The Mystery of the Maya The Mayan I

The Mystery of the Maya
The Mayan Indians lived in Mexico for thousands of years before the Spanish arrived in the 1500s. The Maya were an intelligent, culturally rich people whose achievements were many. They had farms, beautiful palaces, and cities with many buildings. The Mayan people knew a lot about nature and the world around them. This knowledge helped them to live a better life than most people of that time, because they could use it to make their lives more comfortable and rewarding. Knowledge about tools and farming, for instance, made their work easier and more productive.
In ancient Mexico there were many small clearings in the forest. In each clearing was a village with fields of corn, beans, and other crops around it. To clear the land for farms, the Maya cut down trees with stone axes. They planted seeds by digging holes in the ground with pointed sticks. A farmer was able to grow crops that produced food for several people. But not every Maya had to be a farmer. Some were cloth makers, builders, or priests.
The Maya believed in many gods, including rain gods, sun gods, and corn gods. The people built large temples to honor the Mayan gods. Skillful workers built cities around these temples. It was difficult for them to construct these cities, because they had no horses to carry the heavy stone they used to build with. Workers had to carry all of the building materials themselves. Today, many of these ancient Mayan cities and temples are still standing.
Although the cities that the Maya built were beautiful, and the people worked hard to build them, very few of the people lived in them. Usually, only the priests lived in the cities.
The other people lived in small villages in the forests. Their houses were much simpler than the elaborate structures in the cities. They lived in small huts with no windows. The walls were made of poles covered with dried mud, and the roof was made of grass or leaves. Most Maya lived a simple life close to nature.
Measuring time was important to the Maya, so they developed a system for measuring it accurately. Farmers needed to know when to plant and harvest their crops. Mayan priests made a system to keep track of time. They wrote numbers as dots (...) and bars (-). A dot was one and a bar was five.
The Mayan priests studied the Sun, Moon, stars, and planets. They made a calendar from what they learned. The year was divided into 18 months of 20 days each with five days left over. The Mayan calendar was far more accurate than the European calendars of the time.
Around the year 800, the Maya left their villages and beautiful cities, never to return. No one knows why this happened. They may have died from an infectious disease. They may have left because the soil could no longer grow crops. Archaeologists are still trying to find the lost secrets of the Maya. They are still one of our greatest mysteries.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความลึกลับของมายา อินเดียมายันที่อาศัยอยู่ในเม็กซิโกเป็นพัน ๆ ปีก่อนสเปนมาถึงในศตวรรษที่ 16 มายาถูกผู้คนฉลาด อุดมไปด้วยวัฒนธรรมที่มีความสำเร็จได้มาก พวกเขามีฟาร์ม พระราชวังที่สวยงาม และเมืองที่ มีอาคารหลายหลัง ชาวมายันรู้มากเกี่ยวกับธรรมชาติและโลกรอบตัวพวกเขา ความรู้นี้ช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าคนส่วนใหญ่ของเวลา เนื่องจากพวกเขาสามารถใช้มันเพื่อทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น และคุ้มค่า ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือและทำการเกษตร เช่น ทำงานง่ายขึ้น และมีประสิทธิผลมากขึ้น ในเม็กซิโกโบราณ มีหลายขนาดเล็กโล่งในป่า ในแต่ละสำนักหักบัญชีเป็นหมู่บ้านที่ มีเขตข้อมูลของข้าวโพด ถั่ว และพืชอื่น ๆ รอบ ๆ การล้างที่ดินฟาร์ม มายาที่ตัดลงต้นไม้กับขวานหิน พวกเขาสามารถปลูกเมล็ดขุดหลุมในพื้นดินที่มีไม้แหลม เกษตรกรก็สามารถปลูกพืชผลที่ผลิตอาหารสำหรับคนหลายคน แต่มายาทุกไม่ได้เป็นเกษตรกร ผู้ผลิตผ้า สร้าง หรือพระสงฆ์บางส่วนได้ มายาที่เชื่อในพระเจ้าหลาย รวมทั้งฝนเทพเจ้า เทพเจ้าดวงอาทิตย์ และเทพเจ้าข้าวโพด ผู้สร้างวิหารขนาดใหญ่เพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้ามายัน ความชำนาญงานสร้างเมืองรอบ ๆ วัดเหล่านี้ ก็ยากที่จะสร้างเมืองเหล่านี้ เพราะพวกเขาไม่มีม้าให้พกหินหนักที่พวกเขาใช้ในการสร้างด้วย แรงงานมีการดำเนินการของวัสดุก่อสร้างเองทั้งหมด วันนี้ เมืองมายันโบราณและวัดเหล่านี้จำนวนมากยังคงยืน แม้ว่าเมืองที่มายาที่สร้างได้สวยงาม และคนทำงานหนักเพื่อสร้างเหล่านั้น น้อยมากของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพวกเขา มักจะ สงฆ์เท่านั้นที่อาศัยอยู่ในเมือง คนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในป่า บ้านของพวกเขาได้ง่ายกว่าโครงสร้างซับซ้อนในเมือง พวกเขาอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กกับ windows ไม่ได้ ผนังที่ทำจากเสาที่ปกคลุมไป ด้วยโคลนแห้ง และหลังคาที่ทำจากหญ้าหรือใบไม้ มายาส่วนใหญ่ใช้ชีวิตเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ เวลาวัดเป็นสิ่งสำคัญที่มายา เพื่อให้พวกเขาพัฒนาระบบการวัดได้อย่างถูกต้อง เกษตรกรจำเป็นต้องทราบเมื่อมีการปลูก และเก็บเกี่ยวพืชผลของพวกเขา พระสงฆ์ที่ชาวมายันทำระบบการติดตามเวลา พวกเขาเขียนตัวเลขเป็นจุด (...) และบาร์ (-) จุดหนึ่ง และบาร์ห้า ปุโรหิตมายันศึกษาดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาว และดาวเคราะห์ พวกเขาทำปฏิทินจากสิ่งที่เรียนรู้ ปีถูกแบ่งออกเป็น 18 เดือน 20 วันละห้าวันที่เหลือ ปฏิทินชาวมายันได้แม่นยำกว่าปฏิทินยุโรปของเวลา ราวปีค.ศ. 800 มายาที่เหลือหมู่บ้านและเมืองที่สวยงาม ไม่เคยจะกลับ ไม่มีใครรู้ว่าทำไมนี้เกิดขึ้น พวกเขาอาจเสียชีวิตจากโรคการติดเชื้อ พวกเขาอาจมีทิ้งเนื่องจากดินไม่สามารถเจริญเติบโตพืช นักโบราณคดียังคงพยายามค้นหาความลับของมายาหายไป พวกเขายังคงเป็นหนึ่งในความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความลึกลับของมายา
มายันอินเดียนแดงอาศัยอยู่ในเม็กซิโกเป็นพัน ๆ ปีก่อนที่สเปนมาถึงในยุค 1500 มายาเป็นอัจฉริยะคนอุดมไปด้วยวัฒนธรรมที่มีความสำเร็จหลายคน พวกเขามีฟาร์มพระราชวังที่สวยงามและเมืองที่มีอาคารหลายหลัง ยันคนรู้มากเกี่ยวกับธรรมชาติและโลกรอบตัวพวกเขา ความรู้นี้ช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าคนส่วนใหญ่ในช่วงเวลานั้นเพราะพวกเขาสามารถใช้มันเพื่อทำให้ชีวิตของพวกเขาสะดวกสบายมากขึ้นและคุ้มค่า ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือและการทำฟาร์มตัวอย่างเช่นทำให้การทำงานของพวกเขาได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.
ในเม็กซิโกโบราณมีสำนักหักบัญชีขนาดเล็กจำนวนมากในป่า ในแต่ละสำนักหักบัญชีเป็นหมู่บ้านที่มีเขตข้อมูลข้าวโพดถั่วและพืชอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เพื่อล้างที่ดินสำหรับฟาร์มมายาตัดต้นไม้ด้วยขวานหิน พวกเขาปลูกเมล็ดหลุมขุดในพื้นด้วยไม้แหลม เกษตรกรก็สามารถที่จะปลูกพืชที่ผลิตอาหารสำหรับคนหลายคน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนมายาจะต้องเป็นเกษตรกร บางคนชงผ้า, ผู้สร้างหรือพระสงฆ์.
มายาเชื่อในพระเจ้าจำนวนมากรวมทั้งเทพเจ้าฝนเทพดวงอาทิตย์และพระเจ้าข้าวโพด คนสร้างวัดขนาดใหญ่เพื่อเป็นเกียรติแก่เทพเจ้าของชาวมายัน แรงงานฝีมือสร้างหัวเมืองรอบวัดเหล่านี้ มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะสร้างเมืองเหล่านี้เพราะพวกเขามีม้าที่จะดำเนินการหินหนักที่พวกเขาใช้ในการสร้างที่ไม่มี แรงงานมีการดำเนินการทั้งหมดของวัสดุก่อสร้างที่ตัวเอง วันนี้หลายเมืองของชาวมายันโบราณเหล่านี้และวัดยังคงยืน.
แม้ว่าเมืองที่สร้างมายาสวยงามและผู้คนที่ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างพวกเขาน้อยมากของคนที่อาศัยอยู่ในพวกเขา มักจะมีเพียงพระสงฆ์อาศัยอยู่ในเมือง.
คนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในป่า บ้านของพวกเขาง่ายกว่าโครงสร้างที่ซับซ้อนในเมือง พวกเขาอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ ที่มีไม่มีหน้าต่าง ผนังที่ทำจากเสาปกคลุมไปด้วยโคลนแห้งและหลังคาที่ทำจากหญ้าหรือใบไม้ ยาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ชีวิตที่เรียบง่ายใกล้ชิดกับธรรมชาติ.
วัดเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะมายาเพื่อให้พวกเขาพัฒนาระบบสำหรับการวัดอย่างถูกต้อง เกษตรกรจำเป็นต้องรู้เมื่อมีการปลูกและเก็บเกี่ยวพืชของพวกเขา พระสงฆ์มายันทำระบบการติดตามของเวลา พวกเขาเขียนตัวเลขเป็นจุด ( ... ) และบาร์ (-) จุดเป็นหนึ่งและบาร์ห้า.
