 สิงหาคม และเปิดเผยเมื่อวานนี้"แผนกนี้จะร่วมมือกับสถาบันที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อดักอาชญากรรมออนไลน์ เนื่องจากถ้าไม่มีหยุด อาชญากรรมก็จะนำสังคมตกอยู่ในอันตราย ตำรวจแห่งชาติโฆษก Kirt Chantharith กล่าวว่า เพิ่มว่า กรรมการและรองกรรมการผู้ยังไม่ได้มีการเลือกแผนก"แผนระยะยาว"อย่างไรก็ตาม หลังจากจับกุมล่าสุดกับสังคมโพสต์ กลุ่มสิทธิมนุษยชนและฝ่ายค้านเมื่อวาน doubted ความตั้งใจของรัฐบาล เรียกแผนกอาวุธอื่นเพื่อยับยั้งการสร้าง dissent ระหว่างชุมชนออนไลน์ที่เฟื่องฟูของกัมพูชา"ฉันกลัวนี่คือปราบปรามระบบในความคิด โฆษกพรรคกู้ภัยแห่งชาติกัมพูชากล่าวว่า Sovann ยิ้ม"คุณสามารถดูการปราบปรามในองค์กรพัฒนาเอกชน พวกเขาจับกุม CRNP นักเคลื่อนไหวและผู้นำ และพวกเขาตั้งค่าทีมงานการถอดรหัสลงบนอินเทอร์เน็ต ใน Facebook"ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว รัฐบาลดูเหมือนดึงปลั๊กที่สำหรับ "cybercrime" เปิดเผยครั้งแรก ในการลงรายการบัญชี หน้าวิจารณ์รุนแรงคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม มีตั้งแต่การก่อตั้ง "ไซเบอร์สงครามทีม" เพื่อตรวจสอบกิจกรรมออนไลน์ และรักษาศักดิ์ศรีของรัฐบาลกัมพูชาแม้ มีชื่อ โฆษกรัฐบาล Phay Siphan กล่าวว่า มันเป็นเหมือนจอภาพสื่อ การตรวจสอบข้อมูล "เปิดแหล่งข้อมูล" ไป "ข่าว"แต่โฆษกกระทรวงมหาดไทยทั่วไป Khieu Sopheak กล่าวว่า ตรงข้ามทีมสงครามไซเบอร์ พนักงานของแผนกใหม่ของตำรวจที่ยุติธรรมจะมีอำนาจ และกดดันความร่วมมือเขาเพิ่ม: "ทีมนี้ยังได้สิทธิในการถอดรหัสลงในอาชญากรรม"บน 15 สิงหาคม Sam สวีพรรคสมรังสี Hong สกชั่วโมงถูกจับ โดยตำรวจติดอาวุธหลังจากลง Facebook เวอร์ชัน "ปลอม" ของสนธิสัญญาปีค.ศ. 1979 ขอบระหว่างกัมพูชาและเวียดนามน้อยกว่า 2 สัปดาห์ เรียนมหาวิทยาลัยอินเตอร์เนชั่นแนล Raiya ถูกกักตัวหลังหลังเรียก "ปฏิวัติสี" บนเครือข่ายสังคมหลังจับกุม บล็อกเกอร์หนุ่มกล่าวว่า พวกเขาได้มากขึ้นรู้สึกบังคับ censor for fear of แบคแลชเป็นรัฐบาลตนเองศูนย์สื่ออิสระกรรมการป่า Nguon Teang กล่าวว่า กรณีที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่ได้ต้องการสูตร cybercrime ข่มขู่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตของกัมพูชาTeang เรียกว่าแผน "ขอ troubling" เจ้าหน้าที่บอกว่ากำลัง dedicating จำนวนทรัพยากรที่สำคัญมากกว่าการรักษาเว็บ"กลายเป็น concerning มากให้เหลื่อมกัน seeming ระหว่างความพยายามเหล่านี้ ทางกระทรวงสารสนเทศ กิจกรรมของทีมสงครามไซเบอร์ที่ประกาศปีสุดท้าย หน้าที่ของกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม Teang กล่าว"ไม่ มีกฎหมายยกเลิกกรอบกำหนดความรับผิดชอบรายการ และเค้าร่างใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบสั่งศาลต้องรับระเบียนผู้ใช้อย่างชัดเจน