The Internet of Vehicles (IoV) will

The Internet of Vehicles (IoV) will revolutionize the way people get from Point A to Point B. It’s predicted that by 2020, 75% of the world’s cars will be connected to the internet, and according to some analysts, the self-driving car market will pass one million vehicles by 2035. The irony, though, is that the Internet itself could be a roadblock to making IoV a reality.

Like any other Internet application, IoV would rely on massive datacenters to migrate, replicate and store data. The challenge is that today’s large data centers have to charge cloud providers fees to do this, and supporting a complex and dynamic vehicular grid could lead to astronomical fees for those providers – not to mention poor service performance.

Recently published IEEE research, however, suggests one way around this could be transforming roadside sensors such as traffic light cameras and pressure radars into their own miniature data centers. In other words, they find a way to create a unique vehicular cloud using existing infrastructure.

Studies on vehicular clouds are nothing new, but the problem is they’d all theoretically require building new networking architectures from scratch, which could take many years. As an alternative, the researchers explore piecing together a more realistic and cost-effective operational backbone by employing open software-defined networking (SDN) via these existing roadside units, called RSUs.

In their study, the team proposes a high-level architecture for how RSU clouds can be accomplished, represented with the figure below.



RSU cloud image


The team created their own RSU cloud and conducted a comprehensive reconfiguration overhead analysis to make sure it could optimally meet changing service demands.

From a business perspective, the idea is that internet providers would invest directly into bringing SDN capabilities to the streets. As such, they could develop a pay-as-you-go model and avoid upfront data center fees, reducing capital expenditures. Rather than completely replace large datacenters, RSU microdatacenters would work to complement them.

“This is all technically possible today,” said Dr. Mohammad Ali Salahuddin, lead researcher. “There exists plenty of equipment and standard protocol to help set up the microdatacenters with low overhead. This is important because while the Internet of Vehicles promises plenty of lofty consumer benefits, its commercialization depends on how profitable it will be to cloud service providers.”

Of course, consumer benefits are still present and crucial to the equation. Without having to migrate data to a large, faraway data center, the RSU microdatacenter can avoid lag times and respond quicker to shifts in demand. And improved computational performance means safer and more convenient driving for both traditional and autonomous cars. For example, with the datacenter so close to its source, a car could better process and react to environmental information to avoid a blind spot, slow down at a light, or warn of poor road conditions ahead.

Further down the road, there could be a vehicular cloud not only enabled by RSUs, but by the actual vehicles; The University of Michigan has just received a large grant to test moving, onboard cloud service units.

But for now, Salahuddin and his team stay grounded by working on improving load-balancing techniques for the roadside structures.

