In Photos: Ada Lovelace Exhibit at

In Photos: Ada Lovelace Exhibit at London's Science Museum
by Live Science Staff | October 13, 2015 04:35pm ET

A new exhibit at London's Science Museum explores the work of Ada Lovelace, a Victorian-era intellectual and mathematician whose complex algorithms and prophetic theories about machines laid the groundwork for modern day computer programming. The exhibit opens today (Oct. 13) and features the machines and the math that defined Lovelace's many achievements. [Read full story about the Ada Lovelace exhibit]

Portrait of a lady
Ada Lovelace, daughter of the famous poet Lord Byron, was born Augusta Ada Byron in 1815. In 1835, she married and became Augusta Ada King. When her husband was made Earl of Lovelace in 1838, Ada became the Countess of Lovelace. From that point on, she used the name she is known by today: Ada Lovelace. (Credit: Science Museum/SSPL)

Calculating machine
The Difference Engine was mathematician and inventor Charles Babbage's first planned calculating machine. Babbage envisaged that the machine would be able to calculate complicated mathematical tables. The machine was never completed, but Babbage did build this segment to demonstrate what the machine could do. In 1833, Lovelace (then 17 years old) saw this segment at Babbage's home. (Credit: Science Museum/SSPL)

Woven portrait
By the early 19th century, many weaving looms used punched cards to control and determine the woven pattern. Joseph-Marie Jacquard (pictured here), a French weaver and merchant, developed the mechanical Jacquard loom, which was controlled by a "chain" of punched cards in sequence. The cards allowed for an infinite number of patterns. This portrait of Jacquard was woven on a Jacquard loom using thousands of punched cards. (Credit: Science Museum/SSPL)

Jacquard loom
A model of a ribbon loom that uses Jacquard principles. The model was designed and made by James Heywood in 1870. In 1834, Lovelace and her mother toured the industrial north and midlands of Britain, including a ribbon factory in Coventry. Lovelace was interested in the machines, which reminded her of Babbage's Difference Engine. (Credit: Science Museum)

Analytical Engine
In 1834, Charles Babbage began work on a new calculating machine, called the Analytical Engine. Babbage hoped that this new machine would be far more powerful than the Difference Engine. Lovelace followed his work with interest. She began thinking about what the new machine might be capable of, and started studying the mathematics underpinning it. The Analytical Engine was never completed, but this part was created by Babbage's son, Henry Babbage. (Credit: Science Museum/SSPL)

Upping the ante
The proposed Analytical Engine was designed to use punched cards to determine its operations, similar to how a Jacquard loom functions. The holes in the cards provided the programs and data. Lovelace's insights into the potential of the machine are what make her famous today as a computer visionary. (Credit: Science Museum/SSPL)

Lovelace's legacy
While writing her notes on the Analytical Engine, Lovelace made a huge intellectual leap. She realized that the machine could be used not just to process numbers, but to undertake a wide variety of general processes. In this page of notes, Lovelace used the sequence of Bernoulli numbers to illustrate the potential of the machine, setting out how the Analytical Engine could undertake a series of logical steps. (Credit: Science Museum)