ไม่สื่อสารได้ทาง"ไม่ล้างทันทีว่ารัฐบาลอาจไปเกี่ยวกับจับใจผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ข้อมูลน. Sam Ath นักสืบอาวุโส มีสิทธิ์กัมพูชากลุ่ม Licadho กล่าวปรากฏรัฐบาลถูกปูทางสุดท้าย แนะนำกฎหมายของ cybercrime"นี้ชัดเจนแสดงว่า รัฐบาลมีแผนการควบคุม และจำกัดคน criticise รัฐบาลปัจจุบัน เป็นชาวกัมพูชามากกล้าที่จะ criticise รัฐบาลผ่านเครือข่ายทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Facebook," Sam Ath กล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มาบนส้นเท้าของการจับกุมรายละเอียดสูงที่เชื่อมโยงโดยตรงกับการโพสต์ Facebook, กระทรวงมหาดไทยได้เปิดเผยแผนการที่จะสร้างใหม่ "ป้องกันอาชญากรรม" แผนกที่จะไม่เพียง แต่ "ปราบปราม" ในการก่ออาชญากรรมเช่นการลักลอบ แต่ความหลากหลายของพฤติกรรมที่ผิด เปิดให้มีการตีความรวมถึงการยั่วยุและภาษาดูถูกหรือชนชั้น. การทำงานกับสาขาอื่น ๆ ของรัฐบาลเช่นเดียวกับผู้ให้บริการเอกชนแผนกใหม่จะ "รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล" การสื่อสารโทรคมนาคมที่จะค้นพบอาชญากรรมออนไลน์และภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตามที่ย่อยพระราชกฤษฎีกา ลงนามเมื่อวันที่ 19 เดือนสิงหาคมและเปิดเผยเมื่อวานนี้. "แผนกนี้จะให้ความร่วมมือกับทุกสถาบันมีส่วนร่วมในการที่จะสกัดกั้นอาชญากรรมออนไลน์เพราะถ้าอาชญากรรมที่ไม่ได้หยุดก็จะทำให้สังคมตกอยู่ในอันตราย" ตำรวจแห่งชาติโฆษก Kirt Chantharith กล่าวเพิ่มว่า ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการได้ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "การวางแผนระยะยาว" แผนก. อย่างไรก็ตามหลังจากการจับกุมที่ผ่านมาเชื่อมโยงกับการโพสต์สื่อสังคมกลุ่มสิทธิมนุษยชนและเมื่อวานนี้ฝ่ายค้านสงสัยความตั้งใจของรัฐบาลที่เรียกแผนกอาวุธที่จะยับยั้งความขัดแย้งในหมู่ . กัมพูชาเฟื่องฟูชุมชนออนไลน์"ฉันกลัวนี้คือการปราบปรามอย่างเป็นระบบในความคิดของ" กัมพูชาพรรคกู้ภัยแห่งชาติโฆษก Yim Sovann กล่าวว่า. "คุณสามารถเห็นการปราบปรามองค์กรพัฒนาเอกชนนั้น พวกเขาจับกุมนักเคลื่อนไหว CRNP และผู้นำและตอนนี้พวกเขาตั้งทีมจะแตกลงในอินเทอร์เน็ตบน Facebook. "ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมารัฐบาลที่ดูเหมือนจะดึงปลั๊กใน" อาชญากรรม "บิลเปิดเผยเป็นครั้งแรกในโพสต์ ในหน้าของการวิจารณ์ที่รุนแรง. คณะรัฐมนตรี แต่ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เป็น "ทีมสงครามไซเบอร์" เพื่อตรวจสอบกิจกรรมออนไลน์และรักษาศักดิ์ศรีของรัฐบาลกัมพูชา. อย่างไรก็ตามชื่อของมันโฆษกรัฐบาลเพย์สีปานบอกว่ามันเป็นมากขึ้นเช่น การตรวจสอบสื่อตรวจสอบ "ที่มาเปิด" ข้อมูล "การประเมินการข่าว". แต่โฆษกกระทรวงมหาดไทยทั่วไป Khieu Sopheak กล่าวว่าในทางตรงกันข้ามกับทีมสงครามไซเบอร์เจ้าหน้าที่แผนกใหม่ของตำรวจพิจารณาคดีจะมีการเพิ่มขีดความสามารถอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบและบังคับให้ความร่วมมือ . เขาเพิ่ม: ". ทีมนี้ยังมีสิทธิที่จะปราบปรามการก่ออาชญากรรมที่" เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมพรรคสมรังสีวุฒิสมาชิกฮ่องกงสกชั่วโมงถูกจับโดยตำรวจติดอาวุธหลังจากโพสต์ไปที่ Facebook เป็น "ของปลอม" รุ่นของสนธิสัญญาชายแดน 1979 ระหว่าง กัมพูชาและเวียดนาม. น้อยกว่าสองสัปดาห์ต่อมานักศึกษามหาวิทยาลัยฮ่องกง Raiya ถูกกักตัวไว้หลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกร้องให้มี "การปฏิวัติสี" บนเครือข่ายสื่อสังคม. หลังจากการจับกุมบล็อกหนุ่มกล่าวว่าพวกเขาได้มากขึ้นรู้สึกว่าถูกบังคับให้ตรวจสอบด้วยตัวเองเพราะกลัว ของฟันเฟืองรัฐบาล. กัมพูชาศูนย์อำนวยการบริหารสื่ออิสระป่า Nguon Teang กล่าวว่ากรณีที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องมีการเรียกเก็บเงินอาชญากรรมที่จะข่มขู่กัมพูชาผู้ใช้อินเทอร์เน็ต. Teang เรียกว่าแผน "สูงหนักใจ" ว่าเจ้าหน้าที่ได้รับการทุ่มเทอย่างมีนัยสำคัญ ปริมาณของทรัพยากรที่จะรักษาเว็บ. "นี้กลายเป็นที่เกี่ยวโยงมากที่ได้รับการทับซ้อนที่เห็นระหว่างความพยายามเหล่านี้โดยกระทรวงสารสนเทศกิจกรรมของทีมสงครามไซเบอร์ประกาศเมื่อปีที่แล้วและหน้าที่ของกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมที่" Teang กล่าวว่า. "โดยไม่ต้องมีกรอบกฎหมายที่ชัดเจนการจัดตั้งสายการรับผิดชอบอย่างชัดเจนสรุปใบสำคัญแสดงสิทธิหรือคำสั่งศาลต้องได้รับการบันทึกของผู้ใช้ไม่มีการสื่อสารของคนที่มีความปลอดภัย." มันไม่ได้ทันทีชัดเจนว่ารัฐบาลอาจจะไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตที่น่าสนใจให้บริการเพื่อให้ ข้อมูล. Am Sam Ath, ผู้ตรวจสอบอาวุโสที่มีสิทธิกัมพูชากลุ่ม Licadho กล่าวว่ามันปรากฏรัฐบาลกำลังปูทางไปจนแนะนำกฎหมายอาชญากรรมของตน. "อย่างเห็นได้ชัดแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะควบคุมและ จำกัด ผู้ที่ต้องการที่จะวิพากษ์วิจารณ์ในปัจจุบัน รัฐบาลกัมพูชาเป็นจำนวนมากกล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลผ่านเครือข่ายสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Facebook "แซม Ath กล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาส้นเท้าของโด่งการจับกุมเชื่อมโยงโดยตรงกับการโพสต์ของ Facebook , กระทรวงมหาดไทยได้เปิดเผยแผนการที่จะสร้างใหม่ " ป้องกันอาชญากรรม " แผนกนั้นจะไม่เพียง แต่ " สู้ " ในความผิดชอบแฮค แต่ความหลากหลายของความผิดรวมทั้งเปิดให้ตีความ ยั่วยุ ดูถูก หรือ เหยียดเชื้อชาติภาษา