Read more about the Internet of Vehicles and vehicular cloud on IEEE Xplore.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อินเทอร์เน็ตยานพาหนะ (IoV) จะปฏิวัติวิธีคนได้รับจากจุด A ไปจุด b มันถูกคาดการณ์ว่า ปี 2020, 75% ของรถยนต์ของโลกจะถูกเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และตามนักวิเคราะห์บางคน ตลาดรถขับเองจะผ่านหนึ่งล้านคัน 2578 ประชด แม้ว่า จะว่า อินเทอร์เน็ตจะเป็นพันธมิตรฯ ทำ IoV เป็นจริงIoV จะพึ่งศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อโยกย้าย ทำซ้ำ และจัดเก็บข้อมูลเช่นอินเทอร์เน็ตโปรแกรมประยุกต์ใด ๆ ความท้าทายคือ ว่า วันนี้มีศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มีธรรมเนียมเมฆผู้นี้ และสนับสนุนความซับซ้อน และยานพาหนะตารางแบบไดนามิกอาจนำไปสู่ค่าดาราผู้นั้นไม่ต้องพูดถึงประสิทธิภาพของบริการไม่ดีเมื่อเร็ว ๆ นี้ งานวิจัยตีพิมพ์ใน IEEE อย่างไรก็ตาม แนะวิธีหนึ่งรอบนี้อาจจะเปลี่ยนเซ็นเซอร์ริมถนนเช่นกล้องไฟและอาคารความดันเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กของตนเอง ในคำอื่น ๆ พวกเขาสามารถหาวิธีที่จะสร้างมีเมฆเฉพาะยานพาหนะที่ใช้โครงสร้างที่มีอยู่ศึกษาในยานพาหนะมีอะไรใหม่ แต่ปัญหาคือ พวกเขาทั้งหมดในทางทฤษฎีต้องมีอาคารสถาปัตยกรรมเครือข่ายใหม่จากรอยขีดข่วน ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี เป็นทางเลือก นักวิจัยสำรวจ piecing สมจริง และประสิทธิภาพการทำงานกระดูกสันหลังเข้าด้วยกัน โดยใช้เครือข่ายในการกำหนดซอฟต์แวร์เปิด (SDN) ผ่านหน่วยบริการที่มีอยู่ เรียกว่า RSUsในการศึกษา ทีมนำเสนอสถาปัตยกรรมระดับสูงสำหรับวิธีอาร์เอสยูเมฆสามารถทำได้ มีภาพด้านล่างนั้น ภาพเมฆอาร์เอสยู ทีมสร้างเมฆอาร์เอสยูของตนเอง และวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายในการครอบคลุมการกำหนดค่าใหม่ให้แน่ใจว่า มันสามารถตอบสนองความต้องการบริการการเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสมจากมุมมองของธุรกิจ ความคิดคือการ ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตต้องลงทุนโดยตรงในการนำความสามารถของ SDN ที่ถนน เช่นนี้ พวกเขาสามารถพัฒนาแบบจำลองค่า และค่าศูนย์ข้อมูลล่วงหน้า การลดค่าใช้จ่ายทุน แทนที่สมบูรณ์แทนศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ microdatacenters อาร์เอสยูจะทำงานเพื่อพวกเขา"เป็นไปได้ทั้งหมดเทคนิควันนี้ กล่าวว่า ดร. Mohammad Ali ฮุด นำนักวิจัย "มีอยู่มากมายของอุปกรณ์และมาตรฐานโพรโทคอลเพื่อช่วยตั้งค่า microdatacenters ด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ นี้เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากในขณะที่อินเทอร์เน็ตรถสัญญาสิทธิประโยชน์ผู้บริโภคสูงส่งมากมาย commercialization ของขึ้นอยู่กับวิธีทำกำไรก็จะมีการผู้ให้บริการคลาวด์"แน่นอน ผลประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นสำคัญสมการ และปัจจุบันยังคง โดยไม่ต้องย้ายข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ห่างไกล microdatacenter อาร์เอสยูสามารถหลีกเลี่ยงการหน่วงเวลา และตอบสนองในความต้องการเร็ว และคำนวณประสิทธิภาพหมายความ ปลอดภัย และสะดวกสบายขับรถสำหรับรถยนต์ทั้งแบบดั้งเดิม และเขตปกครองตนเอง ตัวอย่าง กับศูนย์ข้อมูลให้ใกล้แหล่ง รถอาจดีขึ้น กระบวนการและตอบสนองกับข้อมูลสิ่งแวดล้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการมีจุดบอด ช้าลงที่ไฟ หรือเตือนสภาพถนนไม่ดีข้างหน้าต่อไป ลงที่ถนน อาจมีเมฆยานพาหนะไม่เพียง เปิดใช้งาน โดย RSUs แต่ รถจริง มหาวิทยาลัยมิชิแกนเพียงได้รับการทดสอบหน่วยบริการเมฆเคลื่อน onboard ให้ใหญ่แต่สำหรับตอนนี้ ฮุดและทีมของเขาพักดิน โดยดำเนินการปรับปรุงเทคนิคการสมดุลสำหรับโครงสร้างริมถนนอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตของยานพาหนะและยานพาหนะระบบคลาวด์ใน IEEE Xplore

