Impact-protective clothing, also ca

Impact-protective clothing, also called body armor, is used to protect military personnel, police officers,
and others from bullets and fragments. As technology advances, a new generation of body armor
is designed to enhance mobility and offer increased protection and safety to the soldier by depleting the
energy from the ballistic projectile, thereby reducing the severity of wounds (Smith, 2006).
Military and civilian ballistic protection is divided into flexible, lightweight, soft body, rigid, and
hard body armor (Gadow & von Niessen, 2006). According to Watkins (1995), rigid materials,
called armor plates, are usually made from three types of materials: metals, ceramics, and fiber-
reinforced resins. Two main high-performance fibers used in soft body armor are aramid and polyethylene
fibers; they are well known for their low density, high strength, and high-energy absorption
(Lee, Wetzel, & Wagner, 2003; Shishoo, 2002). Some trade names for fabrics made out of aramid
fibers include Kevlar1, Twaron1, and Technora1, while those made out of polyethylene fibers
include Dyneema1 and Spectra1 (Gadow & von Niessen, 2006; Grujicic, Arakere, He, Gogulapati,
& Cheeseman, 2008). Since the introduction of Kevlar in 1975, the mortality for U.S. troops from
battle injuries has fallen from 30% in World War II, to 24% in Vietnam, and to 10% in Iraq (Rosenfeld
& Lennarson, 2005; Selle, 2004). The advances in body armor and battlefield first aid were reasons
for the increased survival statistics of wounds that would have been fatal in the past (Connolly,
2004).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้เสื้อผ้าป้องกันผลกระทบ เรียกว่าเกราะ การป้องกันบุคลากรทหาร ตำรวจและจากสัญลักษณ์และบางส่วนของผู้อื่น เป็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยี รุ่นใหม่ของเกราะถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความคล่องตัว และให้คุ้มครองเพิ่มขึ้นกับทหาร โดยพึ่งการพลังงานจากกระสุน ballistic จึงช่วยลดความรุนแรงของบาดแผล (Smith, 2006)ทหาร และพลเรือน ballistic ป้องกันแบ่งออกเป็นความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา อ่อนตัว แข็ง และเกราะหนักร่างกาย (Gadow & ฟอน Niessen, 2006) เอมส์มิชชั้น (1995), ตามวัสดุแข็งมักจะเรียกแผ่นเกราะ จากสามชนิดของวัสดุ: โลหะ เซรามิก และไฟเบอร์ -เรซิ่นเสริม สองหลักประสิทธิภาพสูงเส้นใยใช้ในเกราะอ่อนเป็น aramid และเอทิลีนเส้นใย พวกเขาจะรู้จักกันดีความหนาแน่นต่ำ แรงสูง และดูดซึม high-energy(Lee, Wetzel และ วากเนอร์ 2003 Shishoo, 2002) ชื่อทางการค้าบางเนื้อผ้าทำจาก aramidเส้นใยรวม ถึง Kevlar1, Twaron1, Technora1 ในขณะที่ทำจากเส้นใยพลาสติกDyneema1 และ Spectra1 (Gadow และ Niessen ฟอน 2006 Grujicic, Arakere เขา Gogulapati& Cheeseman, 2008) ตั้งแต่การแนะนำของ Kevlar ในปี 1975 การตายในสหรัฐอเมริกาทหารจากบาดเจ็บในสงครามได้ลดลงจาก 30% ในการสงครามโลก 24% ในเวียดนาม และ 10% ในอิรัก (Rosenfeld& Lennarson, 2005 Selle, 2004) ความก้าวหน้าในร่างเกราะและสนามรบปฐมมีเหตุผลสำหรับสถิติการอยู่รอดเพิ่มขึ้นแผลที่มีร้ายแรงในอดีต (Connolly2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เสื้อผ้าที่ใช้ป้องกันผลกระทบที่เรียกว่าร่างกายเกราะถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและอื่น ๆ จากกระสุนและเศษ เป็นความก้าวหน้าเทคโนโลยีรุ่นใหม่ของเกราะถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและมีการป้องกันที่เพิ่มขึ้นและความปลอดภัยให้กับทหารโดยการพึ่งพาพลังงานจากกระสุนปืนขีปนาวุธซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของบาดแผล(สมิ ธ , 2006). การป้องกันขีปนาวุธทหารและพลเรือน จะแบ่งออกเป็นความยืดหยุ่นน้ำหนักเบาตัวอ่อนแข็งและเกราะแข็ง(Gadow และฟอน Niessen 2006) ตามที่วัตคินส์ (1995) วัสดุแข็งที่เรียกว่าแผ่นเกราะ, มักจะทำจากสามประเภทของวัสดุ: โลหะเซรามิกและเส้นใยเรซินเสริม สองเส้นใยที่มีประสิทธิภาพสูงหลักที่ใช้ในเสื้อเกราะอ่อนอะรามิดและเอทิลินเส้นใย; พวกเขาเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความหนาแน่นต่ำของพวกเขามีความแข็งแรงสูงและการดูดซึมพลังงานสูง(ลีเวตเซิลและวากเนอร์, 2003; Shishoo, 2002) บางชื่อทางการค้าสำหรับผ้าที่ทำจากอะรามิดเส้นใยรวม Kevlar1, Twaron1 และ Technora1 ในขณะที่ผู้ที่ทำจากเส้นใยพลาสติกชนิดรวมถึงDyneema1 และ Spectra1 (Gadow และฟอน Niessen 2006; Grujicic, Arakere พระองค์, Gogulapati, และ Cheeseman, 2008) . ตั้งแต่การแนะนำของเคฟล่าร์ในปี 1975 ที่ตายทหารสหรัฐจากการบาดเจ็บการต่อสู้ได้ลดลงจาก30% ในสงครามโลกครั้งที่สอง 24% ในเวียดนามและ 10% ในอิรัก (แจสันและLennarson 2005; Selle, 2004) ความก้าวหน้าในร่างกายเกราะและสนามรบการปฐมพยาบาลที่มีเหตุผลสำหรับสถิติที่เพิ่มขึ้นการอยู่รอดของบาดแผลที่จะได้รับอันตรายถึงชีวิตในอดีตที่ผ่านมา (คอนเนลลี่, 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เสื้อผ้าป้องกันผลกระทบที่เรียกว่าเกราะร่างกายถูกใช้เพื่อปกป้องทหารตำรวจ
และอื่น ๆจากกระสุนและเศษ เป็นความก้าวหน้าเทคโนโลยี รุ่นใหม่ของเกราะร่างกาย
ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความคล่องตัว และช่วยเพิ่มการป้องกันและความปลอดภัยให้กับทหารโดย depleting
พลังงานจากกระสุนปืนอย่างบ้าคลั่ง จึงลดความรุนแรงของแผล ( สมิธ2006 ) .
ทหารและการป้องกันขีปนาวุธพลเรือน แบ่งเป็น ยืดหยุ่น น้ำหนักเบา นุ่ม ร่างกายแข็งและ
เกราะหนัก ( gadow &ฟอนนิสเซิ่น , 2006 ) ตามวัต ( 1995 ) , วัสดุแข็ง
เรียกว่าแผ่นเกราะ มักจะทำจากสามประเภทของวัสดุ : โลหะ , เซรามิก , ไฟเบอร์ - เรซินเสริม
.เส้นใยประสิทธิภาพสูงสองหลักที่ใช้ในเกราะอ่อนมีเส้นใย Aramid และพอลิเอทิลีน
; พวกเขาจะรู้จักกันดีสำหรับความหนาแน่นต่ำสูง ความแข็งแกร่ง และดูดซับพลังงาน
( ลี ดาวน์โหลด& , Wagner , 2003 ; shishoo , 2002 ) บางชื่อทางการค้าสำหรับผ้าที่ทำจากเส้นใยอะรามิด
รวม kevlar1 twaron1 , และ technora1 ในขณะที่ผู้ที่ทำจากพลาสติกไฟเบอร์
รวม dyneema1 และ spectra1 ( gadow &ฟอนนิสเซิ่น , 2006 ; grujicic arakere เขา gogulapati , , , ,
&ชีสเมิน , 2008 ) ตั้งแต่การแนะนำของเคฟลาร์ในปี 1975 อัตราการตายสำหรับทหารสหรัฐจาก
การบาดเจ็บการต่อสู้ได้ลดลงจาก 30% ในสงครามโลกครั้งที่สอง ถึง 24 % ในเวียดนาม และ 10% ในอิรัก ( โรเซนเฟลด์
& lennarson , 2005 ; สินค้า , 2004 ) ความก้าวหน้าในเกราะร่างกายและสนามรบปฐมพยาบาลมีเหตุผล
เพื่อเพิ่มสถิติการอยู่รอดของบาดแผลนั้นจะได้รับอันตรายถึงชีวิตในอดีต ( Connolly

, 2004 )