Venice's long decline started in th

Venice's long decline started in the 15th century, when it first made an unsuccessful attempt to hold Thessalonica against the Ottomans (1423–1430). It also sent ships to help defend Constantinople against the besieging Turks (1453). After Constantinople fell to Sultan Mehmet II, he declared war on Venice. The war lasted thirty years and cost Venice much of its eastern Mediterranean possessions. Next, Christopher Columbus discovered the New World in 1492. Then Vasco da Gama of Portugal found a sea route to India by rounding the Cape of Good Hope during his first voyage of 1497-99, destroying Venice's land route monopoly. France, England and the Dutch Republic followed. Venice's oared galleys were at a disadvantage when it came to traversing the great oceans, and therefore Venice was left behind in the race for colonies.

The Black Death devastated Venice in 1348 and once again between 1575 and 1577.[24] In three years, the plague killed some 50,000 people.[25] In 1630, the plague killed a third of Venice's 150,000 citizens.[26] Venice began to lose its position as a center of international trade during the later part of the Renaissance as Portugal became Europe's principal intermediary in the trade with the East, striking at the very foundation of Venice's great wealth; while France and Spain fought for hegemony over Italy in the Italian Wars, marginalising its political influence. However, the Venetian empire was a major exporter of agricultural products and, until the mid-18th century, a significant manufacturing center