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินเทอร์เน็ตของยานพาหนะ (IOV) จะปฏิวัติวิธีที่ผู้คนได้รับจากจุด A ไปยังจุด B มันคาดการณ์ว่าในปี 2020, 75% ของรถยนต์ของโลกจะมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์บางรถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ตลาดจะผ่านหนึ่งล้านในปี 2035 โดยยานพาหนะประชด แต่เป็นที่ Internet เองอาจจะมีสิ่งกีดขวางบนถนนที่จะทำให้ IOV เป็นจริงได้. เช่นเดียวกับโปรแกรมอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ IOV จะพึ่งพาดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่จะโยกย้ายทำซ้ำและเก็บข้อมูล ความท้าทายคือการที่ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ของวันนี้ได้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการคลาวด์ที่จะทำเช่นนี้และการสนับสนุนที่มีความซับซ้อนและแบบไดนามิกตารางพาหนะอาจนำไปสู่ค่าธรรมเนียมดาราศาสตร์สำหรับผู้ให้บริการเหล่านั้น -. ไม่พูดถึงประสิทธิภาพการบริการที่ไม่ดีตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้การวิจัย IEEE แต่แสดงให้เห็น วิธีหนึ่งที่รอบนี้อาจจะเปลี่ยนเซ็นเซอร์ริมถนนเช่นกล้องสัญญาณไฟจราจรและเรดาร์ดันเข้าไปในศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กของตัวเอง ในคำอื่น ๆ ที่พวกเขาหาวิธีที่จะสร้างระบบคลาวด์เป็นพาหนะที่ไม่ซ้ำกันโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่. การศึกษาเกี่ยวกับเมฆเป็นพาหนะมีอะไรใหม่ แต่ปัญหาคือพวกเขาต้องการทั้งหมดในทางทฤษฎีต้องมีการสร้างสถาปัตยกรรมเครือข่ายใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี เป็นทางเลือกให้นักวิจัยสำรวจปะติดปะต่อสมจริงมากขึ้นและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพกระดูกสันหลังในการดำเนินงานโดยการใช้ซอฟแวร์ที่กำหนดเปิดเครือข่าย (SDN) ผ่านทางเหล่านี้หน่วยริมถนนที่มีอยู่เรียกว่า RSUs. ในการศึกษาของพวกเขาทีมเสนอสถาปัตยกรรมระดับสูงสำหรับ วิธีเมฆ RSU สามารถทำได้แทนด้วยรูปด้านล่าง. ภาพ RSU เมฆทีมสร้างเมฆ RSU ของตัวเองและดำเนินการวิเคราะห์การปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมเพื่อให้แน่ใจว่าดีที่สุดสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงบริการ. จากมุมมองของธุรกิจ, ความคิดที่ว่า ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะลงทุนโดยตรงในการนำความสามารถ SDN ไปตามถนน เช่นนี้พวกเขาสามารถพัฒนาจ่าย as-you-go รูปแบบและหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมล่วงหน้าศูนย์ข้อมูลการลดค่าใช้จ่ายทุน แทนที่จะแทนที่ดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ microdatacenters RSU จะทำงานเพื่อเติมเต็มพวกเขา. "นี่คือทั้งหมดในวันนี้เป็นไปได้ในทางเทคนิค" ดร. โมฮัมมัดอาลี Salahuddin, นักวิจัยนำกล่าวว่า "มีความอุดมสมบูรณ์ของอุปกรณ์และโปรโตคอลมาตรฐานที่มีอยู่เพื่อช่วยในการจัดตั้ง microdatacenters ที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ นี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะในขณะที่อินเทอร์เน็ตของยานพาหนะสัญญาสิทธิประโยชน์มากมายของผู้บริโภคที่สูงส่งในเชิงพาณิชย์ขึ้นอยู่กับวิธีการทำกำไรก็จะเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์. " แน่นอนว่าผลประโยชน์ของผู้บริโภคยังคงอยู่ในปัจจุบันและที่สำคัญสมการ โดยไม่ต้องมีการโยกย้ายข้อมูลที่มีขนาดใหญ่, ศูนย์ข้อมูลที่ห่างไกลที่ microdatacenter RSU สามารถหลีกเลี่ยงความล่าช้าครั้งและตอบสนองรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงในความต้องการ และการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์หมายถึงการขับขี่ที่ปลอดภัยและสะดวกมากขึ้นสำหรับรถยนต์ทั้งแบบดั้งเดิมและการปกครองตนเอง ตัวอย่างเช่นกับดาต้าเซ็นเตอร์ให้ใกล้เคียงกับแหล่งที่มาของรถอาจจะดีกว่ากระบวนการและการตอบสนองต่อข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการจุดบอดชะลอตัวลงที่แสงหรือเตือนสภาพถนนไม่ดีข้างหน้า. ต่อไปลงที่ถนนอาจจะมี มีเมฆเป็นพาหนะไม่เปิดใช้งานโดยเฉพาะ RSUs แต่โดยยานพาหนะที่เกิดขึ้นจริง มหาวิทยาลัยมิชิแกนเพิ่งได้รับทุนขนาดใหญ่เพื่อทดสอบย้าย onboard หน่วยบริการคลาวด์. แต่ตอนนี้ Salahuddin และทีมงานของเขาอยู่ลงดินโดยการทำงานในการปรับปรุงเทคนิคดุลการโหลดสำหรับโครงสร้างริมถนน. อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตของยานพาหนะและ เมฆเป็นพาหนะใน IEEE Xplore