New exhibit
A view of the Ada Lovelace exhibit at the Science Museum in London. (Credit: Science Museum)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในภาพ: เอดาเลิฟเลซจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของลอนดอนพนักงานวิทยาศาสตร์สด | 13 ตุลาคม 2015 04:35 น.และแสดงใหม่ที่ลอนดอนพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์สำรวจการทำงานของเอดาเลิฟเลซ ยุควิคทอเรียนสติปัญญาและนักคณิตศาสตร์ที่มีอัลกอริทึมซับซ้อนและนบีทฤษฎีเกี่ยวกับเครื่องวางส่วนการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สมัย ขณะเปิดวันนี้ (13 ตุลาคม) และคุณลักษณะของเครื่องจักร และความสำเร็จต่าง ๆ ของคณิตศาสตร์ที่กำหนดดาเลิฟเลซ [อ่านเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับแสดงเอดาเลิฟเลซ]ภาพเหมือนของผู้หญิงเอดาเลิฟเลซ ลูกสาวของกวีมีชื่อเสียง Lord Byron เกิดออกัสตา Ada ไบรอนใน 1815 ในปีค.ศ. 1835 เธอแต่งงาน และเป็น กษัตริย์ Ada ออกัสตา เมื่อสามีทำเอิร์ลดาเลิฟเลซใน 1838, Ada เป็น ที่เคาน์เตของดาเลิฟเลซ จากจุดนั้นใน เธอใช้ชื่อเธอเป็นที่รู้จักกัน โดยวันนี้: เอดาเลิฟเลซ (เครดิต: SSPL/พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์)เครื่องคำนวณเครื่องยนต์ต่างเป็นนักคณิตศาสตร์และนักประดิษฐ์ชาลส์แบบบิจของแรกแผนคำนวณเครื่อง แบบบิจ envisaged ที่เครื่องจะสามารถคำนวณตารางทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน เครื่องไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่แบบบิจได้สร้างเซ็กเมนต์นี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เครื่องจักรสามารถทำ ใน 1833 ดาเลิฟเลซ (แล้ว 17 ปี) เห็นเซ็กเมนต์นี้ที่บ้านเป็นแบบบิจ (เครดิต: SSPL/พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์)ภาพทอโดยช่วงต้นศตวรรษที่ 19, looms ทอหลายใช้ punched บัตรเพื่อควบคุม และกำหนดรูปแบบการทอ มารีโยเซฟ Jacquard (ภาพที่นี่), ฝรั่งเศสช่างทอผ้าและร้านค้า พัฒนากล Jacquard ทอผ้า ซึ่งควบคุม โดย "เชน" punched บัตรตามลำดับ บัตรที่ใช้ได้สำหรับรูปแบบที่ไม่จำกัดจำนวน ภาพนี้ของ Jacquard ได้ทอบนกี่ Jacquard ใช้พันบัตร punched (เครดิต: SSPL/พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์)ทอผ้า jacquardรุ่นกี่ริบบิ้นที่ใช้หลัก Jacquard รูปแบบถูกออกแบบ และทำ โดย James Heywood ศาสตร์ ใน 1834 ดาเลิฟเลซและแม่ของเธอออกเหนืออุตสาหกรรมและมิดแลนด์ของสหราชอาณาจักร รวมทั้งโรงงานริบบิ้นในทุน ดาเลิฟเลซมีความสนใจในเครื่องจักร ที่เตือนเธอของความแตกต่างของแบบบิจ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์)เครื่องมือวิเคราะห์ใน 1834 ชาลส์แบบบิจเริ่มทำงานบนเครื่องคำนวณใหม่ เรียกว่าเครื่องวิเคราะห์ แบบบิจหวังว่า เครื่องใหม่นี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเครื่องยนต์แตกต่าง ดาเลิฟเลซตามงานของเขา มีความสนใจ เธอเริ่มคิดว่าเครื่องใหม่อาจมีความสามารถ และเรียนคณิตศาสตร์ underpinning มัน ไม่เคยเสร็จเครื่องยนต์วิเคราะห์ แต่ส่วนนี้ถูกสร้างขึ้น โดยเป็นแบบบิจแม่ฮ่องสอน เฮนรี่แบบบิจ (เครดิต: SSPL/พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์)Upping อีกนำเสนอวิเคราะห์เครื่องยนต์ถูกออกแบบให้ใช้ punched บัตรเพื่อตรวจสอบการดำเนินงาน คล้ายกับวิธี Jacquard loom ฟังก์ชัน หลุมในบัตรให้โปรแกรมและข้อมูล ข้อมูลเชิงลึกของดาเลิฟเลซเป็นศักยภาพของเครื่องจักรมีอะไรทำให้เธอวันนี้มีชื่อเสียงเป็นเครื่องวิสัยทัศน์ (เครดิต: SSPL/พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์)ดาเลิฟเลซของดั้งเดิมในขณะที่เขียนบันทึกของเธอบนเครื่องมือวิเคราะห์ ดาเลิฟเลซได้ก้าวปัญญาใหญ่ เธอรับรู้ว่า สามารถใช้เครื่องไม่ได้เป็นเพียง การประมวลผลหมายเลข แต่เพื่อความหลากหลายของกระบวนการทั่วไป ในบันทึกหน้านี้ ดาเลิฟเลซใช้ลำดับหมายเลขของ Bernoulli เพื่อแสดงศักยภาพของเครื่องจักร การออกวิธีเครื่องมือวิเคราะห์สามารถดำเนินการชุดของขั้นตอนทางตรรกะ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์)จัดแสดงใหม่มุมมองของการเอดาเลิฟเลซจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในกรุงลอนดอน (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในภาพถ่าย:
เอดาเลิฟเลซจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ลอนดอนโดยสดวิทยาศาสตร์พนักงาน| 13 ตุลาคม 2015 04:35 ET จัดแสดงใหม่ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ลอนดอนสำรวจการทำงานของเอดาเลิฟเลซซึ่งเป็นยุควิคตอเรียทางปัญญาและนักคณิตศาสตร์ที่มีกลไกที่ซับซ้อนและทฤษฎีทำนายเกี่ยวกับเครื่องวางรากฐานสำหรับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์วันที่ทันสมัย จัดแสดงจะเปิดในวันนี้ (13 ตุลาคม) และมีเครื่องและคณิตศาสตร์ที่กำหนดความสำเร็จจำนวนมากของเลิฟเลซ [อ่านเรื่องเต็มเกี่ยวกับการจัดแสดง Ada Lovelace] ภาพของผู้หญิงที่เอดาเลิฟเลซลูกสาวของลอร์ดไบรอนกวีที่มีชื่อเสียงเกิด Augusta Ada Byron ใน 1815 ในปี 1835 เธอแต่งงานและกลายเป็น Augusta Ada กษัตริย์ เมื่อสามีของเธอถูกทำให้เอิร์ลแห่งเลิฟเลซในปี 1838 อกลายเป็นเคานเลิฟเลซ จากจุดที่เธอใช้ชื่อเธอเป็นที่รู้จักกันในวันนี้: เอดาเลิฟเลซ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ / SSPL) การคำนวณเครื่องเครื่องยนต์แตกต่างเป็นนักคณิตศาสตร์และนักประดิษฐ์ Charles Babbage วางแผนแรกเครื่องคำนวณ Babbage ภาพที่เครื่องจะสามารถในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนตาราง เครื่องยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ Babbage ได้สร้างส่วนนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ตัวเครื่องจะทำ ใน 1833, เลิฟเลซ (แล้วอายุ 17 ปี) เห็นส่วนที่บ้าน Babbage นี้ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ / SSPL) ภาพทอต้นศตวรรษที่ 19, การทอผ้าหลาย looms ใช้บัตรเจาะในการควบคุมและตรวจสอบรูปแบบการทอ โจเซฟ-Marie Jacquard (ภาพที่นี่) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าฝรั่งเศสและพัฒนา Jacquard กี่กลซึ่งถูกควบคุมโดย "ลูกโซ่" ของบัตรเจาะในลำดับ บัตรที่ได้รับอนุญาตสำหรับจำนวนอนันต์ของรูปแบบ ภาพนี้ถูก Jacquard ทอบนกี่ทอผ้า Jacquard ใช้พันของบัตรเจาะ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ / SSPL) Jacquard ทอผ้ารูปแบบของเครื่องทอผ้าริบบิ้นที่ใช้หลักการ Jacquard ให้บริการ รูปแบบที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นโดยเจมส์เฮย์วู้ดใน 1870 ใน 1834, เลิฟเลซและแม่ของเธอไปเที่ยวทางเหนือและภาคอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักรรวมทั้งโรงงานริบบิ้นในโคเวนทรี เลิฟเลซมีความสนใจในเครื่องซึ่งทำให้เธอนึกถึงเครื่องยนต์แตกต่างของแบบเบจ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์) วิเคราะห์ Engine ใน 1,834, Charles Babbage เริ่มทำงานบนเครื่องคำนวณใหม่ที่เรียกว่าวิเคราะห์ Engine Babbage หวังว่าเครื่องใหม่นี้จะไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเครื่องยนต์ที่แตกต่าง เลิฟเลซตามการทำงานของเขาที่มีความสนใจ เธอเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เครื่องใหม่อาจจะมีความสามารถในและเริ่มเรียนคณิตศาสตร์หนุนมัน วิเคราะห์ Engine ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ส่วนนี้ถูกสร้างขึ้นโดยลูกชาย Babbage ของแบบเบจเฮนรี่ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ / SSPL) Upping เทรสิคที่นำเสนอการวิเคราะห์เครื่องยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อใช้บัตรเจาะเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของตนคล้ายกับวิธีการทำงานJacquard กี่ หลุมในบัตรให้โปรแกรมและข้อมูล ข้อมูลเชิงลึกของเลิฟเลซในศักยภาพของตัวเครื่องเป็นสิ่งที่ทำให้วันนี้ที่มีชื่อเสียงของเธอเป็นช่างจินตนาการคอมพิวเตอร์ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ / SSPL) มรดกของเลิฟเลซในขณะที่เขียนบันทึกของเธอในการวิเคราะห์ Engine, เลิฟเลซทำให้การก้าวกระโดดทางปัญญาขนาดใหญ่ เธอรู้ว่าเครื่องสามารถนำมาใช้ไม่เพียง แต่จะประมวลผลตัวเลข แต่จะดำเนินการความหลากหลายของกระบวนการทั่วไป ในหน้าของบันทึกนี้เลิฟเลซใช้ลำดับหมายเลข Bernoulli ที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเครื่องการตั้งค่าวิธีการวิเคราะห์ Engine สามารถดำเนินการชุดของขั้นตอนตรรกะ (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์) จัดแสดงใหม่มุมมองของเอดาเลิฟเลซจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในกรุงลอนดอน (เครดิต: พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปถ่าย : โพลาแคนทัสจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ลอนดอน
โดยอาศัยวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ | วันที่ 13 ตุลาคม 2015 04:35pm ร้อยเอ็ด

