The report found that: •Between 199

The report found that:
•Between 1997 and 2010 the UK saw the largest increase in public spending as share of national income of any comparable industrialised country.
•Tax receipts remained stable between 36.2% to 38.7% of GDP but public spending rocketed from 34.6% of GDP in 2000 to 47.4%, in 2010 - a level not seen since the UK’s IMF bailout in 1976. Half of this increase had occurred by 2005 - well before the recession. The UK entered the financial crisis with a significant fiscal deficit, limiting its ability to tackle the recession.
•Public sector net borrowing in 2010 was higher than at any time since records began in 1948 and higher than any member of the G20 except the United States.
•The UK is projected to borrow an additional £371 billion between 2013/14 and 2017/18, increasing the public sector net debt to a total of £1.47 trillion.

The new fiscal rules would complement the Chancellor’s recent announcement to run a budget surplus by the end of the next Parliament. To consolidate these gains it will be necessary to develop longer-term fiscal institutions which respond to economic needs outside those of the electoral cycle.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รายงานพบว่า:
•ระหว่างปี 1997 และ 2010 สหราชอาณาจักรเห็นเพิ่มขึ้นมากที่สุดในการใช้จ่ายของประชาชนในขณะที่ส่วนแบ่งของรายได้ประชาชาติของประเทศอุตสาหกรรมเปรียบใด ๆ
•ใบเสร็จรับเงินภาษีคงที่ระหว่าง 36.2% ถึง 38.7% ของ GDP แต่การใช้จ่ายสาธารณะพุ่งจาก 34.6% ของ GDP ในปี 2000-47.4% ในปี 2010 - ระดับไม่เห็นตั้งแต่ IMF bailout ของสหราชอาณาจักรในปี 1976 ครึ่งหนึ่งของการเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นในปี 2005 - ก่อนที่จะมีภาวะเศรษฐกิจถดถอย สหราชอาณาจักรเข้าสู่วิกฤตทางการเงินที่มีการขาดดุลการคลังอย่างมีนัยสำคัญ จำกัด ความสามารถในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
•ภาครัฐการกู้ยืมสุทธิในปี 2010 สูงกว่าในเวลาใด ๆ ตั้งแต่เริ่มบันทึกในปี 1948 และสูงกว่าสมาชิกใด ๆ ของ G20 ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกา .
•สหราชอาณาจักรคาดว่าจะกู้เพิ่มเติม£ 371000000000 ระหว่าง 2013/14 และ 2017/18 เพิ่มขึ้นหนี้สินสุทธิของภาครัฐรวม£ 1470000000000 กฎบัญชีใหม่จะช่วยเสริมนายกรัฐมนตรีประกาศล่าสุดในการเรียกใช้งบประมาณ ส่วนเกินโดยในตอนท้ายของรัฐสภาต่อไป ที่จะรวมกำไรเหล่านี้มันจะมีความจำเป็นในการพัฒนาในระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจนอกของวงจรการเลือกตั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รายงานพบว่าระหว่างปี พ.ศ. 2540 และ 2553 :
- UK เห็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในการใช้จ่ายสาธารณะเป็นหุ้นของรายได้ประชาชาติของประเทศอุตสาหกรรมใดเปรียบ .
- ใบเสร็จรับเงินภาษียังคงมีเสถียรภาพระหว่าง 36.2% ถึง 38.7 % ของจีดีพี แต่การใช้จ่ายสาธารณะบรรทุก จากร้อยละ 34.6 % ของ GDP ในปี 2543 ถึง 47.4 เปอร์เซ็นต์ใน 2010 . ระดับที่ไม่ได้เห็นตั้งแต่สหราชอาณาจักร bailout IMF ใน 1976 .ครึ่งหนึ่งของการเพิ่มขึ้นนี้ได้เกิดขึ้นในปี 2548 - ก่อนที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อังกฤษเข้าสู่วิกฤตทางการเงินกับการขาดดุลการคลัง การจํากัดความสามารถในการรับมือกับภาวะถดถอย .
ภาครัฐ - เงินกู้ยืมสุทธิในปี 2553 สูงกว่าตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มบันทึกในปี 1948 และสูงกว่าสมาชิกใด ๆของประเทศยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกา .
บริการ UK คาดว่าจะยืมเพิ่มเติมกว่า 371 ล้านบาทระหว่างปี 2013 / 14 1 / 18 , เพิ่มหนี้ภาครัฐสุทธิรวมลดลง 1.47 ล้านล้าน

ใหม่การคลังกฎจะเติมเต็มนายกรัฐมนตรีประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้จะใช้งบประมาณเกินดุล โดยจุดสิ้นสุดของรัฐสภาต่อไปรวมผลประโยชน์เหล่านี้ก็จะต้องพัฒนาสถาบันการคลังในระยะยาว ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการทางเศรษฐกิจภายนอกของวัฏจักรการเลือกตั้ง .