การทำงานกับสาขาอื่น ๆของรัฐบาล รวมทั้งผู้ให้บริการเอกชน แผนกใหม่จะรวบรวมและวิเคราะห์ " ข้อมูลโทรคมนาคมค้นพบอาชญากรรมออนไลน์และภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติตามคำสั่งย่อยลงนามเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม และเปิดเผยเมื่อวานนี้

" แผนกนี้จะร่วมมือกับสถาบันทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เพื่อสกัดอาชญากรรมออนไลน์ ,เพราะถ้าความผิดนี้ ไม่ได้หยุด มันจะทำให้สังคมในอันตราย " โฆษกตำรวจแห่งชาติเกิด จันทฤทธิ์กล่าวเพิ่มว่า ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการยังถูกเลือกสำหรับ " วางแผนระยะยาว " . .

แต่หลังจากการจับกุมล่าสุดที่เชื่อมโยงกับการโพสต์สื่อสังคม , กลุ่มสิทธิมนุษยชนและฝ่ายค้านเมื่อวานนี้สงสัย ความตั้งใจของรัฐบาลเรียกแผนกอาวุธอื่นที่จะยับยั้งความขัดแย้งในหมู่ชุมชนออนไลน์ของกัมพูชาเฟื่องฟู .

" ผมเกรงว่านี่จะเป็นการปราบปรามอย่างเป็นระบบในความเห็น " โฆษกพรรคช่วยชาติกัมพูชายิม โสวันน์พูด

" คุณสามารถเห็นการลงโทษกับเอ็นจีโอ พวกเขาจับ crnp นักกิจกรรมและผู้นำ และตอนนี้ พวกเขาตั้ง ทีมแตกลงบนอินเทอร์เน็ต บน Facebook "

ในเดือนธันวาคมปีที่แล้วรัฐบาลดูเหมือนจะดึงปลั๊กในการเป็น " อาชญากรรม " บิล เปิดเผยครั้งแรกในการโพสต์ในหน้าของการวิจารณ์ที่รุนแรง

คณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการจัดตั้ง " สงครามไซเบอร์ ทีมงาน " เพื่อตรวจสอบกิจกรรมออนไลน์ และรักษาศักดิ์ศรีของรัฐบาลกัมพูชา

แม้ชื่อของมัน , โฆษก รัฐบาลฟายสีฟานกล่าวว่ามันเป็นเหมือนการตรวจสอบสื่อการตรวจสอบข้อมูล " เปิดแหล่งที่มา " " เมินข่าว "

แต่โฆษกกระทรวงมหาดไทยทั่วไปเขียว โสภาคกล่าวว่าในทางตรงกันข้ามกับทีมไซเบอร์สงคราม , ใหม่ พนักงานของแผนกคดีตำรวจจะเต็มอำนาจตรวจสอบและให้ความร่วมมือ

เขาเพิ่ม : " ทีมนี้ก็มีสิทธิที่จะปราบปรามอาชญากรรม "

15 สิงหาคมประทัดจีนวุฒิสมาชิกพรรคฮ่องโสกชั่วโมงถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่โพสต์ไป Facebook รุ่น " ปลอม " ของภาคใต้ชายแดนสนธิสัญญาระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม .

น้อยกว่าสองสัปดาห์ต่อมา นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง raiya ถูกจับกุมหลังจากถูกกล่าวหาว่าเรียกเป็น “การปฏิวัติสี " บนเครือข่ายสื่อทางสังคม .

ต่อไปนี้ จับกุมหนุ่มผู้กล่าวว่าพวกเขามีมากขึ้นรู้สึกบังคับให้ตนเองเซ็นเซอร์เพราะกลัวรัฐบาลอย่างรุนแรง

กัมพูชาศูนย์สื่ออิสระกรรมการบริหารปางวนเติ้งกล่าวว่า กรณีพบว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นอาชญากรรมบิลเพื่อข่มขู่กัมพูชา ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต

เติ้งเรียกแผนสูง " หนักใจ "