จัดแสดงใหม่ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ลอนดอนแสดงการทํางานของ เอดา ไบรอน , สมัยวิกตอเรียทางปัญญาและนักคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อนขั้นตอนวิธีและทฤษฎีพยากรณ์เกี่ยวกับเครื่องวางรากฐานสำหรับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ นิทรรศการเปิดวันนี้ ( ต.13 ) และคุณลักษณะของเครื่องจักร และคณิตศาสตร์ที่นิยามเลิฟเลซสำเร็จมากมาย [ อ่านเรื่องเต็มรูปแบบเกี่ยวกับโพลาแคนทัสจัดแสดง ]


แนวของเลดี้เอดา ไบรอน ลูกสาวของลอร์ดไบรอนกวีชื่อดังเกิดออกัสตาไบรอนใน ค . ในปี 1835 , เธอแต่งงานและกลายเป็น Augusta Ada กษัตริย์ เมื่อสามีของเธอทำให้เอิร์ลแห่งเลิฟเลซในปี 1838 , Ada เป็นเคาน์เตสแห่งเลิฟเลซ .จากจุดนั้น เธอใช้ชื่อเธอเป็นที่รู้จักในวันนี้ : เอดา ไบรอน . ( เครดิต : พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ sspl )


คำนวณความแตกต่างของเครื่องยนต์ เครื่องจักร นักคณิตศาสตร์และนักประดิษฐ์ ชาร์ล แบบเบจแรกวางแผนหาเครื่อง แบบเบจ envisaged ที่เครื่องจะสามารถคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนตาราง เครื่องที่เคยสมบูรณ์แต่แบบเบจได้สร้างส่วนนี้ แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เครื่องสามารถทำ ใน 1833 เลิฟเลซ , ( ตอนนั้นอายุ 17 ปี ) เห็นส่วนนี้ที่แบบเบจก็กลับบ้าน ( เครดิต : พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ sspl )


ผ้าแนวตั้งโดยศตวรรษที่ 19 ต้นหลาย looms การทอผ้าใช้เจาะบัตรเพื่อควบคุมและตรวจสอบทอลวดลาย Joseph Marie Jacquard ( ภาพที่นี่ ) , ช่างทอผ้าชาวฝรั่งเศสและพ่อค้าพัฒนาเครื่องทอผ้า jacquard เครื่องจักรกล ซึ่งถูกควบคุมโดย " โซ่ " มอลโตสในลำดับ บัตรอนุญาตเป็นจำนวนของรูปแบบ นี้คือภาพของทอ jacquard jacquard ทอผ้าใช้ในพันของเจาะบัตร ( เครดิต : พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ sspl )

Jacquard loom
รูปแบบริบบิ้น jacquard ทอผ้าที่ใช้หลักการรูปแบบที่ถูกออกแบบและผลิตโดยเจมส์เฮย์วู้ดใน 1870 ใน 1834 เลิฟเลซ , และแม่ของเธอเมื่ออุตสาหกรรมภาคเหนือ และมิดแลนด์ของอังกฤษ รวมถึงริบบิ้นโรงงานในโคเวนทรี เลิฟเลซสนใจในเครื่องจักร ซึ่งทำให้เธอนึกถึงแบบเบจความแตกต่างของเครื่องยนต์ ( เครดิต : พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ )

เครื่องวิเคราะห์
ใน 1834 , ชาร์ล แบบเบจ เริ่มทำงานใหม่ หาเครื่องเรียกว่าเครื่องยนต์เชิงวิเคราะห์ แบบเบจหวังว่าเครื่องใหม่นี้จะมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน เลิฟเลซตามงานของเขาด้วยความสนใจ เธอเริ่มคิดแล้วว่า เครื่องใหม่ อาจจะสามารถ และเริ่มเรียนคณิตศาสตร์พื้นฐาน . เครื่องยนต์เชิงวิเคราะห์ก็ไม่เสร็จ แต่ส่วนนี้ถูกสร้างโดยแบบเบจเป็นลูกชายของเฮนรี่แบบเบจ . ( เครดิต :