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลดลงยาวของเวนิสเริ่มต้นในศตวรรษ 15 เมื่อก่อนทำความพยายามที่ไม่สำเร็จจะเก็บ Thessalonica กับ Ottomans (1423-1430 จาก) นอกจากนี้มันยังส่งเรือเพื่อช่วยปกป้องเปิลกับเติร์ก besieging (1453) หลังจากคอนสแตนติตกสุลต่าน Mehmet II เขาประกาศสงครามกับเวนิส สงครามกินเวลาสามสิบปี และเวนิสการต้นทุนของทรัพย์สินที่เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก คริสโตเฟอร์โคลัมบัสค้นพบโลกใหม่ใน 1492 แล้ว ไฟวาสโกดากามาโปรตุเกสพบเส้นทางทะเลไปยังประเทศอินเดีย โดยปัดความหวังดีของเคประหว่างเดินทางเขาแรกของค.ศ. 1497-99 ทำลายการผูกขาดเส้นทางที่ดินของเวนิส ฝรั่งเศส อังกฤษ และ สาธารณรัฐดัตช์ด้วย Galleys oared ของเวนิสได้เป็นรองเมื่อมาเพื่อข้ามสิ่งกีดขวางมหาสมุทรมาก และดังนั้น ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเวนิสในการแข่งขันสำหรับอาณานิคมความตายสีดำทำลายเวนิส ใน 1348 และอีกครั้ง ระหว่างค.ศ. 1577 และ 1575 [24] ในสามปี กาฬโรคฆ่าบางคน 50000 [25] ใน 1630 กาฬโรคตายหนึ่งในสามของพลเมืองบริการ 150000 ของเวนิส [26] เวนิสที่เริ่มจะสูญเสียตำแหน่งเป็นศูนย์การค้านานาชาติระหว่างส่วนต่อของเรเนสซองโปรตุเกสเป็น ยุโรปกลางหลักในการค้ากับตะวันออก โดดเด่นที่เป็นพื้นฐานมากของเวนิสของดีให้เลือกมากมาย ในขณะที่ฝรั่งเศสและสเปนสู้สำหรับเจ้าเหนืออิตาลีในสงครามอิตาลี marginalising อิทธิพลทางการเมือง อย่างไรก็ตาม จักรวรรดิเวเนเชียนเป็นผู้ส่งออกหลัก ของสินค้าเกษตร และ จน ถึง ศตวรรษ 18 กลาง ศูนย์การผลิตที่สำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การลดลงของความยาวของเวนิสเริ่มต้นในศตวรรษที่ 15 เมื่อมันเป็นครั้งแรกทำให้ความพยายามที่ไม่ประสบความสำเร็จในการถือสะโลนิกากับออตโต (1423-1430) นอกจากนี้ยังส่งเรือเพื่อช่วยปกป้องคอนสแตนติกับพวกเติร์กล้อม (1453) หลังจากที่ลดลงไปคอนสแตนติสุลต่านเมห์เม็ตครั้งที่สองเขาประกาศสงครามกับเมืองเวนิส สงครามกินเวลานานกว่าสามสิบปีและค่าใช้จ่ายมากเวนิสของทรัพย์สินเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ถัดไปคริสโคลัมบัสค้นพบโลกใหม่ใน 1492 จากนั้นวาสโกดากามาของโปรตุเกสพบเส้นทางทะเลไปยังประเทศอินเดียโดยปัดเศษแหลมกู๊ดโฮในระหว่างการเดินทางครั้งแรกของ 1497-1499 ทำลายการผูกขาดเส้นทางที่ดินของเวนิส ฝรั่งเศสอังกฤษและสาธารณรัฐดัตช์ตาม เวนิสเรือฝีพายเป็นเบี้ยล่างเมื่อมันมาถึงภายในมหาสมุทรที่ดีและดังนั้นจึงเวนิสถูกทิ้งไว้ข้างหลังในการแข่งขันสำหรับอาณานิคม. กาฬโรคเสียใจเวนิสใน 1348 และอีกครั้งระหว่าง 1575 และ 1577. [24] ในสามปี โรคระบาดฆ่า 50,000 คน. [25] ใน 1630 โรคระบาดฆ่าหนึ่งในสามของเวนิส 150,000 ประชาชน. [26] เวนิซเริ่มที่จะสูญเสียตำแหน่งเป็นศูนย์กลางของการค้าระหว่างประเทศในช่วงหลังของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาโปรตุเกสกลายเป็นครูใหญ่ของยุโรป ตัวกลางในการค้ากับตะวันออกโดดเด่นที่รากฐานของความมั่งคั่งยิ่งใหญ่ของเวนิส; ในขณะที่ฝรั่งเศสและสเปนต่อสู้เพื่ออำนาจเหนืออิตาลีในสงครามอิตาลี, marginalizing อิทธิพลทางการเมืองของตน อย่างไรก็ตามอาณาจักรเวเนเชียนเป็นผู้ส่งออกที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและจนถึงช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ศูนย์การผลิตอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวนิสลดลงเป็นเวลานานเริ่มต้นในศตวรรษที่ 15 เมื่อมันแรกทำให้ความพยายามล้มเหลวที่จะถือเธสซาโลนิก้ากับ Ottomans ( ขอ ( 1 ) นอกจากนี้ยังได้ส่งเรือช่วยปกป้อง Constantinople กับการกลุ้มรุมเติร์ก ( 1189 ) สุลต่าน Mehmet II หลังจากที่คอนสแตนติโนเปิลตกอยู่ เขาประกาศสงครามกับเมืองเวนิส สงคราม lasted สามสิบปี และค่าใช้จ่ายมากของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เวนิสตะวันออกข้าวของถัดไป , คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสค้นพบโลกใหม่ใน 1 . จากนั้น Vasco da Gama โปรตุเกสพบเส้นทางทะเลไปยังอินเดีย โดยปัดเศษแหลมกู๊ดโฮปในระหว่างการเดินทางครั้งแรกของเขา 1497-99 ทำลายการผูกขาดเส้นทางดินแดนเวนิส . ฝรั่งเศส , อังกฤษและสาธารณรัฐดัตช์ตาม เวนิส oared ทาสเป็นเบี้ยล่างเมื่อมันมาถึง traversing มหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่และดังนั้น เวนิสถูกทิ้งไว้ในการแข่งขันสำหรับอาณานิคม .

ความตายสีดำทำลายล้างเมืองเวนิสใน 1348 และอีกครั้งระหว่างใส่ และ 1577 . [ 24 ] สามปี โรคระบาดฆ่า 50 , 000 คน . [ 25 ] ใน 2173 , โรคระบาดฆ่าที่สามของเวนิส 150 , 000 คน[ 26 ] เวนิสเริ่มที่จะสูญเสียตำแหน่งเป็นศูนย์การค้าระหว่างประเทศในระหว่างช่วงหลังของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของยุโรปอย่างโปรตุเกส เป็นครูใหญ่ สื่อกลางในการค้าขายกับตะวันออก โดดเด่นที่พื้นฐานมากของเวนิสของความมั่งคั่งที่ดี ในขณะที่ฝรั่งเศสและสเปนต่อสู้เพื่ออำนาจเหนือ อิตาลี ในศึกอิตาเลียน marginalising อิทธิพลทางการเมือง ของ อย่างไรก็ตามอาณาจักรเวนิสเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของสินค้าทางการเกษตรและ จนกระทั่งช่วงกลางศตวรรษที่ 18 , ศูนย์กลางการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