Abstract: Dental care is consistent

Abstract: Dental care is consistently reported as one of the primary medical needs of children with disabilities (IDC). The aim of the present study was to explore the influence of oral health behaviors on the caries experience in children with intellectual disabilities in Guangzhou, China. A cross-sectional study was carried out in 477 intellectually disabled children, 12 to 17 years old, who were randomly selected from special educational schools in Guangzhou. A self-administered parental questionnaire was used to collect data on socio-demographic characteristics and oral health behavior variables, and 450 valid questionnaires were returned. Multiple regression analysis was used to examine the factors associated with dental caries. The average age of those in the sample was 14.6 years (SD = 1.3), 68.4% of whom were male, and the caries prevalence rate was 53.5% (DMFT = 1.5 ± 2.0). The factors significantly affecting the development of dental caries in IDC included gender, the presence
or absence of cerebral palsy, and the frequency of dental visits and toothbrushing. In conclusion, the presence of cerebral palsy contributed to an increase risk of caries experience in intellectually disabled children, while toothbrushing more than twice a day and routine dental visits were caries-protective factors. Oral health promotion action may lead to a reduction in dental caries levels in IDC.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ: ดูแลสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอรายงานเป็นหนึ่งของความต้องการทางการแพทย์หลักของเด็กพิการ (IDC) จุดมุ่งหมายของการศึกษาปัจจุบันมีการ สำรวจอิทธิพลของพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากในประสบการณ์ผุในเด็กมีความพิการทางปัญญาในกวางเจา จีน การศึกษาเหลวถูกดำเนินใน 477 คนพิการสติปัญญาเด็ก 12-17 ปี สุ่มเลือกจากโรงเรียนศึกษาพิเศษในกวางเจา ใช้แบบสอบถามโดยผู้ปกครองที่ปกครองตนเองในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางประชากรสังคมและตัวแปรพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก และ 450 ถูกต้องแบบสอบถามถูกส่งกลับ วิเคราะห์การถดถอยหลายถูกใช้เพื่อตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับฟันผุ อายุเฉลี่ยของผู้ที่อยู่ในตัวอย่าง 14.6 ปี (SD = 1.3), 68.4% คนมีชาย และ 53.5% มีอัตราการผุ (DMFT = 1.5 ± 2.0) ปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาของฟันผุใน IDC อย่างมีนัยสำคัญรวมเพศ สถานะหรือของสมอง และความถี่ของการเข้าชมทันตกรรมและ toothbrushing เบียดเบียน ส่วนของสมองมีความเสี่ยงเพิ่มประสบการณ์ผุในเด็กพิการสติปัญญา ในขณะที่ toothbrushing มากกว่าสองวัน และเยี่ยมชมทันตกรรมประจำมีปัจจัยป้องกันผุ ดำเนินการส่งเสริมสุขภาพช่องปากอาจทำให้ลดระดับฟันผุใน IDC

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ: การดูแลทันตกรรมมีรายงานอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในความต้องการทางการแพทย์หลักของเด็กที่มีความพิการ (IDC) จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจอิทธิพลของพฤติกรรมสุขภาพช่องปากกับประสบการณ์ฟันผุในเด็กที่มีความพิการทางปัญญาในกวางโจวประเทศจีน การศึกษาแบบตัดขวางได้ดำเนินการใน 477 เด็กพิการทางสติปัญญา, 12 ถึง 17 ปีที่ถูกสุ่มเลือกจากโรงเรียนการศึกษาพิเศษในกวางโจว แบบสอบถามผู้ปกครองด้วยตนเองในผู้ถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางสังคมและประชากรและตัวแปรพฤติกรรมสุขภาพช่องปากและ 450 แบบสอบถามที่ถูกต้องถูกส่งกลับมา การวิเคราะห์การถดถอยหลายถูกใช้ในการตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคฟันผุ อายุเฉลี่ยของผู้ที่อยู่ในกลุ่มตัวอย่างเป็น 14.6 ปี (SD = 1.3), 68.4% ของคนที่เป็นเพศชายและโรคฟันผุอัตราความชุกเป็น 53.5% (ฟันผุถอนอุด = 1.5 ± 2.0) ปัจจัยที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในการพัฒนาของโรคฟันผุใน IDC รวมเพศ, การแสดงตน
หรือไม่มีสมองพิการและความถี่ของการเข้าชมทันตกรรมและการแปรงฟัน สรุปได้ว่าการปรากฏตัวของสมองพิการส่วนร่วมในการเพิ่มความเสี่ยงของการผุของฟันในเด็กพิการทางสติปัญญาในขณะที่แปรงฟันมากกว่าวันละสองครั้งและการเข้าชมทันตกรรมประจำเป็นปัจจัยป้องกันโรคฟันผุ ช่องปากการดำเนินการส่งเสริมสุขภาพอาจนำไปสู่การลดลงในระดับโรคฟันผุในไอดีซี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อ : การดูแลฟันอย่างต่อเนื่อง รายงานว่าเป็นหนึ่งในแพทย์ต้องการหลักของเด็กพิการ ( IDC ) จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาผลกระทบของสุขภาพช่องปาก พฤติกรรมในการประสบการณ์ในเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาในกว่างโจว , จีน เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวางในที่เด็กพิการทางสติปัญญา , 12 ถึง 17 ปีซึ่งสุ่มจากโรงเรียนการศึกษาพิเศษในกวางโจว ผู้ปกครองเพื่อสำรวจโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางประชากรและสังคมและตัวแปรพฤติกรรมทันตสุขภาพที่ถูกต้อง และ 450 คน ได้รับแบบสอบถามคืน การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณที่ใช้เพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคฟันผุ . อายุเฉลี่ยของคนจำนวน 146 ปี ( SD = 1.3 ) , 42.9 % ของผู้ที่เป็นเพศชาย และผุ อัตราความชุกเป็นร้อยละ 53.5 dmft = 1.5 ± 2.0 ) ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการของการเกิดโรคฟันผุใน IDC รวมเพศ , การแสดง
หรือขาดสมองพิการ และความถี่ของการเข้าชมฟัน และการแปรงฟัน . สรุปการปรากฏตัวของสมองพิการมีส่วนเพิ่มความเสี่ยงของโรคฟันผุในเด็กพิการ สติปัญญา ประสบการณ์ ส่วนการแปรงฟันมากกว่าสองครั้งต่อวันและเยี่ยมชมทันตกรรมตามปกติ เป็นปัจจัยที่ป้องกันโรคฟันผุ การส่งเสริมสุขภาพช่องปาก อาจนำไปสู่การลดลงในระดับของการเกิดโรคฟันผุใน IDC