In addition, students tend to avoid

In addition, students tend to avoid precise hypotheses, which have a high risk of being rejected (Klayman & Ha, 1987; Klahr et al., 1993). In the experimentation stage, students often design inconclusive experiments, or experiments that do not test their hypotheses (De Jong & Van Joolingen, 1998) . Finally, when it comes to interpreting experimental evidence, students tend to ignore, reject, or misinterpret data that do not fit into their existing theories (Chinn & Brewer, 1993; Kuhn et al., 1995).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นอกจากนี้นักเรียนมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการตั้งสมมติฐานที่แม่นยำซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการถูกปฏิเสธ (Klayman &ฮ่า, 1987;. klahr, et al, 1993) อยู่ในขั้นตอนการทดลองที่นักเรียนมักจะออกแบบการทดลองพิสูจน์ไม่ได้หรือการทดลองที่ไม่ได้ทดสอบสมมติฐานของพวกเขา (เดอ jong &รถตู้ joolingen, 1998) ในที่สุดเมื่อมันมาถึงการตีความหลักฐานการทดลองนักเรียนมีแนวโน้มที่จะละเว้นปฏิเสธหรือตีความผิดข้อมูลที่ไม่เหมาะสมเข้าไปในทฤษฎีที่มีอยู่ของพวกเขา (Chinn &เหล้า, 1993;. Kuhn, et al, 1995)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้ นักเรียนมักจะ หลีกเลี่ยงสมมุติฐานแม่นยำ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงของการปฏิเสธ (Klayman &ฮา 1987 Klahr et al., 1993) ในขั้นทดลอง นักเรียนมักจะออกทดลอง inconclusive หรือที่ทดสอบสมมุติฐานของการทดลอง (De Jong & Van Joolingen, 1998) สุดท้าย เมื่อมันมาถึงการตีความหลักฐานทดลอง นักเรียนมักจะ ละเว้น ปฏิเสธ หรือข้อมูลที่ไม่เหมาะของทฤษฎีที่มีอยู่ที่คนตีความผิด (Chinn & Brewer, 1993 Kuhn et al., 1995)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการเพิ่มนักศึกษามีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงข้อสมมุติได้อย่างแม่นยำซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการถูกปฏิเสธ( klayman & Ha Long 1987 klahr et al . 1993 ) ในระยะทดลองที่นักเรียนมักจะออกแบบการทดลองหรือการทดลองไม่สามารถระบุได้หรือไม่ว่าไม่ได้ทำการทดสอบการข้อสมมุติ( de joolingen ทราเบลซี&รถตู้ 1998 ) ประการสุดท้ายเมื่อเป็นการตีความหลักฐานทดลองนักศึกษามีแนวโน้มที่จะไม่สนใจปฏิเสธแปลผิดหรือข้อมูลที่ไม่พอดีกับทฤษฎีที่มีอยู่ของพวกเขา( chinn &อัโนมัติ 1993 กล่าวถึงเรื่องนี้ et al . 1995 )