พระสงฆ์มายันศึกษาดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ดวงดาวและดาวเคราะห์ พวกเขาทำปฏิทินจากสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ ปีแบ่งออกเป็น 18 เดือน 20 วันแต่ละคนมีห้าวันที่เหลือ ปฏิทินมายาก็ยังห่างไกลมากขึ้นถูกต้องกว่าปฏิทินยุโรปเวลา.
รอบปีที่ 800, มายาที่เหลือหมู่บ้านและเมืองที่สวยงามของพวกเขาจะไม่กลับ ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงเกิดขึ้น พวกเขาอาจจะเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ พวกเขาอาจจะเหลือเพราะดินไม่สามารถปลูกพืช นักโบราณคดียังคงพยายามที่จะหาลับที่หายไปของมายา พวกเขาจะยังคงเป็นหนึ่งในความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความลึกลับของมายาชาวอินเดียมายันอยู่ที่เม็กซิโกเป็นเวลานับพันปีก่อนที่สเปนมาถึงใน 1500s . มายา เป็นคนที่มีความฉลาด รวยมาหลายคน พวกเขามีฟาร์ม พระราชวังที่สวยงาม เป็นเมืองที่มีอาคารหลาย พวกมายันรู้จักธรรมชาติและโลกรอบตัวพวกเขา ความรู้นี้ช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าคนส่วนใหญ่ของเวลา เพราะพวกเขาสามารถใช้มันเพื่อทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นและคุ้มค่า ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือและฟาร์มตัวอย่าง ทำให้งานของพวกเขาง่ายขึ้นและมีประสิทธิผลมากขึ้นโบราณในเม็กซิโกมีขนาดเล็กมากใน clearings ป่า ในแต่ละการล้างเป็นหมู่บ้านกับเขตข้อมูลข้าวโพด ถั่ว และพืชอื่น ๆรอบ ๆมัน การล้างที่ดินฟาร์ม มายา ตัดต้นไม้กับหินแกน พวกเขาปลูกเมล็ดพันธุ์ โดยการขุดหลุมในพื้นดิน ด้วยไม้แหลม เกษตรกรสามารถปลูกพืชที่ผลิตอาหารสำหรับหลาย ๆคน แต่ไม่ทุกมายาเคยเป็นชาวนา บางผู้ผลิตผ้าของผู้สร้าง หรือนักบวชมายาที่เชื่อในเทพเจ้าหลายองค์ ได้แก่ เทพเจ้าฝน ดวงอาทิตย์พระเจ้าและเทพเจ้าข้าวโพด ผู้ที่สร้างวัดใหญ่ เพื่อให้เกียรติพระเจ้ามายัน แรงงานฝีมือสร้างเมืองรอบ ๆวัดนี้ มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะสร้างเมืองเหล่านี้ เพราะพวกเขาไม่มีม้าแบกหินหนักที่พวกเขาใช้ในการสร้างด้วย แรงงานต้องแบกทั้งหมดของวัสดุก่อสร้างด้วยตนเอง วันนี้หลายเมืองและวัดมายันโบราณเหล่านี้ยังคงยืนอยู่แม้ว่าเมืองที่ชาวมายาสร้างได้สวยงาม และคนที่ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างพวกเขาน้อยมากของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพวกเขา โดยปกติ นักบวช อาศัยอยู่ในเมืองคนอื่น ๆที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในป่า บ้านของพวกเขาง่ายขึ้นกว่าโครงสร้างที่ซับซ้อนในเมือง พวกเขาอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กที่ไม่มีหน้าต่าง ผนังที่ทำจากไม้ที่ปกคลุมไปด้วยโคลนแห้ง และหลังคาที่ทำมาจากหญ้าหรือใบไม้ ที่สุดมายาอาศัยอยู่ชีวิตเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติวัดเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้มายา จึงพัฒนาระบบวัดมันถูกต้อง เกษตรกรต้องการทราบเมื่อมีการปลูกและเก็บเกี่ยวพืชผลของพวกเขา นักบวชชาวมายันทำให้ระบบการติดตามเวลา พวกเขาเขียนตัวเลขเป็นจุด ( . . . ) และบาร์ ( - ) จุดหนึ่งและบาร์ห้านักบวชชาวมายันศึกษาดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวและดาวเคราะห์ ทำปฏิทินจากสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ ปีถูกแบ่งออกเป็น 18 เดือน 20 วันของแต่ละห้าวันที่เหลือ ปฏิทินมายามีความถูกต้องมากกว่าปฏิทินยุโรปของเวลารอบปีที่ 800 , มายาทิ้งหมู่บ้านและเมืองที่สวย และไม่กลับมาอีกเลย ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น พวกเขาอาจจะเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ พวกเขาอาจมีซ้ายเพราะดินอาจไม่เจริญเติบโต นักโบราณคดียังพยายามตามหาความลับของมายา พวกเขาเป็นหนึ่งในความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรายังคง